วิวัฒนาการของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเร็วของวิวัฒนาการ กลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง แต่ในวงการคอมพิวเตอร์ เราประสบความสำเร็จอย่างมากในเวลาเพียงห้าทศวรรษ ตั้งแต่โปรเซสเซอร์ AI ระดับไฮเอนด์ของ NVIDIA ไปจนถึงชิป 4004 ของ Intel โลกของคอมพิวเตอร์เติบโตอย่างมหาศาลในห้าสิบปี ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าโซลูชันคอมพิวเตอร์รุ่นแรกๆ มากถึง "หลายล้าน" เท่า

 

เคยสงสัยไหมว่าความต้องการคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นได้อย่างไรในยุคแรกๆ ถ้าไม่ใช่ จริงๆ แล้วเราก็มีการคำนวณในสมัยนั้นเช่นกัน ผ่านเครื่องมือต่างๆ เช่น ลูกคิดและเครื่องคิดเลขแบบกลไก อย่างไรก็ตาม ความต้องการระบบที่รวดเร็วขึ้นนั้นเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อต้องจัดเก็บข้อมูลสำมะโนประชากรในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งท้ายที่สุดก็ทำให้เกิดระบบ "บัตรเจาะรู" ขึ้นมา เอาล่ะ ลองข้ามไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เราได้เห็นไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรกของ Intel รุ่น 4004 ที่ออกสู่ตลาด และมันช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

 

ชิป Intel 4004 ไม่ใช่โซลูชันที่มุ่งเน้นตลาดโดยตรง แต่เป็นชิปที่ออกแบบโดยอินเทล ให้กับบริษัท Busicom ของญี่ปุ่น มันน่าจะทำหน้าที่เป็นชิปสำหรับเครื่องคิดเลขแบบเครื่องพิมพ์ แต่ Intel มองเห็นโอกาสและลงมือทำทันที 4004 ถูกวางจำหน่ายในปี 1974 และในแง่ของสเปค มันมี CPU 4 บิต ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 740kHz และประมาณ 92,600 IPS สำหรับหน่วยความจำนั้น ชิปรุ่นนี้มี ROM ขนาด 4KB และ RAM ขนาด 640 ไบต์ และเมื่อเปรียบเทียบตัวเลขเหล่านี้กับความต้องการในปัจจุบันแล้ว ตัวเลขเหล่านี้แทบจะไม่มีความสำคัญเลย

 

หลังจาก 4004 เราได้เห็นการปฏิวัติการประมวลผลที่ขับเคลื่อนด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น การประมวลผลแบบขนาน สภาพแวดล้อมแบบมัลติเธรด และที่สำคัญกว่านั้นคือกฎของมัวร์ เมื่อรวมการวิจัยและพัฒนากว่าห้าสิบปีเข้ากับ Intel 4004 เราจึงได้ชิป AI Blackwell ของ NVIDIA อย่างไรก็ตาม ชิป Blackwell ในปัจจุบันยังไม่ใช่ตัวแทนของความสามารถในการประมวลผลของ NVIDIA อย่างแท้จริง เนื่องจาก Team Green ได้ออกผลิตภัณฑ์หลายรุ่นที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ในแง่ของความนิยม Blackwell เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีชื่อเสียงที่สุด

 

แม้ว่าเราจะเห็นการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แต่ความสามารถในการทำงานที่เพิ่มขึ้นแบบขนานนั้นน่าทึ่งอย่างยิ่ง ดังที่ Jensen กล่าว Blackwell จะเป็นพลังขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งต่อไป และที่สำคัญกว่านั้นคือ นำพาเราไปสู่โลกที่ความสามารถในการประมวลผลได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายทศวรรษ

ที่มา : Wccftech