สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน เราคงได้เห็นข่าวคราวเตรียมตัวออกระบบฏิบัติการใหม่จากทาง Microsoft ที่จะเป็นการออกมาแทนที่ Windows 10 ที่เราใช้กันจนติด จนชิน ในทุกวันที่ ซึ่งในเวอร์ชั่นพัฒนาช่วงแรกเราจะเห็นชื่อ Windows 10X ที่ชวนให้นึกถึงการอัพเกรดของ Windows 10 แต่หลังๆช่าวที่ออกมานั้นก็กลายเป็น Windows 11 ไปแล้ว ซึ่งใน Windows 11 ที่ผมจะเอามาทดลองวันนี้คือเวอร์ชั่นสำหรับพัฒนา ที่มีความใกล้เคียงกับตัวจริงที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ โดยวันนี้ผมจะมาลองติดตั้ง Windows 11 บนเครื่องคอมพิวเตอร์จริงๆ ไม่ได้อิงจาก Virtual Machine เพื่อให้ได้เห็นภาพว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ออกมาก่อน Windows 11 นั้นจะมีปัญหากับพวก Driver และ Hardware ส่วนอื่นๆ ยังไงกันบ้าง 



การติดตั้ง Windows สมัยนี้ก็ไม่ยากอะไรนัก แต่ด้วยความเป็นไฟล์อิมเมจที่หลุดออกมา ดังนั้นก็จะต้องใช้ Rufus ในการสร้างตัวติดตั้ง Windows 11 ใครจะหาไฟล์ Image ก็ลองค้นจากชื่อ Image ที่ผมใช้ดูได้ 


จัดการเสียบ USB Flash ที่เราสร้างไว้เพื่อเป็นตัวติดตั้ง Windows 11

คำเตือน Windows 11 ที่หลุดออกมายังไม่ใช่ตัว Final ดังนั้นควรที่จะลองกับคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ใช้งาน หรือ เปลี่ยน SSD/HDD ที่ไม่ได้ใช้งานแทน เพื่อจะได้ไม่กระทบกับการใช้งานเดิมของเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา โดยผมจะใช้ Notebook ROG รุ่นเก่าในยุค Intel Gen 6 เมื่อเปิดเครื่องแล้วจัดการเลือกที่ USB Flash Drive ที่เราเตรียมไว้ 


ถ้าพูดถึงอินเทอร์เฟสการติดตั้งของ Windows 11 ก็ไม่ได้แตกต่างจากเดิม 

ทดลองใช้ ก็สามารถติดตั้งโดยที่ไม่ต้องใส่ Product Key ได้ 

มาถึงทางด้านเวอร์ชั่นย่อยของ Windows 11 ที่มีออกมาไม่ได้แตกต่างจาก Windows 10 เลย 


Windows 11 นั้นจะมีเวอร์ชั่นย่อยสำหรับ Workstation ด้วย ซึ่งเดี๋ยวรอเปิดตัวของจริงกันก่อนแล้วจะหาเวลามาลองอีกครั้ง โดยในการติดตั้งของผมเป็น Windows 11 Pro  


ข้อตกลงในการใช้งาน รวมไปถึงในเรื่องของลิขสิทธิ์ คงไม่มีใครมานั่งอ่านครบทุกตัวอักษร์แน่นอน ก็ยอมรับแล้วกด Next  


การติดตั้งสามารถเลือกแบบอัพเกรด หรือ ลงใหม่แบบคลีนๆได้ครับ 


เลือกพื้นที่ Drive ในการติดตั้ง เวลาชีวิตจริงถ้าใครจะแบ่งบาทิชั่นก็ทำได้ที่จุดนี้  


ปล่อยให้ระบบมันทำการติดตั้งระบบปฏิบัติการตามขั้นตอน พอจบตรงนี้จะมีการรีบูต


ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาหลายวินาที ก็สามารถคลิกที่ Restart Now ได้ครับ 


ถ้ามองในแง่การ Reboot ในการติดตั้ง Windows 11 รู้สึกว่ามันเร็วกว่า Windows 10 เล็กน้อย 


จัดการเลือก Region ในการใช้งาน แน่นอนว่าเราคนไทยใช้งานในประเทศไทย ก็เลือกประเทศไทย   


แป้นพิพม์หลัก โดยส่วนมากผมก็เห็นว่าเค้ามักจะเลือก US กันนั้น แต่บ้านเราเรียนภาษาอังกฤษจากครูมากกว่า US และ UK ส่วนตัวผมก็ไม่เคยเลือกแป้นพิมพ์นอกเหนือว่า US ใครที่มักจะใช้ UK ก็ลองบอกกันหน่อยมันต่างจาก US ยังไงบ้าง 


แป้นพิมพ์ที่สอง ก็เลือกใช้งานเป็นภาษาไทยกัน ใครใช้ภาษาอื่นนอกจาก US - THAI ก็เลือกเหมือนเดิม เหมือนที่เคยทำตอน Windows 10 


เป็นการเลือก Layout ของแป้นพิมพ์ภาษาไทย ที่จะมีความแตกต่างกัน ใครที่เคยเรียนหรือใช้เครื่องพิมพ์ดีดคงจะพอทราบความแตกต่างได้ 


