นี่คือเมาส์ที่ส่วนตัวเชื่อว่ามันดีไซน์โครงสร้างภายนอกมาได้ดีมากๆ มีส่วนเว้า ส่วนโค้งต่างๆ ที่สอดรับกับการจับด้วยมือขวา นอกจากนั้นมันยังมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกม FPS ถึงแม้ว่ามันจะเป็นรุ่นที่ตัดลดตันทอนคุณสมบัติหลายๆ อย่างเมื่อเทียบรุ่นพี่ใหญ่ของมัน ถึงกระนั้นมันก็มีราคาค่าตัวที่สมเหตุสมผลอย่างมากเช่นกัน

Package 

กล่องด้านหน้ามาพร้อมกับดีไซน์คุมโทนเข้มแบบ Low Key ชัดเจนว่า มีไฟ RGB ตรงจุดโลโก้เท่านั้น ซึ่งกล่องเป็นดีไซน์เดียวกับตัวจำหน่ายเป๊ะๆ เพราะไปดูหน้าร้านมาแล้ว

ด้านหลังนำเสนอความเร็วของออพติคอลเซนเซอร์ที่ทำได้ 6400dpi ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์สำหรับใช้งานมือขวา และติดตั้งปุ่ม Multi-Funtion Paddle หรือ Sensitive Clutch ถ้าจำกันได้เคยเห็นไปแล้วในรุ่น Basilisk

ในชุดอุปกรณ์มีตัวเมาส์พร้อมสายรัด คู่มือ และ Paddle key แบบไซส์กลางๆ มาให้ 1 ชุด ซึ่งถ้าไม่ใช้ตัวนี้ ตัวเมาส์เองจะมีจุกยางปิดมาให้ตั้งแต่แรกเลย

Design

เริ่มกันที่ด้านข้างทั้งสองฝั่งกันก่อน ฝั่งซ้ายมีปุ่ม Back-Forword ถ้าไม่ตั้งค่าอะไรใช้เดินหน้า-ถอยหลังเว็บบราวเซอร์ได้เลย ถัดลงไปด้านหน้าจะเป็นช่องของ  Sensitive Clutch สิ่งที่แตกต่างจากรุ่น Basilisk ตรงนี้ก็คือ แผ่นยางกันลื่นทั้งสองฝั่งที่มีเท็กซ์เจอร์ละเอียดมากๆ ขณะที่เดิมจะเป็นลายเส้นหยาบๆ 

ด้านบนก็ปรับลดความสามารถลงไปอีก โดยจะไม่มีไฟ RGB บน Scroll Wheel ตรงนี้การหมุนยังคงเป็นสเต็ปและหมุนได้ลื่นนิ้วเอามากๆ เลย ถัดลงมาเป็นปุ่มปรับค่า DPI ก่อนหน้านี้ในรุ่น Basilisk จะเป็๋นปุ่มเพิ่ม-ลด สำหรับตัว Essential จะเป็นปุ่มกดแบบวนลูปแทน

จากมุมด้านหน้าและหลังเห็นชัดเจนเลยว่า เมาส์ ฺBasilisk Essential นั้นมีทรวดทรงที่ไม่ต่างจากรุ่นใหญ่เลย ด้านบนสูงชันประชิดอุ้งมือ ปุ่มคลิกเมาส์ขวาลดเอียงออกด้านนอก ขณะที่ีปุ่มซ้ายเว้าส่วนกลางเพื่อให้วงนิ้วได้สนิท ส่วนเว้าด้านในเมาส์เองก็ยิดเกาะนิ้วและวางพักนิ้วโป้งได้สบายมากๆ 

ผิวสัมผัสของเมาส์ถือว่ากึ่งมันกึ่งด้านจะดีกว่า ผิวเนียนเรียน งานประกอบไม่มีที่ติ ติดตรงที่ลื่นนิ้วลื่นมือพอสมตส่วนลวดลายของ Razer ทำออกมาได้เรียบร้อยเช่นเดิม เส้นไฟเล็ก คมชัด 

หลังจากติดตั้งแผ่นคลัชแล้วก็จะดูหล่อๆ ขึ้นมาหน่อย หน้าที่ของมันก็ทำงานเหมือนคลัชรถยนต์อย่างเช่น สภาพทั่วไปใช้งาน DPI อยู่ที่ 1500DPI กดปุ่ม Clutch ค้างไว้มันก็จะเป็นค่าอื่นๆ ที่ตั้งไว้เช่น 2500dpi เมื่อปล่อยปุ่มก็จะกลับมาที่ความเร็วเดิม ใครอยากเร็วถึง 6400dpi ก็ปรับได้นะ 

