หลายคนอาจไม่ทราบว่าหลังจากอัพเดตวินโดวส์แล้ว (ไม่ว่าจะเป็น April หรือ October Update ครั้งล่าสุด) พื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ของคุณจะถูกกันไว้มากกว่า 10GB สำหรับเก็บไฟล์แบ็กอัพกรณีที่การอัพเดตมีปัญหาหรือต้องการยกเลิกและย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันเก่า วันนี้เรามีวิธีการเอาพื้นที่เหล่านั้นกลับมาใช้ประโยชน์ จะทำอย่างไร ไปดูกันครับ
โดยปกติแล้วไฟล์แบ็กอัพของวินโดวส์อัพเดตจะมีขนาดเริ่มต้นประมาณ 10GB และอาจใหญ่ถึง 20GB ในบางเครื่อง (ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่ติดตั้งอยู่ในระบบ) ซึ่งถ้าเครื่องของคุณมีฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ๆ ก็อาจไม่ใช่ปัญหา เพราะหลังจากอัพเดตไปแล้ว 10 วันระบบจะทำการลบมันออกไปให้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าใครรอไม่ได้ เพราะพื้นที่ใช้สอยจำกัดจำเขี่ยสุดๆ เช่นใช้ SSD 64 หรือ 128GB พื้นที่ 10-20GB นี้ถือว่ามีค่ามหาศาลเลยทีเดียว ที่สำคัญมันอาจเป็นตัวการที่หน่วงให้วินโดวส์ทำงานช้าลงด้วย ดังนั้น ถ้าหลังอัพเดตแล้วไม่ติดปัญหาอะไร (ย้ำ! ว่าต้องมั่นใจแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร) แนะนำให้ลบมันออกไปเพื่อขอคืนพื้นที่กลับมาใช้ประโยชน์ดีกว่า
แต่เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ทำการสร้าง Restore Point ไว้ก่อนเผื่อกรณีฉุกเฉินจะได้เรียกคืนระบบกลับมาได้
- คลิกปุ่ม Start พิมพ์ “Create a restore point” ในช่องค้นหาแล้ว Enter
- ที่หน้าต่าง System Properties คลิกเลือกไดรฟ์ในหัวข้อ Protection Settings (ปกติจะเป็นไดรฟ์ C: ) แล้วคลิกปุ่ม Create
- ตั้งชื่อ Restore Point เพื่อให้สามารถจำได้ อาจจะใส่วันที่ก็ได้ แล้วคลิกปุ่ม Create ก็เป็นอันปลอดภัย
หลังจากสร้าง Restore Point แล้ว ทีนี้ก็ได้เวลามากำจัดไฟล์ที่ไม่ต้องการใช้เพื่อขอคืนพื้นที่กันครับ
1. เข้าไปที่เมนู Settings > System > Storage > Free Up Space Now
2. คลิกทำเครื่องหมายที่ออปชัน “Previous Windows Installation” สังเกตด้านท้ายคือพื้นที่ที่คุณจะได้กลับคืนมา ในกรณีที่ต้องการ อาจจะเลือกออปชัน “Windows upgrade log files” ด้วยก็ได้
3. คลิกปุ่ม Remove files แล้วรอสักครู่ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