แม้เทคโนโลยีสมาร์ทโฟนจอพับจะไม่ใช่เรื่องใหม่ในอุตสาหกรรม แต่สิ่งที่ยังเป็น “ความท้าทาย” สำหรับแบรนด์ผู้ผลิตคือการทำให้เทคโนโลยีนั้น “ตอบโจทย์ชีวิตจริง” มากกว่าจะเป็นแค่โชว์นวัตกรรมให้ว้าวชั่วคราว จึงเป็นที่มาของความ “บาง เบา ทรงพลัง” ซึ่งซัมซุงใช้หัวใจหลักในการพัฒนาสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นล่าสุด อย่าง Galaxy Z Fold7 และ Galaxy Z Flip7 เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้ใช้ยุคปัจจุบันว่า สมาร์ทโฟนจอพับ จะพับได้อย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องพกพาง่ายใช้คล่องในทุกวัน
พับได้ ก็ต้องใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
ความสามารถในการพับหน้าจออาจเคยเป็นจุดขายของสมาร์ทโฟนยุคใหม่ แต่ในความเป็นจริง อินไซต์จากผู้ใช้ทั่วโลกกลับสะท้อนเสียงเดียวกันว่า "พับได้" ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย หากยังพกพาไม่สะดวกหรือใช้งานไม่คล่องตัว ซัมซุงจึงพลิกโจทย์การออกแบบครั้งใหญ่ ด้วยการยกระดับ Galaxy Z Fold7 และ Z Flip7 ให้กลายเป็นสมาร์ทโฟนจอพับที่ “พกง่าย ใช้คล่อง” อย่างแท้จริง โดย Galaxy Z Fold7 มาพร้อมน้ำหนักเพียง 215 กรัม และบางที่สุดในตระกูลเพียง 4.2 มม. เมื่อกางออก ส่วน Z Flip7 ก็ถือว่าทำสถิติใหม่ด้วยความบางเพียง 13.7 มม. และเบาเพียง 188 กรัม จนแทบไม่รู้สึกว่าถือสมาร์ทโฟนจอพับอยู่ในมือ ที่สำคัญ การลดน้ำหนักและความหนาไม่ได้แลกมาด้วยการลดสเปกแต่อย่างใด เพราะเบื้องหลังความบางเบานี้คือชุดเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่หน้าจอพับ Ultra Thin Glass (UTG) รุ่นล่าสุด บานพับ FlexHinge ที่ได้รับการปรับปรุงให้ทนทานยิ่งขึ้น ไปจนถึงเฟรม Armor Aluminum ที่ทั้งแข็งแรงและรองรับแรงกระแทกได้ดีกว่าที่เคย
ซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทั้งที ถือต้องรู้ว่าใหม่
ผู้ใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มักต้องการแสดงความทันสมัยและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์และสถานะทางสังคมว่าตนเองตามเทรนด์ล่าสุด สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ต้องมาจากดีไซน์ที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เช่น รูปทรงตัวเครื่อง วัสดุ สีสัน หรือขนาดหน้าจอที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และฟีเจอร์ต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้งานจริง สอดคล้องกับซัมซุงที่พัฒนาสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นใหม่ล่าสุด อย่าง Galaxy Z Flip7 ขยายหน้าจอ Super AMOLED FlexWindow เป็นขนาด 4.1 นิ้ว ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Galaxy Z Flip พร้อมการใช้งานเต็มพื้นที่ขอบจรดขอบ จนคนรอบข้างต้องทัก เพราะถือก็รู้ว่าใหม่
กล้องจอพับ ก็ถ่ายภาพระดับโปร
