ช่างภาพมือใหม่อาจให้ความสำคัญกับกล้องและเลนส์ราคาแพงๆ เพื่อให้ภาพถ่ายมีคุณภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่สุดท้ายกลับต้องตกม้าตายเพราะงานที่ลูกค้าได้เห็นกลับกลายเป็นสีเพี้ยนไม่สวยเหมือนที่คิด นั่นก็เพราะจอภาพที่ถือเป็นปราการด่านสุดท้ายที่คุณนำมาใช้งานตกแต่งปรับแสงสี รีทัช มีคุณภาพ “ไม่ถึง” หมายความว่ามันไม่สามารถแสดงสีสันได้อย่างถูกต้องเที่ยงตรงตามมาตรฐาน ความผิดเพี้ยนจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าคุณยังไม่เชื่อ และคิดว่าจอภาพไหนก็เหมือนกันหมด ลองอ่านข้อมูลเกี่ยวกับจอภาพสำหรับการตกแต่งภาพที่เรานำมาฝาก แล้วคุณจะรู้ว่ามันแตกต่างจากจอภาพทั่วไปอย่างไร และหากต้องการเลือกซื้อจะควรต้องพิจารณาอะไรบ้าง?
พาเนล
จอภาพทั่วไปที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้สามารถแยกความแตกต่างได้การดูชนิดของพาเนล ซึ่งมี 3 แบบคือ TN Panels, VA Panels และ IPS Panels ซึ่งถ้าเป็นจอภาพสำหรับแต่งภาพ จะต้องเป็นจอภาพที่ใช้พาเนล IPS เท่านั้น เนื่องจากมีคุณสมบัติให้ความแม่นยำของสีที่สูง ให้มุมมองที่กว้าง สีไม่ผิดเพี้ยนไปมากนักเมื่อมองจากด้านข้างหรือด้านบน โดยเฉพาะเวลาที่ลูกค้ามายืนดูงานอยู่ข้างๆ จะได้มั่นใจว่าเห็นสีเหมือนกันกับเรา
ความกว้างของช่วงสี
ขอบเขตของช่วงสีหรือการแสดงผลสีที่จอแสดงได้เราเรียกว่า Color Gamut ซึ่งจอภาพแบบทั่วไปจะมีสเปคของ Color Gamut ที่ไม่กว้างนัก ต่างจากจอภาพสำหรับแต่งภาพที่จะสามารถแสดงผลค่าสีได้กว้างครอบคลุมมาตรฐาน sRGB หรือ Adobe RGB ได้ถึง 99-100% (จอที่ใช้ในออฟฟิศทั่วไปโดยส่วนมากแสดงได้เพียง 60-70% เท่านั้น) ยิ่งค่านี้สูงเท่าไหร่ก็หมายความว่าสามารถแสดงเฉดสีได้มากกว่าละเอียดกว่าครอบคลุมยิ่งกว่าโดยเฉพาะในส่วนของโทนสีฟ้าและสีเขียว ช่วยให้การแสดงภาพถ่ายธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้า น้ำทะเล ผิวคน จะมีสีสันที่ถูกต้องแม่นยำ สมจริงใกล้เคียงกับตาเห็น
BenQ SW240 ที่มี Color Gamut 100% sRGB และ 99% Adobe RGB
Hardware Calibration
จอแต่งภาพที่ดีควรรองรับการปรับสีแบบ Hardware Calibration ได้ด้วย ซึ่งช่วยให้เราสามารถคาลิเบรทจอภาพได้โดยไม่กระทบกับการส่งข้อมูลของกราฟิกการ์ด หรืออย่างน้อยควรได้รับการคาลิเบรทตั้งค่ามาจากโรงงานให้มั่นใจว่าสีสันที่เห็นบนจอนั้นมีความแม่นยำ
Palette Master Element ซอฟท์แวร์สำหรับการทำฮาร์ดแวร์คาริเบท จากผู้ผลิตจอมอนิเตอร์ทำงานร่วมกับอุปกรณ์คาลิเบรทที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดอย่าง X-Rite หรือ Spyder
ขนาดและความละเอียด
ขนาดหน้าจอก็มีความสำคัญแต่ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและโต๊ะทำงานที่ใช้ โดยทั่วไปจอแต่งภาพควรมีขนาดใหญ่เพื่อที่จะสามารถมองเห็นองค์ประกอบรวมของภาพทั้งภาพได้เต็มตา และมีพื้นที่มากพอสำหรับเครื่องมือปรับแต่งของโปรแกรมต่างๆ ส่วนเรื่องของความละเอียดนั้นขนาด FHD จะเป็นพื้นฐาน หากต้องการพื้นที่การทำงานมากขึ้นอาจจะขยับเป็นความละเอียด QHD หรือ 4K ได้ตามงบประมาณที่มี
ลักษณะหน้าจอ
จอภาพโดยทั่วไปจะมีสองประเภทคือจอด้าน (Anti-Glare) และจอแบบมันวาว (Glossy) ซึ่งจอภาพแบบมันวาวอาจจะไม่เหมาะกับการนำมาใช้เป็นจอแต่งภาพเนื่องจากแสงสะท้อนจากสภาพแวดล้อมจะรบกวนสายตาและอาจส่งผลให้การปรับแต่งเกิดความผิดพลาด ในขณะที่จอภาพแบบด้านจะมีการเพิ่มชั้นฟิลเตอร์ป้องกันแสงสะท้อน นอกจากจะมองเห็นสีสันบนจอได้ชัดกว่า ยังลดอาการเมื่อยล้าของตาเมื่อต้องใช้งานเป็นเวลานานๆ
จอแต่งภาพควรเลือกใช้แบบจอด้าน (Anti-Glare) เพราะจอแบบมันวาว (Glossy) จะมีแสงสะท้อนปรากฏรบกวนสายตา
Bit-Depth
