สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน ตั้งแต่ต้นปี 2019 ที่เราจะได้เริ่มเห็นกับเทคโนโลยีทางด้านการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย WiFi6 หรือ มาตรฐาน Wireless AX หรือ 802.11ax กันอย่างมากขึ้นกับราคาที่พอจะจับต้องได้สำหรับคนที่มีเงินมากหน่อย กับระบบเครือข่ายในบ้านประสิทธิภาพสูง ที่วันนี้ผมจะพามาพบกับ ROG RAPTURE GT-AX11000 กับ Wireless Router แบบ Tri-Band ที่เป็น Gaming Router ประสิทธิภาพสูง พร้อมกับตอบโจทย์การเชื่อมต่อเครือข่ายมาตรฐาน Wireless AX หรือ 802.11ax ที่ในเวลานี้ก็เริ่มมีลูกข่ายที่รองรับเมาตรฐานนี้กันแล้ว แต่เราก็ยังสามารถใช้งานด้วยการเชื่อมต่อ Wireless AC แบบ 160 Mhz กันได้ครับ โดย ROG RAPTURE GT-AX11000 จะมาพร้อมกับความจัดเต็มทางด้านหน่วยประมวลผลด้วยหัวใจหลักในการประมวลผลแบบ 64 Bit แบบ 4 แกน ที่ความเร็ว 1.8 Ghz ที่ยังพกพาเมโมรีมา 1GB โดดเด่นด้วยแบนวิธการเชื่อมต่อไร้สายที่ระดับ 11000Mbps จะแบ่งออกเป็นในย่านความถี่ 2.4 Ghz ที่ 1148 ส่วนความถี่ 5 Ghz มาตรฐาน AX จะสูงสุดที่ 4804 Mbps และ มาตรฐาน AC จะสูงสุดที่ 1733 Mbps ครับ พร้อมกับรองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 2.5 Gbps อีกด้วย ที่สำคัญถ้ามี Wireless Router ของ ASUS ในรุ่นเก่าที่รองรับการใช้งานเทคโนโลยี AiMesh ก็ยังสามารถนำมาใช้งานขยายพื้นที่ร่วมกับ ROG RAPTURE GT-AX11000 ได้อีกด้วย
Package & Bundled
แพ็คเกจที่มาในสไตล์ของ ROG ผนวกกับ ASUS Nerwork ด้วยกล่องสีธีมดำเป็นหลัก ที่มีการบ่งบอกรายละเอียดความเป็น ROG RAPTURE GT-AX11000 อย่างชัดเจน ของในชุดมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้น ,สายแลน และ พาวเวอร์ซัพพลาย พร้อมสายไฟปลั๊กแบบต่างๆ
Design & Detail
มาถึงภายนอกของ ROG RAPTURE GT-AX11000 รูปทรงสี่เหลี่ยมที่ดูดุดัน มีความน่าเกรงขามมาก ด้วยบอดี้หลักพลาสติกสีดำ ตัดกับลูกเล่นด้วยสีส้มที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นมากขึ้น โดยด้านหน้าจะมีโลโก้ ROG รองรับการปรับแสงสีด้วยฟีเจอร์ AURA RGB
เมื่อติดตั้งเสาอากาศทั้ง 8 ต้นเข้าไป ROG RAPTURE GT-AX11000 จัดได้ว่ามีความดุดันมาก
จุดการแสดงสถานะการทำงานด้านหน้าที่จะแจ้งสถานะการเชื่อมต่อของ Wireless Lan แยกให้เห็นชัดเจนกับแต่ละความถี่ พร้อมไฟแสดงสถานะการทำงานแบบอย่างครบถ้วน
ปุ่มเปิด-ปิด WiFi ทีมาพร้อมกับปุ่มเรียกใช้งานฟีเจอร์ WPS ที่มีความแตกต่างจาก Router ปกติ มันมีปุ่มเร่งประสิทธิในการเชื่อมต่อเวลาเล่นเกมได้ด้วย ในการใช้งานสามารถเซ็ตให้ใช้งานอย่างอื่นได้อีกครับ
