เราทุกคนทราบดีว่าการลบไฟล์นั้น ไม่ได้ลบออกจากฮาร์ดไดรฟ์ของคุณจริงๆ ไฟล์นั้นอาจถูกเก็บไว้ในถังขยะซึ่งอยู่ในสถานะพร้อมกู้คืน แม้ว่าคุณจะข้ามขั้นตอนในการเก็บในถังขยะ แต่คลัสเตอร์ของไฟล์ที่เราลบนั้นจะยังคงอยู่บนดิสก์เว้นแต่จะถูกเขียนทับด้วยข้อมูลอื่น และถึงอย่างนั้นบางครั้งผู้กู้คืนระดับมืออาชีพก็อาจจะยังกู้คืนไฟล์ที่เขียนทับได้
ถ้าคุณต้องการลบไฟล์อย่างสมบูรณ์และปลอดภัยจากการกู้คืน ต้องทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถกู้ข้อมูลไฟล์ได้อีก วันนี้เราจะมาแนะนำแอปพลิเคชันสำหรับลบหรือทําลายข้อมูลอย่างสมบูรณ์โดยการเขียนทับหลายครั้งด้วยข้อมูลแบบสุ่ม เพื่อที่จะไม่ให้ใครหน้าไหนสามารถกู้คืนได้อีกด้วยโปรแกรม Eraser
สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน Eraser ได้จากเว็บไซต์ https://eraser.heidi.ie/download/ ตัวโปรแกรมมีขนาดเล็กเพียง 8.4 MB เท่านั้น จากนั้นทำการติดตั้งให้เรียบร้อย
เปิดโปรแกรมขึ้นมาก็จะพบหน้าตาโปรแกรมดังนี้
ในตัวโปรแกรมเราสามารถตั้ง Erase Schedule ในการลบข้อมูลได้ เราสามารถออกแบบการลบข้อมูลได้หลายแบบตามที่ปรากฏในรูป / สามารถกำหนดที่อยู่ของไฟล์ที่จะลบได้หลายแบบ File , File in Folder , Recycle Bin , Unused disk space รวมไปถึง Drive/Partition ที่จะลบได้
โดยเราสามารถเลือกวิธีลบข้อมูลให้ปลอดภัยได้หลายแบบมากๆ ตามรูปนี้ ตัวอย่าง
Gutmann (35 passes) ออกแบบในปี 1996 เพื่อลบไดรฟ์เมื่อคุณไม่ทราบอัลกอริทึมที่ใช้ในการเข้ารหัสข้อมูลบนดิสก์ เขียนทับข้อมูลด้วยรูปแบบที่แตกต่างกัน 35 รูปแบบ
US DoD 5220.22-M (8-306./E) (3 Passes) เป็นวิธีการลบทำลายข้อมูลโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา เป็นการลบแบบ 3 Passes
GOST P50739-95 (2 passes) วิธีนี้นี้ออกแบบโดยรัสเซีย เป็นการลบแบบ 2 Passes (การเขียนครั้งแรกเป็นศูนย์ทับข้อมูลทั้งหมด, ครั้งที่สองเป็นการเขียนข้อมูลแบบสุ่ม)
จะเห็นได้ว่ามีการเลือกการทำลายข้อมูลหลายรูปแบบส่วนวิธีไหนจะถูกใจมากที่สุดก็แนะนำว่าให้หาข้อมูลเกียวกับการทำลายข้อมูลเหล่านี้กันเอาอีกครั้งหนึ่งนะครับ
ในหัวข้อ Settings หลักๆเลยก็จะเป็นการกำหนดค่าดีฟอลต์ของการลบข้อมูล สามารถมาแก้ไขได้ที่หน้า Settings นี้
การใช้งาน Eraser ผ่าน File Explorer ก็สามารถใช้งานง่าย เพียงคลิ๊กไปที่ไฟล์ที่คุณต้องการจะลบทำลายทิ้ง แล้วเลือกหัวข้อ Eraser จากนั้นเลือก Erase นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้งานการย้ายไฟล์แบบ Secure Move อีกด้วย
เมื่อเลือก Erase แล้วจะพบหน้าต่างดังนี้
เราสามารถเลือก Options เพื่อเลือกอัลกอริทึมในการทำลายข้อมูลได้ตามที่ผมได้เขียนไปในข้างต้น ถ้ากด Yes ก็จะเป็นการลบทำลายข้อมูลแบบ Default ที่เราตั้งค่าไว้
เพียงเท่านี้ข้อมูลของเราก็ถูกลบทำลายได้อย่างสบายใจหายห่วงแล้ว โดยซอฟต์แวร์ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจและใช้งานค่อนข้างใช้งานง่ายที่สุดแล้วในการใช้งานบนระบบ ปฏิบัติการ Windows และก็ยังมีซอฟต์แวร์ตัวอื่นๆอีกที่ใช้งานผ่าน DOS หรือ ระบบปฏิบัติการอื่นจะมาแนะนำในครั้งต่อๆไปครับ
ข้อดี
- เป็นซอฟต์แวร์ฟรี
- กำหนดเวลาการลบข้อมูลได้
- มีอัลกอริทึมในการลบทำลายข้อมูลหลายรูปแบบ
ข้อด้อย
- ใช้งานได้เฉพาะ Windows เท่านั้น