สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน หลังจากทีทางเราได้เคยนำเสนอเกี่ยวกับการติดตั้ง Windows 11 บนเครื่องคอมพิวเตอร์จริงๆ อย่างที่เราได้บอกไปว่าตอนที่บทความนี่ได้ออกไปนั้น Windows 11 ยังไม่ได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จะเป็นเวอร์ชั่นนักพัฒนา ที่เป็นเวอร์ชั้นที่เค้าว่ากันว่าใกล้เคียงกับตัวจริงมาก ก็ต้องรอเวอร์ชั่นสมบูรณ์แบบที่เปิดตัวและวางขายอย่งเป็นทางการโดย Microsoft เอง วันนี้เราก็จะพามาดูจุดต่างๆในการใช้งานของ Windows 11 นั้นจะมีความแตกต่างจาก Windows 10 กันแค่ไหน
การติดตั้ง Windows 11 ในเวอร์ชั่นนักพัฒนาที่หลุดออกมานั้น ผมเอา ROG Gaming Notebook เครื่องเก่าตั้งแต่สมัย Intel Gen 6 ที่ให้ลูกไว้ใช้เล่นเกม มาลงลองใช้งานดู โดยสลับ SSD ตัวอื่้นที่ไม่ได้ใช้งาน ในเรื่องของ Hardware และ Driver ต่างๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับ Windows 11
SSD ที่ใช้ในการติดตั้ง Windows 11 ผมได้ใช้ความจุ 120GB ซึ่งมันก็พอใช้ได้ ถ้าไม่ได้ลงโปรแกรมอะไรมากมาย ในภาพที่ใช้ไป 38.3G ผมได้มีการติดตั้งเกมจาก Microsoft Store ,PCMark10 ,Google Chrome และ Cinebench R23 เข้าไป สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับ Windows 10 คือกรอบหน้าต่างนั้นจะมีมุมที่โค้งมน ดูสมูทมากกว่าเดิม
ในส่วนของ Taskbar ที่การออกแบบปุ่ม Start และ Quick Start ที่จะอยู่บริเวณตรงกลาง ให้อารมณ์คล้ายกับ Dock ของฝั่ง Mac OS ที่จะมีในส่วนของ Apps ที่ตั้งใว้อารมรณ์คล้ายกับ App draw ของสมาร์ทโฟน เลื่อนหน้าต่างในส่วนนี้ได้ แถบด้านล่างจะมีไอคอนของ Software ที่เปิดใช้อยู่ เมื่อปิดหน้าต่างลงมาจะมีขีดสีเทาอยู่ด้านใต้ แต่เมื่อหน้าต่างของ Software แสดงผลอยู่ ขีดล่างจะเป็นสีฟ้า หรือ ตามธีมที่ตั้งใว้ ในเรื่องของปุ่มพาวเวอร์ การสั่ง Shutdown ,Restart และ Sleep จะอยู่แทบล่างฝั่งตรงข้ามกับชื่อผู้ใช้งาน
ในแถบของ Recommended ที่จะเป็นในส่วนของ Software ที่ติดตั้งเข้าไป และ ไฟล์ที่บันทึกลงอยู่ในเครื่องล่าสุด
ในส่วนของ All Apps ที่จะมีรายการตามตัวอักษร
Taskbar ถ้าวางอยู่ตรงกลางไม่ถนัดใช้ไม่สะดวก สมารถตั้งไปอยู่ทางด้านซ้ายเหมือน Windows 10 ได้ครับ
เครื่องมือในการค้นหาของ Windows 11 ถือว่าใช้งานสะดวก แต่ไม่ได้แตกต่างจาก Windows 10
เมื่อคลิกขวาที่โลโก้ Windows ที่ Taskbar ก็จะพบกับคำสั่งลัดการใช้งาน ซึ่งก็เหมือนกับ Windows 10 นั้นแหละ
notification และ คำสั่งลัดต่างๆ ก็ถือว่าใช้งานได้สะดวก มีรูปแบบที่ดูเรียบร้อยสวยงามดี แต่ที่ใครบอกว่า WiFi 6 ไม่ได้มีความจำเป็น แต่ทาง Microsoft นั้นระบุชัดเจนว่า Wi-Fi 6 มีประสิทธิภาพและสัญญาณครอบคลุมได้ดีกว่า ฮ่าๆ
ในส่วนของ Widget สามารถใช้งานได้ แต่ต้องใช้งาน Microsoft Account ด้วย
การปรับเปลี่ยนธีม ภาพพื้นหลัง ธีมเสียง และ เคอเซอร์เมาส์ ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความชอบ โดยส่วนตัวมองว่าอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่ชินตา ทำให้รู้สึกว่ามันสวยงามมากขึ้นได้ โดยเฉพาะภาพพื้นหลัง
การใช้งานธีมสีเข้ม กรอบหน้าต่างบางส่วนจะถูกเปลี่ยนเป็นสีเข้มตามไปด้วย แต่บางจุดยังเป็นหน้าต่างสีขาวอยู่
Mulit Taks และ Mulit Desktop ก็เพิ่มความสะดวกในการใช้งานคอมพิวเตอร์ได้มากขึ้น
ในส่วนของการ Setting ที่ไม่ได้แตกต่างจาก Windows 10 มากนัก ถ้ามุมหน้าต่างไม่ตัดขอบโค้ง ก็ไม่ได้ต่างกัน
ใครที่เป็นห่วงเรื่อง Control Panel ว่าจะไม่มีให้ใช้งานเหมือน Windows 7 และ การพยายามซ่อนมันของ Windows 10 ใน Windows 11 ก็ยังคงมี และ ซ่อนเอาไว้ให้เข้าใช้งานได้ไม่ง่าย
Control Panel ที่คุ้นเคย และ ไอคอนที่เหมือนเดิม เหมือนกับ Windows 7
ในส่วนของ File Explorer ที่จะมีการเปลี่ยนไอคอนใหม่ เลยทำให้ว่ามันมีความรู้สึกแตกต่างจาก Windows 10 แต่โดยส่วนตัวมองแล้ว ก็เหมือนเดิมครับ
ในส่วนของฟีเจอร์ต่างๆ ที่จะมาพร้อมกับการอัพเดท Windows และ บางฟีเจอร์ ต้องมาเลือกติดตั้งเอง อย่างใช้ Wireless Display ตามในภาพนี้
การจัดการแอปและโปรแกรมที่ติดตั้งทั้งใน Microsoft Store และ จากภายนอก รูปแบบการจัดการนั้นก็เหมือนกับ Windows 10
Microsoft Store ที่สามารถซื้อเกม ซื้อแอปการใช้งานเพิ่มเติมได้ ซึ่งต้องผู้กับ Microsoft Account เข้าไปด้วย
ฟีเจอร์บางฟีเจอร์ ที่โดยปกติใน Windows 10 จะมาพร้อมกับการติดตั้ง Windows แต่ Windows 11 จะเป็นการอัพเดทเหมือนพวกสมาร์ทโฟน ไม่ได้ติดตั้งมาพร้อมกับตัว OS
ถ้าเรามองในแง่การใช้งานที่ทาง Microsoft พยายามออกแบบให้ Windows นั้นใช้งานได้ง่ายมากขึ้น อย่างเช่นการเพิ่ม Fonts ที่โดยปกติสมัยก่อนต้องเปิดจัดการใน Control Panel เดี๋ยวนี้จะหาอะไร พิมพ์ในช่องการค้นหาก็เจอแล้ว
ในส่วนของ Task Manager สามารถจัดการและตรวจสอบการทำงานได้ ไม่แตกต่างจาก Windows 10
ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของระบบใน Task Manager
โปแกรม Paint ที่สมัยก่อนผมจำได้ว่า มีสอนวาดรูปในโปรแกรมนี้ด้วย ก็ยังมีมาให้ใช้งานได้บน Windows 11
เกมฆ่าเวลาสุดนิยม Microsoft Solitaire ที่ทาง Microsoft นั้นได้ออกเกมนี้มาตั้งแต่ปี 1990 ถ้านับอายุมันก็มากกว่าสามสิบปี
โดยส่วนตัวผมเล่นเกมนี้ไม่เป็นนะครับ พอดีคุณพ่อ คุณแม่ และ คนอื่นๆ จะไม่ให้สนเรื่องไพ่ การดูคะแนนต่างๆทำไม่เป็น จูนแรมง่ายกว่าเยอะ แต่เท่าที่มองดู Microsoft Solitaire มันมีการอัพเกรดการเล่นที่มากกว่าเมื่อก่อนแน่นอนครับ
โดยส่วนตัว Windows 11 ถ้าเทียบกับ Windows 10 สั้นๆง่ายๆ การใช้งานเหมือนเดิม แต่ Ui สวยขึ้น การออกแบบดีไซน์ ภาพต่างๆ ตัดมุมหน้าต่างโค้ง การใช้งานดูทันสมัยขึ้นในยุค 2021