Bit Depth คือจำนวนสีที่จอภาพสามารถแสดงผลได้ จอแต่งภาพที่ดีควรมี Bit Depth ไม่ต่ำกว่า 8 บิตซึ่งจะสามารถแสดงสีได้ 16.7 ล้านสี หรือหากเป็นจอภาพรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงจะมี Bit Depth ที่สูงถึง 10 บิต หรือแสดงสีได้มากกว่า 1,000 ล้านสี (จอมอนิเตอร์ทั่วไปมี Bit Depth 6 บิต แสดงสีได้แค่ 262,144 สี) ดังนั้นยิ่งจอแต่งภาพสามารถแสดงผลสีได้มากเท่าไหร่ การไล่โทนภาพที่มีสีใกล้เคียงกันก็จะเนียนยิ่งขึ้น ลดปัญหาการเกิด Posterization Effects (Banding) ทำให้การแต่งภาพทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การออกแบบและฟังก์ชันสำหรับช่างภาพ
Color Mode Control
จอแต่งภาพบางรุ่นจะมาพร้อมโหมดพิเศษที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการแต่งภาพโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น Color Mode Hot Key ที่ช่วยให้สามารถสสับเลือกรับชมภาพในแต่ละโหมดสี (Color Mode) ที่ใช้งานบ่อยๆ เช่น sRGB, Adobe RGB, Black & White ได้โดยไม่ต้องกดปุ่ม OSD เข้าเมนูลึกๆ ให้เสียเวลา
จอแต่งภาพ BenQ SW240 มีปุ่ม Hot Key ที่สามารถเปรียบเทียบรูปภาพในโหมด Adobe RGB / sRGB / B+W ได้ทันทีด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว
Hood กันแสง
จอแต่งภาพบางรุ่นสามารถติดตั้ง Hood ได้ด้วย โดย Hood กันแสงสามารถช่วยลดแสงจ้าบนหน้าจอที่เกิดจากแสงโดยรอบลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าสีที่มองเห็นมีความถูกต้องแม่นยำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแบบมืออาชีพ
จอแต่งภาพ BenQ SW240 สามารถติดตั้ง Hood กันแสงได้ (อุปกรณ์เสริม) โดยสามารถใช้งานทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน
พอร์ตเชื่อมต่อ
พอร์ตเชื่อมต่อของจอภาพก็เป็นส่วนสำคัญและควรตรวจสอบให้ดีว่าสามารถเชื่อมต่อเพื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เดิมที่มีอยู่ได้หรือไม่ โดยจอแต่งภาพที่ดีนั้นจะต้องมีพอร์ตเชื่อมต่อที่สำคัญมาให้ครบ ไม่ว่าจะเป็น HDMI, Display Port, DVI รวมไปถึงถ้ามีพอร์ต USB และ Card Reader ด้วยจะยิ่งทำให้การใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
จอแต่งภาพ BenQ SW240 มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง HDMI, Display Port, DVI รวมไปถึง USB Hub และ Card Reader Slot (SD-MMC)
การเลือกจอภาพสำหรับงานแต่งภาพมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการใช้กล้องและเลนส์ดีๆ เพราะจอภาพคือปราการด่านสุดท้ายที่คุณจะมองเห็นภาพเพื่อแต่งเติมปรับรายละเอียดให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบตามที่คุณต้องการได้อย่างแม่นยำไม่ผิดเพี้ยน
BenQ SW Series เป็นจอภาพสำหรับงานแต่งภาพอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับช่างภาพหรือคนที่ต้องการจอภาพที่สามารถแสดงสีได้อย่างเที่ยงตรงตามมาตรฐานเพราะสามารถแสดงค่าสี 100% sRGB และ 99% AdobeRGB โดยมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 24” 27” และ 31.5” ตามความเหมาะสมของพื้นที่ทำงาน
BenQ SW240 ที่นำมาเป็นตัวอย่างในการเลือกซื้อครั้งนี้มีขนาดหน้าจอ 24” ความละเอียด 1920x1200 (อัตราส่วน 16:10) ให้พื้นที่ในการทำงานกว้างเต็มตา โดยมีเทคโนโลยี AQCOLOR ที่ร่วมพัฒนาโดย CC (International Color Consortium) และ ISO (International Standard Organization) เพื่อพัฒนาความสามารถในการแสดงผลให้เป็นไปตามมาตรฐานสีระดับมืออาชีพ นอกจากตัวจอภาพจะถูกคาลิเบรทมาจากโรงงานเพื่อให้คุณพร้อมใช้งานทันทีที่แกะกล่องแล้ว ยังรองรับฮาร์ดแวร์คาลิเบรทและรองรับการแสดงค่าสีระดับ 10 บิตอีกด้วย
จอแต่งภาพ BenQ SW Series 100% sRGB, 99% AdobeRGB
BenQ Website: http://bit.ly/2JiQMxM
BenQ Official Store: https://s.tenmax.io/Pz54u