Intel Panther Lake จะเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่มาพร้อมกับ สถาปัตยกรรมกราฟิก Xe3 โดยรุ่นที่ใช้พลังงานต่ำ (low-power variant) ซึ่งคาดว่าจะมีชื่อว่า Xe3-LPG จะถูกนำมาใช้เป็นตัวอย่างแรกให้เราได้เห็นว่า Intel มีแผนจะพัฒนา GPU รุ่นถัดไปอย่างไรในตระกูลกราฟิกแยก (Discrete GPU) ภายใต้โค้ดเนม “Celestial” หรือ Arc C-Series ซึ่งจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีข้อมูลใดบ่งชี้เป็นอย่างอื่น

ในขณะเดียวกัน แหล่งข่าว Golden Pig Upgrade ที่มีความใกล้ชิดกับวงในของ Intel ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบการตั้งชื่อรุ่น (SKU Naming) ของ Panther Lake ซึ่งดูเหมือนว่าชื่อ SKU แต่ละรุ่นจะมี “รหัสที่บ่งบอกถึงการ์ดจอภายใน” อยู่ด้วย

ตัวอย่างเช่น รุ่น Ultra X9 388H มีแนวโน้มว่าจะเป็นรุ่นท็อปสุดของไลน์อัป โดยรหัส “X” หมายถึงรุ่นพิเศษที่มาพร้อมสเปกสูง และตัวเลขที่เปลี่ยนจาก “5” เป็น “8” (ถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Core Ultra 9 285H) นั้น สื่อถึง “ระดับการ์ดจอ” หรือจำนวนคอร์กราฟิกที่มากขึ้นนั่นเอง

จากข้อมูลนี้ สรุปได้ว่า:

• เฉพาะรุ่นที่มี “X” เท่านั้น (เช่น Ultra X9 และ Ultra X7) จะมาพร้อม กราฟิก Xe3 จำนวน 12 คอร์

• รุ่นที่มีรหัส 3_8 จะมีอย่างน้อย 10 Xe3 Cores — เช่น Ultra 5 338H ซึ่งคาดว่าจะมาพร้อม GPU 10 คอร์

• ส่วนรุ่น 3_6 จะมีน้อยกว่า 10 Xe3 Cores

สรุปตารางโดยประมาณของตระกูล Intel Core 300 Series (Panther Lake-H):

• Core Ultra X → 12 Xe3 Cores

• 3_8 Series → 10–12 Xe3 Cores

• 3_6 Series → ต่ำกว่า 10 Xe3 Cores

เหตุผลที่ Intel ต้องเปลี่ยนระบบการตั้งชื่อ SKU อีกครั้ง เป็นเพราะรุ่น Panther Lake ไม่มีผู้สืบทอดโดยตรงจาก Lunar Lake

ในรุ่น Lunar Lake เดิมนั้น ใช้เทคโนโลยี Mobile-on-Package (MoP) ซึ่งรวมหน่วยความจำไว้บนแพ็กเกจเดียวกับชิป โดยตัวเลข 8 และ 6 ในชื่อรุ่นหมายถึงขนาดหน่วยความจำ 32 GB และ 16 GB ตามลำดับ
แต่เนื่องจาก Panther Lake ไม่มีหน่วยความจำแบบติดตั้งบนแพ็กเกจแล้ว Intel จึงต้องเปลี่ยนความหมายของตัวเลขในชื่อ SKU ใหม่ โดยผสมผสานระบบการตั้งชื่อของซีรีส์ H-Series และ V-Series เข้าด้วยกัน

จนถึงตอนนี้ มี SKU ที่ทราบแล้ว 4 รุ่น โดยรุ่น 388H คาดว่าจะเป็นรุ่นสเปกเต็มที่สุด ประกอบด้วย

• 4 P-Cores

• 4 E-Cores

• 4 LP E-Cores
  และมาพร้อม กราฟิก Xe3 แบบเต็มจำนวน 12 คอร์
   

  รุ่น Core Ultra X (ระดับสูงสุด)

  • Core Ultra X9 388H: 4 คอร์ประสิทธิภาพ (P-Cores), 8 คอร์ประหยัดพลังงาน (E-Cores), 4 คอร์ประหยัดพลังงานพิเศษ (LPE-Cores), กราฟิก 12 Xe3 Cores

  • Core Ultra X7 368H: 4 P-Cores, 8 E-Cores, 4 LPE-Cores, 12 Xe3 Cores

  • Core Ultra X7 358H: 4 P-Cores, 8 E-Cores, 4 LPE-Cores, 12 Xe3 Cores

  • Core Ultra X5 338H: 4 P-Cores, 4 E-Cores, 4 LPE-Cores, 10 Xe3 Cores

  ---

  รุ่น PTL-H (ประสิทธิภาพสูงสำหรับโน้ตบุ๊กทั่วไป)

  • Core Ultra 9 375H: 4 P-Cores, 8 E-Cores, 4 LPE-Cores, 4 Xe3 Cores

  • Core Ultra 7 355H: 4 P-Cores, 8 E-Cores, 4 LPE-Cores, 4 Xe3 Cores

  • Core Ultra 7 345H: 4 P-Cores, 8 E-Cores, 4 LPE-Cores, 4 Xe3 Cores

  • Core Ultra 5 325H: 4 P-Cores, 4 E-Cores, 4 LPE-Cores, 4 Xe3 Cores

  ---

  รุ่น PTL-U (ประหยัดพลังงานสำหรับอุปกรณ์บางเบา)

  • Core Ultra 7 360U: 4 P-Cores, ไม่มี E-Cores, 4 LPE-Cores, 4 Xe3 Cores

  • Core Ultra 5 350U: 4 P-Cores, ไม่มี E-Cores, 4 LPE-Cores, 4 Xe3 Cores

  • Core Ultra 5 340U: 4 P-Cores, ไม่มี E-Cores, 4 LPE-Cores, 4 Xe3 Cores

  • Core Ultra 3 320U: 2 P-Cores, ไม่มี E-Cores, 4 LPE-Cores, 4 Xe3 Cores

  ---

  โดยรวมแล้ว Intel กำลังแบ่งชิปออกเป็น 3 กลุ่มหลัก:

  • X Series = ประสิทธิภาพสูงสุด เน้นงานหนักและกราฟิกแรง (12 Xe3)

  • H Series = สมดุลระหว่างพลังและประสิทธิภาพ

  • U Series = เน้นความบางเบาและประหยัดพลังงาน

   

  ถือเป็นการจัดไลน์อัปใหม่ที่น่าสนใจของ Intel ในยุค Core Ultra ที่มาพร้อมโครงสร้างแบบ Hybrid และกราฟิก Xe3 รุ่นใหม่ล่าสุด.

ที่มา: VideoCardz