มีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้รัฐบาลทรัมป์กำลังพิจารณาเข้าซื้อหุ้นในอินเทลเพื่อช่วยให้บริษัท และที่สำคัญกว่านั้นคือฝ่ายโรงหล่อของบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้รายงานเกี่ยวกับแนวคิดที่ว่าอินเทลกำลังร่วมมือกับรัฐบาลทรัมป์ เนื่องจากลิป-บู ตัน ซีอีโอของอินเทลได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมที่ทำเนียบขาว อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าข้อตกลงกำลังใกล้จะเกิดขึ้นจริง แนวคิดล่าสุดที่เสนอคือรัฐบาลสหรัฐฯ จะเข้าซื้อหุ้นที่รัฐเป็นเจ้าของในอินเทล โดยใช้วิธีการต่างๆ เช่น การลงทุนในหุ้น การซื้อกิจการโดยรัฐบาลที่มีหลักประกัน เงินกู้ การจัดหาเงินทุนจากภาคเอกชน และช่องทางอื่นๆ เพื่อรักษาความเป็นไปได้ของอินเทลและการดำเนินงานด้านการผลิตอันล้ำสมัย แหล่งข่าวเอกชนของบลูมเบิร์กระบุว่า ข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นจะมุ่งเน้นไปที่การจัดตั้งโรงงานผลิตโหนดแห่งใหม่สองแห่งที่ทันสมัยในเขตลิกกิง รัฐโอไฮโอ
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในการทำข้อตกลงกับบริษัทภายนอก บริษัท MP Materials ซึ่งเป็นบริษัทที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ก็ได้รับข้อตกลงกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อเร่งการสร้างห่วงโซ่อุปทานแม่เหล็กหายากของสหรัฐฯ และลดการพึ่งพาต่างประเทศ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ บริษัทในประเทศกำลังบรรลุข้อตกลงใหม่ ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์จะยังคงดำเนินงานต่อไป เพื่อผลประโยชน์ของชาติและความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐอเมริกา การวิจัย พัฒนา และผลิตโหนดล้ำสมัยของ Intel Foundry อย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เมื่อถูกถามเกี่ยวกับข้อตกลงนี้ โฆษกของ Intel กล่าวว่า "เราตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลทรัมป์ต่อไปเพื่อผลักดันลำดับความสำคัญร่วมกันเหล่านี้ แต่เราจะไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวลือหรือการคาดเดา" ราคาหุ้นของ Intel เพิ่มขึ้น 7% ทันทีที่ทราบข่าว ดังนั้นตลาดจึงตั้งราคาข้อตกลงนี้ด้วยความมั่นใจสูงว่าจะสำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์
ที่มา : bloomberg
ที่มา : bloomberg