การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนต่อหลายอุตสาหกรรมและภาคส่วน ทว่าไม่สามารถหยุดการพัฒนาที่รวดเร็วของอุตสาหกรรมไอซีที โดยคณะกรรมการผู้จัดงาน Interop Tokyo 2020 หรืองานแสดงด้านไอซีทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้ประกาศผู้ชนะรางวัล Best of Show Award ซึ่งผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่มีนวัตกรรมของหัวเว่ยคว้าไป 8 รางวัล แสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบด้านเทคนิคที่มีเอกลักษณ์
หัวเว่ย ได้รับรางวัลดังนี้:
- รางวัลใหญ่สาขา Network Infrastructure สำหรับ OptiXtrans OSN 9800 M12 ผลิตภัณฑ์ส่งผ่านข้อมูล Super C-band ตัวแรกของอุตสาหกรรม
- รางวัลใหญ่สาขา Cloud Infrastructure สำหรับสวิตช์ศูนย์ข้อมูล CloudEngine 16800 ซึ่งเป็นไลน์การ์ด 400 GE ที่มีความหนาแน่นที่สุดในอุตสาหกรรมสำหรับศูนย์ข้อมูลในยุค AI
- รางวัลใหญ่สาขา Server and Storage สำหรับ OceanStor Dorado 8000/18000 V6 โซลูชันการจัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลชรุ่นใหม่ ที่มุ่งเน้นการผลิตและการทำธุรกรรมหลัก พร้อมเข้ามากำหนดมาตรฐานใหม่ในแง่ของสมรรถนะ ความน่าเชื่อถือ และความอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง
- รางวัลใหญ่สาขา IoT สำหรับ AR502H เกตเวย์ประมวลผลแบบเอดจ์ของหัวเว่ย
- รางวัลใหญ่สาขา Facility สำหรับ eMIMO โซลูชันสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการประมวลผลแบบเอดจ์
- รางวัลสาขา AI สำหรับคลัสเตอร์ Huawei Atlas 900 โดยเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลดังกล่าว
- รางวัลพิเศษสาขา Enterprise IT สำหรับ Huawei 5G AR NetEngine AR6000
- รางวัลพิเศษสาขา Network Infrastructure สำหรับผลิตภัณฑ์ Data Center Interconnect (DCI) อัจฉริยะอย่าง Huawei OptiXtrans DC908 โดยมีความจุไฟเบอร์เดี่ยวอยู่ที่ 88 Tbit/s พร้อมด้วยการดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) ด้วย AI
- รางวัลของหัวเว่ยจากงาน Interop Tokyo 2020 และจากปีก่อนหน้านั้น แสดงให้เห็นการยอมรับของแวดวงอุตสาหกรรมต่อนวัตกรรมและคุณภาพของหัวเว่ย และสะท้อนการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวด้านการวิจัยและการพัฒนา (R&D) ด้วย การยอมรับดังกล่าวทั้งจากคนในวงการและลูกค้ายังเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังความทุ่มเทที่ต่อเนื่องของบริษัท หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะลงทุนด้าน R&D ในระยะยาว เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชันไอซีทีที่มีศักยภาพแข่งขัน เปี่ยมนวัตกรรม และมีเอกลัษณ์ผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีหลัก
หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 Interop Tokyo 2020 จึงได้ยกเลิกการจัดแสดงภาคสนาม โดยได้หันไปเปิดการจัดแสดงและการประกาศรางวัลด้านไอซีทีทางออนไลน์แทน ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน งานดังกล่าวได้แสดงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำที่สุด ตลอดจนแนวปฏิบัติต่าง ๆ ภายในอุตสาหกรรม Interop Tokyo รวบรวมโซลูชันชั้นนำในหลากหลายสาขา เช่น AI, IoT, การประมวลผลแบบเอดจ์ และอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม และช่วยสร้างพละกำลังและความมั่นใจแก่อุตสาหกรรมและโลกในวงกว้างขึ้น
หัวเว่ยได้สานต่อความร่วมมือ “ที่เปิดกว้าง ทำงานร่วมกัน และสร้างประโยชน์ร่วมกัน” กับพันธมิตร จนทำให้สามารถจัดแสดงระบบนิเวศอัจฉริยะด้านดิจิทัลใหม่ล่าสุด และกรณีการใช้งานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผลิตภัณฑ์และโซลูชันรวมกัน 14 รายการ ข้อเสนอที่ล้ำสมัยเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของหัวเว่ย ในการเร่งความก้าวหน้าด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างครอบคลุมในแวดวงไอซีที ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีไอซีทีและระบบนิเวศใหม่ และด้วยการสั่งสมประสบการณ์ด้านการบริการระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง หัวเว่ยจึงได้รับความไว้วางใจจากองค์กรธุรกิจชั้นนำที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จนถึงปัจจุบัน กว่า 700 เมืองและบริษัทระดับ Fortune Global 500 ทั้งสิ้น 228 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงบริษัทระดับ Fortune Global 100 ทั้งสิ้น 58 ราย ได้เลือกหัวเว่ยเป็นผู้ช่วยในการพลิกโฉมสู่ยุคดิจิทัล