สมาร์ทโฟนจอพับมักถูกมองว่าเป็นอุปกรณ์โชว์นวัตกรรมมากกว่าจะตอบโจทย์ใช้งานจริง โดยเฉพาะเรื่อง “กล้อง” ที่หลายคนยอมรับว่า “ยังไม่ถึง” เทียบกับมือถือเรือธงแบบจอปกติ ล่าสุด ซัมซุงได้ยกระดับคุณภาพกล้องในสมาร์ทโฟนจอพับด้วยการเปิดเกมรุกใน Galaxy Z Fold7 ที่มาพร้อมกล้องความละเอียด 200MP เสริมด้วย ProVisual Engine และระบบ AI-enhanced imaging ที่เน้นถ่ายภาพในทุกสภาพแสงได้อย่างคมชัด ขณะที่ Galaxy Z Flip7 ก็ใช้เซ็นเซอร์ระดับแฟลกชิปที่ความละเอียด 50MP สำหรับกล้องหลัก และ 12MP สำหรับเลนส์ Ultra-Wide ซึ่งสามารถถ่ายภาพผ่านหน้าจอนอก (FlexWindow) ได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดเครื่อง
AI กลายเป็น “สมองหลัก” ที่ผลักประสบการณ์ให้เหนือระดับ
ยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวอย่างแท้จริงเริ่มต้นแล้ว Galaxy Z Fold7 และ Z Flip7 มาพร้อม Galaxy AI ที่ทำงานแบบ Multimodal ซึ่งสามารถเข้าใจทั้งเสียง ข้อความ ภาพ และบริบทการใช้งานได้อย่างชาญฉลาด เสริมประสบการณ์การใช้งานให้ลื่นไหลและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ผ่านฟีเจอร์อย่าง Gemini Live, Circle to Search, Writing Assist และ Photo Assist ที่ช่วยประหยัดเวลาในการทำงานหรือจัดการชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการสรุปข้อความ แปลภาษาขณะเดินทาง หรือลบเสียงรบกวนในคลิปวิดีโอ โดยเฉพาะในรุ่น Z Flip7 ที่สามารถสั่งงาน Gemini ผ่านหน้าจอนอกขนาด 4.1 นิ้วแบบไร้ขอบได้ทันที เพิ่มความสะดวกในการค้นหาร้านอาหาร บันทึกเที่ยวบิน หรือรับคำแนะนำแบบเรียลไทม์
ขณะเดียวกัน UX ของทั้งสองรุ่นยังถูกออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งานจริง ตั้งแต่การควบคุมแอปผ่าน FlexWindow โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอใหญ่ ไปจนถึงการปรับแต่งวอลเปเปอร์ สี นาฬิกา และ Now Brief ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังเสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัยด้วย Knox Matrix และ Post-Quantum Cryptography ซึ่งเตรียมพร้อมรับมือโลกหลังยุคคอมพิวเตอร์ควอนตัมอย่างเต็มรูปแบบ
การวางจำหน่ายและราคา
Galaxy Z Fold7 และ Galaxy Z Flip7 เริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2568 ที่ Samsung Experience Store ร้านค้าที่ร่วมรายการ และทางออนไลน์ที่ bit.ly/pr_buy_z-fold7-flip7 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ bit.ly/pr-preorder_z-fold7-flip7 โดยจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป สำหรับ Galaxy Z Fold7 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Blue Shadow, Silver Shadow, Jetblack และ Mint (เฉพาะการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์) มีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ 12/256GB ราคา 67,900 บาท, 12/512GB ราคา 72,900 บาท และ 16/1TB ราคา 85,900 บาท ส่วน Galaxy Z Flip7 วางจำหน่ายใน 4 สี ได้แก่ Blue Shadow, Jetblack, Coralred และ Mint (เฉพาะออนไลน์) โดยมี 2 ความจุให้เลือก ได้แก่ 12/256GB ราคา 40,900 บาท และ 12/512GB ราคา 45,900 บาท ขณะที่รุ่นประหยัดอย่าง Galaxy Z Flip7 FE มีให้เลือก 2 สี คือ Black และ White พร้อมความจุ 8/128GB ราคา 32,900 บาท และ 8/256GB ราคา 35,900 บาท
#เหนือกว่าที่เคยพับ #GalaxyAI #GalaxyZFold7 #GalaxyZFlip7 #GalaxyUnpacked #Samsung