ช่องระบายความร้อนด้านหน้า ที่ทำลวดลายออกมาเสริมความเป็น ROG ที่เป็น GAMING Router ได้อย่างชัดเจนมาก
ไฟโลโก้ ROG สามารถปรับแสงสี การแสดงผล ได้จากฟีเจอร์ AURA RGB
เสาอากาศภายนอก 8 ต้น ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยสามารถปรับระดับมุมได้ตามความต้องการ โดยตัวเสาน่าจะอยู่ที่ประมาณ -5 dBi รูปทรงที่ออกแบบเน้นประสิทธิภาพในการใช้งาน ไม่ได้เน้นความไกลของสัญญาณ
ด้านหลังนั้นจะมีฉลากบ่งข้อมูลประจำตัวของ ROG RAPTURE GT-AX11000 โดยการออกแบบเน้นช่องระบายอากาศที่มากันเต็มพื้นที่
ปุ่มพาวเวอร์ ,จุดเชื่อมต่อพาวเวอร์ซัพพลาย ,การเชื่อมต่อ USB 3.0 ,2.5 Gbps LAN/WAN ,10/10/1000 Wan ,10/100/1000 Lan 4 พอร์ต และ ปุ่มรีเซ็ต
Wireless Adapter ที่รองรอบการใช้งานร่วมกับ ROG RAPTURE GT-AX11000 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและการใช้งาน ก็จะมีเพียงไมมีโมเดล โดยต้องอัพเดท Driver เวอร์ชั่นล่าสุดด้วย นอกจากรายการพวกนี้ก็จะมี Killer 1550 ที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกับ Intel Wireless-AC9260 และ Killer 1550i ที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกับ Intel Wireless-AC9560
<<< Specifications >>>
ในการทดสอบ ROG RAPTURE GT-AX11000 ในเป็นการนำไปใช้งานภายในบ้าน เชื่อมต่อหลัง Router ของผู้บริการอินเตอร์เน็ตแบบ Bridge Mode
Config / Setup
ให้คอมพิวเตอร์ไปเชื่อมต่อกับ SSID ของ ASUS หลังจากนั้นเปิด Browser แล้วกรอก URL. http://router.asus.com
อินเตอร์เฟสในการปรับแต่งที่จะไม่เหมือน ASUS Router ปกติครับ โดยหน้าแรกจะเป็น Dash Board สถานะการทำงาน
ในส่วนของสถานะการทำงานของระบบเครือข่าย ที่แสดงสถานะการทำงานอย่างชัดเจน
ในส่วนการใช้งาน GAME RADAR และ AURA RGB ที่เรียกได้ว่าใช้งานง่าย ปรับแต่งได้ละเอียด
การปรับแต่งการใช้งานในปุ่มโลโก้ ROG สีแดงที่อยู่ด้านข้าง ที่เราสามารถเปลี่ยนได้ตามความต้องการในการใช้งาน
ในส่วน Network Map ที่มีการปรับเปลี่ยนสีสันให้เข้ากับความเป็น ROG แต่การใช้งานหลักๆ และการปรับแต่งต่างๆยังคงเหมือนกับ ASUS Router ครับ
ในส่วนของ Wireless 5Ghz ชุดที่สองนั้นรองรับการใช้งานแบบ AX Frame ได้ แต่จะเป็นแบบ 80Mhz เท่านั้น
ในส่วนของ Wireless 5Ghz ชุดที่แรกนั้นรองรับการใช้งานแบบ AX Frame ได้ แต่จะเป็นแบบ 80Mhz เท่านั้น แต่ก็ยังสามารถเปิดใช้งานแบบ 160 Mhz ได้
มาถึงในส่วนของเทคโนโลยี MU-MIMO และ Beamforming แน่นอนว่ารองรับการใช้งานอยู่แล้ว
ในส่วนการจัดการ QoS ที่เราสามารถตั้งค่าให้การเล่นเกม มีความสำคัญสูงสุดได้ง่าย จากการเปิด Game Boost
WTFast ที่จะช่วยลดความสูญเสียแพ็คเกจในการเชื่อมต่อ ด้วยเครือข่ายแยยเฉพาะ รองรับการใช้งานจากทุกอุปกรณ์
สามารถเลือกใช้งานโปรไฟล์การเชื่อมต่อเครือข่าย ที่ให้มีความเหมาะสมกับแต่ละเกม และ แต่ละลูกข่ายที่เชื่อมต่อ
Game Radar เป็นตัวช่วยในการตรวจสอบว่า เกมที่เราจะเล่นนั้น Server ที่ไหนนั้นมีความเร็วในการเชื่อมต่อได้ดีที่สุด พูดง่ายๆว่า Ping น้อยที่สุด
ตัวช่วยในการเชื่อมต่อเครือข่ายนั้นจะมีมาให้ แต่เราต้องไปกดเลือกใช้งานเองครับ ไม่ได้เป็นการใช้งานตั้งต้นแบบ ASUS Router ปกติ
ประสิทธิภาพเครือข่ายไร้สาย
ในการทดสอบนี้ เราทำการวางเราเตอร์ ROG RAPTURE GT-AX11000 เอาไว้บนชั้น 3 หรือห้อง Studio Room โดยกำหนด Channel Bandwidth ของทั้ง 3 คลื่นความถี่ดังนี้ คลื่น 2.4GHz ใช้ค่า 40MHz ขณะที่คลื่น 5GHz – ch1, 5GHz – ch2 จะใช้ค่า 160MHz และ 80MHz ตามลำดับ
ด้วยการจัดวางเราเตอร์ไว้ที่ชั้น 3 ความแข็งแรงของสัญญาณในชั้นที่ 1 จึงอยู่ในระดับที่แย่ที่สุดจากทั้ง 3 ชั้น แต่เฉพาะคลื่น 2.4GHz ที่มีค่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ สังเกตดีๆ ความแข็งแรงของสัญญาณ 5GHz –ch1 ที่ใช้ Channel Bandwidth 160MHz จะมีค่าที่ด้อยกว่าคลื่น 5GHz –ch2
ความเร็วในการเชื่อมต่อของไวร์เลสอะแดปเตอร์ Intel Dual Band Wireless-AC 9560 ร่วมกับคลื่น 5GHz –ch1 นั้นทำได้เต็มสปีดในทางทฤษฎีเลยที่ 1.7Gbps ดังนั้นการทดสอบ Speedtest การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจึงไม่สามารถบ่งบอกประสิทธิภาพอะไรได้เลย เพราะวิ่งเต็มเพดานความเร็วอินเทอร์เน็ตของแพ็กเกจ ISP แล้ว
ขณะที่คลื่นอื่นๆ ขณะที่อยู่บนชั้น 3 ก็เชื่อมต่อกันได้ด้วยความเร็วตามภาพเลยที่ 866.7Mbps สำหรับช่อง 5GHz-ch2 และ 300Mbps สำหรับคลื่น 2.4GHz
การวัดหาค่าแบนด์วิดธ์ด้วย iPerf3 ด้วยการส่งแพกเกจไฟล์ 100MB ขนาดรวมกัน 1GB แสดงให้เห็นว่า เราเตอร์ ASUS ROG GT-AX11000 ทำงานได้น่าประทับใจมากบนชั้น 3 ซึ่งอยู่ในชั้นเดียวกัน โดยมีระยะห่างจากเราเตอร์ 3 เมตร และ 5 เมตร (Balcony) ตามลำดับ ด้วยตัวเลขเกินกว่า 780Mbit/s ตรงนี้เป็นค่าเฉลี่ย เพราะในระหว่างประเมินก็ยังค่าแบนด์วิดธ์บางช่วงที่ขยับไปถึง 948Mbit/s ขณะที่แบนด์วิดธ์ของช่อง 5GHz – ch2 ที่เชื่อมต่อด้วยความเร็ว 866Mbit/s ก็แสดงค่าออกมาได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน
ขยับมาที่ชั้น 2 ค่าแบนด์วิดธ์ลดลงค่อนข้างมากสำหรับคลื่น 5GHz ตรงจุดนี้ทั้ง 2 คลื่น เรียกได้ว่า มีค่าแบนด์วิดธ์ที่แทบไม่ต่างกันแล้ว ขณะที่คลื่น 2.4GHz ก็ยังทำความเร็วได้ถึง 120Mbit/s ส่วนชั้น 1 ที่เป็นชั้นที่ห่างจากเราเตอร์มากที่สุดในการวัดทดสอบ ยิ่งเห็นความแตกต่างของการใช้ Channel Bandwidth ระหว่าง 160MHz และ 80MHz ขณะที่คลื่น 2.4GHz ก็ยังพอใช้งานได้ แต่ค่า Latency ที่เราพบนั้นก็อยู่ในระดับ “ยอมรับได้”
การวัดประสิทธิภาพของพอร์ต USB ซึ่งทีมงานใช้ไดรฟ์ SP Bolt B80 Portable SSD โดยตั้งค่าให้เป็นเซิร์ฟเวอร์ FTP ผ่าน AiDisk ของเราเตอร์ จากนั้นทำการโอนถ่ายข้อมูลบนซอฟต์แวร์ Filezilla ความเร็วที่ทำได้ถือว่าน่าประทับใจมาก โดยเฉพาะบนคลื่น 5GHz –ch1 ที่มีค่าดาวน์โหลดมากถึง 140MB/s ส่วนการดาวน์โหลดผ่าน GbLAN ก็ทำได้ในระดับที่เรียกว่าเต็มเพดานของพอร์ต GbLAN แล้ว ไฟล์ขนาด 951MB ใช้เวลาอัพโหลดดาวน์โหลดเสร็จสิ้นในเวลาแค่ 9-10 วินาทีเท่านั้น
Conclusion
ROG RAPTURE GT-AX11000 กับความสุดของเทคโนโลยี Wireless Router ในยุค 2019 ที่เน้นตอบโจทย์ทางด้านสายเกมมิ่งเป็นหลัก กับค่าตัวระดับหมื่นปลายๆ ที่ในการใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพก็ต้องวางแผนกัน รวมไปถึงลูกข่ายที่ใช้งานนั้นอย่างน้อยก็ควรเป็น Wireless AC ที่รองรับการใช้งานแบบ AX Frame ด้วย ในแง่ของประสิทธิภาพเครือข่ายไร้สายที่เรียกว่ามันแรงจะใจมาก แต่จะไม่ได้เน้นความทะลุทะลวงและความไกลของสัญญาณมากนักสำหรับ ROG RAPTURE GT-AX11000 อีกทั้งยังสามารถตอบโจทย์การใช้งานจากลูกข่ายจำนวนมากได้เป็นอย่างดี พร้อมกับฟีเจอร์อีกมากมายที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายทางด้านเครือข่าย กับความเป็นจุดเด่นที่เป็น Wireless AX หรือ WiFi 6 อีกทั้งยังมาพร้อมกับพอร์ต 2.5 GbE ที่รองรับกับการใช้งานเครือข่ายความเร็วสูงกว่า 1 Gbps แน่นอนว่าในเวลานี้ก็เริ่มมีลูกข่ายที่รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ WiFi 6 กันบ้างแล้ว ROG RAPTURE GT-AX11000 ซึ่งก็นับว่าเป็นความน่าสนใจในการอัพเกรดเครือข่ายในที่ช่วยเน้นปารเล่นเกมที่ดีมากขึ้น ส่วนการใช้งานด้านอื่นนอกจากการเล่นเกม ก็ถือว่า ROG RAPTURE GT-AX11000 ทำได้ดีสมกับราคา แต่ถ้าตัวเดียวยังครอบคลุมพื้นที่ยังไม่พอ ก็ยังสามารถอัพเกรดเพิ่ม Wireless Router ASUS ในโมเดลที่รองรับเทคโนโลยี AI Mesh สามารถใช้งานกันได้อย่างครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น สำหรับวันนี้ก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Price : N/A บาท
Special Thanks : ASUSTek Computer (Thailand) Co.,Ltd.