กระทรวงศึกษาธิการ ผนึกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมขับเคลื่อนโครงการ THAI Academy - AI in Education มุ่งยกระดับระบบการศึกษาไทยเข้าสู่ยุคใหม่ วางรากฐานพร้อมสร้างโอกาสการเรียนรู้ด้วย AI ให้กับคนไทยทุกช่วงวัย เพื่อส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษาด้วยแพลตฟอร์มและเครื่องมือดิจิทัลแห่งอนาคต
วิสัยทัศน์การเรียนรู้แห่งอนาคตผ่าน THAI Academy
ภายใต้วิสัยทัศน์ของท่านนายกรัฐมนตรีในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมดิจิทัลที่มีศักยภาพในการใช้เทคโนโลยี AI อย่างทั่วถึงและยั่งยืน รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายชัดเจนในการสร้างระบบนิเวศ AI ที่เชื่อมโยงกันอย่างบูรณาการ โดยตั้งเป้าผลิตบุคลากรเฉพาะทางด้าน AI จำนวนกว่า 30,000 คน และพัฒนาทักษะการใช้งานในระดับประชาชนทั่วไปให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านคนภายในปี 2570 เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ ซึ่งแผนขับเคลื่อนดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของบอร์ด AI แห่งชาติที่มีท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศนำนโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติจริงผ่านการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา โดยเน้นการสร้างทักษะ “3+1 ภาษา” ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษาดิจิทัล เพื่อให้เยาวชนไทยมีทักษะที่จำเป็นในการดำรงชีวิตและทำงานในยุคดิจิทัล การดำเนินงานด้านการศึกษานี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ (1) การส่งเสริมจริยธรรมและกฎหมายด้าน AI (2) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (3) การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและการศึกษา (4) การวิจัยและนวัตกรรม AI และ (5) การส่งเสริมการใช้ AI ในภาคเศรษฐกิจและสังคม โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับประเทศสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคด้านเทคโนโลยีและการเรียนรู้แห่งอนาคต
โครงการ THAI Academy - AI in Education จึงเป็นโครงการ ที่มุ่งสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา และยกระดับทักษะ รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้คนไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ต่อยอดแนวคิดการเรียนรู้แบบ Anywhere Anytime ผ่านแพลตฟอร์มการศึกษาระดับชาติ หรือ National Digital Learning Platform (NDLP) นำเนื้อหาเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์มาบูรณาการ โดยเน้นความกระชับ เข้มข้น และต่อเนื่อง ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนรู้ตามความสนใจได้อย่างยืดหยุ่น โดยในระยะแรกมุ่งสร้างทักษะครอบคลุมนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายกว่า 600,000 คนทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาแพลตฟอร์ม NDLP ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยการนำเครื่องมืออัจฉริยะอย่าง AI Chatbot และ AI Agent มาให้บุคลากรทางการศึกษาได้ใช้งานเพื่อปรับบทเรียนให้เหมาะสมกับผู้เรียน และยกระดับมาตรฐานการสอนให้เป็นหนึ่งเดียวทั่วประเทศ
พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “ความร่วมมือในโครงการ AI in Education นี้ไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีเข้ามาเติมเต็ม แต่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ยกระดับทั้งผู้เรียนและผู้สอนทั่วประเทศ เราเชื่อว่า AI จะช่วยให้เด็กไทยเข้าถึงทักษะที่พวกเขาสนใจอยากเรียน ส่วนครูเองก็มีเครื่องมือที่พร้อมสนับสนุนให้การสอนมีคุณภาพ ทันสมัย และเท่าเทียม เพื่อให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลาอย่างแท้จริง”
เสริมศักยภาพบัณฑิตไทย สู่เศรษฐกิจดิจิทัล
กระทรวง อว. ได้ร่วมกับไมโครซอฟท์ สนับสนุนหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้นักศึกษา และประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ AI ได้ฟรี ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง โดยมีเส้นทางการเรียนรู้ที่ออกแบบมาอย่างเป็นระบบ ภายใต้ชื่อโครงการ Developer AI Skills Journey ซึ่งจะเตรียมความพร้อมให้บัณฑิตไทยสามารถเข้าสู่อาชีพที่กำลังเติบโตในอนาคต เช่น วิศวกร AI นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และผู้เชี่ยวชาญด้าน Prompt Engineering เป็นต้น