ในจุดนี้ ถ้ามีการใช้งาน Microsoft Account ก็เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ แต่ถ้าใครไม่ชอบผูกการใช้งาน Windows เข้ากับ Microsoft Account ก็อย่าไปเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตครับ 


การเลือกรูปแบบการใช้งานระหว่างแบบส่วนตัว หรือ ใช้ในโรงเรียนและที่ทำงาน เพราะผู้ดูแลระบบจะสามารถเข้ามาจัดการได้ที่แตกต่างกัน 


ใครที่จะใช้หรือมี Microsoft Account ก็เข้า ระบบได้ครับ 


ทางด้านของกราฟฟิกต่างๆในการติดตั้งที่มีความสวยงามมากขึ้น 


ขั้นตอนนี้ คอมพิวเตอร์ของเราใกล้ได้ใช้งาน Windows 11 กันแล้ว 


เตรียมพบกับ Windows 11 กันได้ 


นี่ก็คือหน้าตาของ Windows 11 ที่มีการปรับแต่งให้มีความดูสวยงาม ขอบมุมหน้าต่างตัดโค้งมน ถ้าทำความคุ้นเคยและคุ้นชินกับความเปลี่ยนแปลงของ Windows 11 ได้ โดยส่วนตัวมองว่ามันน่าจะใช้งานได้สะดวก ใช้ง่ายมากขึ้น



ใครที่คิดว่าไม่ถนัดกับ ปุ่ม Start ที่อยุ่ตรงกลาง คล้ายกับ Dock ของฝั่ง Mac สามารถปรับไปอยู่ด้านข้างซ้ายเหมือน Windows 10 ได้ 


การจัดการไฟล์ในเครื่อง ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกันไปสมควร แต่อีกสิ่งนึงที่มีการนำ Cloud Storage มาให้ใช้งานได้สะดวกมากกว่า Windows 10 


แน่นอนว่า Microsoft Edge นั้นเป็นเว็บบราวเซอร์มาตรฐานบน Windows 11 แต่ใครชอบ Google Chrome หรือ FireFox ก็สามารถติดตั้งใช้งานได้ครับ 


คอนเซ็ปของ Windows 11 ก็ยังมาแนวเดียวกับ Windows 10 ที่จะมีฟีเจอร์ใหม่ๆเข้ามาผ่านการอัพเดท 


จะค้นหาการใช้งานใดๆ ที่สามารถทำได้เพียงแค่คลิกที่ปุ่ม Start 


จากเท่าที่ลองมานั้น Windows 11 พวก Hardware และ Driver ต่างไม่มีปัญหาใดๆ อย่างเช่น ATK Package ของ Notebook ASUS ก็เอา Windows 10 มาลงได้ หลังจากลงไปแล้วพวก Hotkey และ ไฟ LED ที่แป้นพิมพ์ติดสว่างปกติ 


จากการที่ลอง Benchmark บน Windows 11 เวอร์ชั่นนักพัฒนาตัวนี้ มันอาจจะด้อยกว่าการทดสอบบน Windows 10 เล็กน้อย เดาว่ามันเกิดความยังไม่สมบรูณ์ของเวอร์ชั่นนี้ 


ถ้าเน้นกันที่ประสิทธิภาพการประมวลผล มองแล้วดูไม่น่าเป็นห่วงสำหรับเครื่องรุ่นเก่า ที่คิดจะอัพเกรดมาใช้งาน Windows 11 



 

Conclusion 

         วันนี้ก็มาแบบรีบร้อนกันซักหน่อย ซึ่งการทดลองติดตั้ง Windows 11 ระบบปฏิบัติการที่กำลังจะเปิดตัวแทนที่ Windows 10 จาก Microsoft ในแง่ของการติดตั้งลงเครื่องคอมพิวเตอร์มองแล้วไม่ได้แตต่างจาก Windows 10 มากนัก ในทางด้านการใช้งานต่างๆ ที่ในเวอร์ชั่นที่หลุดออกมาตัวนี้ มันยังไม่ใช่เวอร์ชั่นที่วางขายจริง แน่นอนว่าจะมี Bug ต่างๆอยู่พอสมควร ความหนืด อาการสะดุด ยังพบเจอกันได้ อันนี้ต้องรอการแก้ไข้และปรับปรุงจาก Microsoft สำหรับเวอร์ชั่นที่วางขายจริง สิ่งที่ผมนั้นคิดไปก่อนว่าเมื่อใช้งาน Windows 11 มาเทียบกับ Windows 10 ประสิทธิภาพในการประมวลผลของ CPU และ GPU นั้นจะด้อยลงไปมากหรือไม่ เท่าที่ลองใช้งานมาหนึ่งคืน ทั้งการนั่งทำงาน นั่งดูหนัง หรือ การเล่นเกม ก็ไม่มีปัญหาอะไร จะหงุดหงิดตรงที่บางทีมัน หน่วง หนืด สะดุด ค้าง แค่นั้น เดี๋ยวคราวหน้าเราจะมาส่องดูความสวยงาม และ การใช้งานต่างๆ ที่ใส่เข้ามาใน Windows 11 เวอร์ชั่น Dev Leak ตัวนี้กันต่อ สำหรับวันนี้ก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