ขนาดของเมาส์ถือว่า เป็นไซส์กลางๆ ค่อนไปทางใหญ่ มือผู้ชายนี่จับเข้าพอดีเลย ถ้าไม่แน่ใจว่าไซส์ใหญ่แค่ไหน ดูจากภาพเทียบกับ iPhone 8 Plus แทนได้เลย

SYNAPSE 3 

ซอฟต์แวร์ปรับแต่ง Synapse 3 ยังคงอุดมไปด้วยความสามารถในการตั้งค่าเช่นเคย และเมาส์ Basilisk Essential เองก็รองรับการทำงานกับ Hypershift ด้วย ทำให้สามารถตั้งค่า Assign ปุ่มเพิมเติมไปได้อีก

ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่า DPI ได้จากในหน้า Performance ได้เลย โดยเลือกกำหนดที่ต้องการไล่เป็น Stage ถ้าไม่อยากตั้งเยอะก็ลดตัวเลขลง ส่วนค่า Polling Rate ปรับแต่งได้แค่ 500Hz กับ 1000Hz และด้วยการที่ไม่สามารถปรับค่าโปรไฟล์แบบฮาร์ดแวร์หรือมีฝังในบอร์ด ผู้ใช้สามารถบันทึกค่าได้มากมาย แต่ต้องมาเลือกใช้ผ่านในซอฟต์แวร์

หรือไม่ก็มาตั้งปุ่มสลับโปรไฟล์ด้วยปุ่มบนเมาส์แทน นอกจากนี้สำหรับคอเกม FPS ที่อยากยิงรัวๆ เร็วๆ ก็มาตั้งค่าปุ่ม Enable Turbo ได้เช่นกัน ส่วนเรื่องการตั้งค่ามาโครทำได้ 7 ปุ่ม ตั้งค่าไฟ RGB ได้มากมายเหมือนๆ กับเมาส์ของ Razer รุ่นอื่นๆ แต่มันมีค่ตำแหน่งเดียว

Conclusion!!
ด้วยการที่เมาส์ Basilisk Essential ใช้ดีไซน์ที่ออกแบบมาตามหลักสรีระศาสตร์ที่ถอดแบบจากเมาส์ตัวท็อปของ Razer ดังนั้นความถนัดการใช้จับใช้งานถือได้ว่าทำได้ดีเยี่ยมเอามากๆ ส่วนเรื่องกริปยางที่ละเอียดกว่าเดิมนั้นก็แทบไม่ส่งผลเรื่องความแตกต่างจนรู้สุกได้ ขณะที่ฟังก์ชันที่มีมาให้แบบตัดโน้นนี่นั่นออกก็ไม่ได้ถือว่า ขี้เหร่แต่อย่างใดกับระดับราคาที่วางเอาไว้ ยังมีฟังก์ชันที่มีประโยชน์มากๆ อย่างเช่น Sensitive Clutch ในกรณีที่ต้องตามเป้าหมายขณะใช้ปืนสไนเปอร์ หรือการมาโครปุ่ม ตลอดจนฟีเจอร์อย่าง HyperShift

การตอบสนองของเซนเซอร์ขณะเล่นเกม ถือว่า ลื่นและนิ่ง เมื่อเราปรับค่า DPI ให้เหมาะและคุ้นเคย แต่จากความรู้สึกแล้ว การตอบสนองหรือความแม่นยำมันยังด้อยกว่าเมาส์ Razer ที่ใช้เซนเซอร์รุ่นใหม่ และนอกจากเรื่องการตัดฟีเจอร์ทั้งเรื่องไฟ RGB หรือ ปุ่มสวิทช์สลับโปรไฟล์ออกไปแล้ว ยังมีหลายๆ ส่วนที่ลดสเปคตามไปด้วย อย่างเช่น ปุ่มคลิกแมคคานิกที่ทนทานการใช้งาน 10 ล้านครั้ง 

อย่างไรก็ตาม ด้วยระดับราคาไม่ถึง 1,600 บาท กับรูปทรงเมาส์ที่ปรับมาให้ใช้งานได้อย่างเข้ามือ เซนเซอร์ออปติคอลที่มีคุณภาพ ตั้งปุ่มมาโครได้ 7 ปุ่ม ถือว่า น่าลงทุนแล้วสำหรับคอเกมมิ่งที่กำลังมองหาเมาส์ตัวใหม่ที่ทำงานได้ดีในราคาไม่แพงจนเกินไป 

Thanks: Ascenti Resources Co., Ltd | ARC (www.ascenti.co.th)

Price: 1,590 บาท