ตัวอย่างหลักสูตรได้แก่ “AI Skills for Everyone” ที่วางรากฐานความเข้าใจปัญญาประดิษฐ์สำหรับผู้เริ่มต้น หรือ “Azure AI: Zero to Hero” ที่เจาะลึกการใช้งานเทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มคลาวด์ของไมโครซอฟท์ เพื่อการพัฒนา AI ในระดับสูง เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการพัฒนาระบบ micro-credentials ที่เอื้อให้นักศึกษาจากหลากหลายสาขา สามารถเลือกเรียนบทเรียนทักษะ AI ที่ตนเองสนใจ เพื่อเติมเต็มความรู้ และสามารถสะสมเป็นหน่วยกิตในรายวิชาศึกษาทั่วไปผ่านแพลตฟอร์ม GETS ที่นำเนื้อหาจากหลักสูตรของไมโครซอฟท์ ไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการเรียนรู้
ศาสตราจารย์ ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า “เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ การพัฒนากำลังคนจึงต้องทันกับความเปลี่ยนแปลง กระทรวง อว. มีบทบาทสำคัญในการปั้นคนไทยในระดับอุดมศึกษาให้มีทักษะที่ตลาดต้องการผ่านการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยไม่จำกัดอายุหรือสถานะทางการศึกษา ความร่วมมือในวันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของระบบที่ทุกคนจะมีสิทธิ์เข้าถึงความรู้ใหม่ และสามารถกำหนดอนาคตของตัวเองได้”
อนึ่ง กระทรวง อว. ได้จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการศึกษาทั่วไปและการพัฒนาทักษะข้ามสายงานในสถาบันอุดมศึกษา (GETS) ขึ้น ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งของทรัพยากรบุคคลให้มีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills) เป็นทุนมนุษย์ที่มีคุณภาพของประเทศ และศูนย์ฯ นี้จะเป็นแพลตฟอร์มรองรับโครงการความร่วมมือดังกล่าวนี้ต่อไป ในอนาคต
พลังของพันธมิตรระดับโลก ร่วมสร้างทักษะแห่งอนาคต
ในโครงการนี้ ไมโครซอฟท์ได้มีบทบาทสำคัญในการเสริมทักษะ AI ให้กับคนไทย ผ่านหลักสูตรออนไลน์ภาษาไทย ให้เรียนรู้ได้ฟรี ถึง 200 หลักสูตร ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงหลักสูตรเฉพาะทางสำหรับบุคลากร เช่น ครู ผู้บริหาร หรือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดย นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “วันนี้ คือจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานด้านการศึกษาที่แข็งแกร่ง โดยนำทักษะ AI มาให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับทักษะภาษา การลดช่องว่างระหว่างผู้สอนและผู้เรียน รวมถึงส่งเสริมประเทศไทยให้ยกระดับจากการเป็นผู้ใช้งานไปสู่ผู้สร้างสรรค์ ด้วยการทำงานร่วมกันกับกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวง อว. เพื่อพัฒนาศักยภาพครูด้วยทักษะ AI ตั้งแต่ระดับพื้นฐานและขั้นสูง และในอนาคต เรามีการวางแผนระยะยาวร่วมกันเพื่อสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทย”
ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการผนึกพลังระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง อว. และภาคเอกชนในการขับเคลื่อนการใช้ AI เพื่อการเรียนรู้ในสังคมไทย ทั้งสองกระทรวงมีความมุ่งมั่นที่จะเปิดกว้างต่อความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย หรือภาคอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ เท่าเทียม และตอบโจทย์อนาคตของประเทศไทยอย่างแท้จริง
เชื่อมโยงทุกวัย สู่ระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต
โครงการ THAI Academy - AI in Education ยังครอบคลุม ถึงการพัฒนาทักษะ AI เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษา อาชีวศึกษา ไปจนถึงการเรียนรู้นอกระบบ นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวง อว. ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาคลังหน่วยกิตกลาง หรือ National Credit Bank System ซึ่งจะเป็นระบบที่รวบรวมผลการเรียนรู้ในทุกช่วงวัยเข้าสู่ฐานข้อมูลเดียว และยังมีแอปพลิเคชันพอร์ตโฟลิโอ ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถวางแผนเส้นทางการศึกษาและอาชีพของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การศึกษาจึงไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ในห้องเรียนหรือกรอบของอายุอีกต่อไป แต่จะเป็นระบบที่เชื่อมโยงการเรียนรู้กับโอกาสการทำงานในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม