ภาพของการเฝ้าระวังพื้นที่ขนาดย่อม-กลางในตอนกลางคืน นับว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง เพราะกล้องมักจำกัดเฉพาะกล้องกลางวันหรือกลางคืน และกล้องในสภาวะแสงน้อย (บางครั้งเรียกว่ากล้อง Starlight) ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ยังคงให้ภาพสีเมื่อระดับแสงลดลงจนถึงจุดหนึ่ง แต่จะเปลี่ยนเป็นขาวดำเมื่อสภาพแสงน้อยลงไปอีก แต่เพื่อรักษาภาพสีในสภาพแสงน้อย กล้องเหล่านี้จะเกิดข้อจำกัดในมุมมองอื่นๆ เช่น สัญญาณรบกวนและความคมชัด มักจะถูกลดทอนลง กล้องที่พยายามรักษาภาพสีในเวลากลางคืนมักจะมีปัญหาเมื่อมีการเคลื่อนไหว หรือเมื่อมีช่วงไดนามิกกว้าง (ความแตกต่างระหว่างส่วนที่สว่างที่สุดและมืดที่สุดของฉาก)
แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าภาพสีจะคมชัดในเวลากลางคืน?
นี่คือเคล็ดลับ 3 ข้อ !
กล้องเลนส์คู่
กล้องที่ตรวจจับได้ดีแม้มีแสงน้อยกำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของ IHS Markit ในปี 2019 จำนวนกล้องวิดีโอที่ติดตั้งฟังก์ชันการทำงานในสภาวะแสงน้อยถูกตั้งค่าให้เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 4.75 ล้านในปี 2015 เป็น 51 ล้านในปี 2022
กล้องเลนส์คู่ คือ มีเลนส์สองตัว ตัวหนึ่งใช้เก็บข้อมูลความสว่าง อีกตัวหนึ่งใช้เก็บข้อมูลสี โดยกล้อง IP Dahua Full-color 2.0 ที่อัปเกรดแล้วมาพร้อมกับคุณสมบัติดังกล่าว โดยการพัฒนาแบบเฟรมต่อเฟรมในระดับพิกเซล กล้องเลนส์คู่รุ่นนี้มีความคมชัดของภาพสูงและสีสันสดใส แม้ในขณะที่แสงไฟเสริมปิดอยู่ ซึ่งช่วยลดมลภาวะทางแสงและการดึงดูดแมลงที่อาจส่งผลเสียต่อการตรวจจับ ยิ่งไปกว่านั้น กล้องเหล่านี้ยังมีกระบวนการ AA (Active Alignment) ซึ่งปรับแสงที่เข้ามาให้เข้ากับเซ็นเซอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ กล้อง Full-color มีจำหน่ายในรูปแบบ Bullet Box และ Eyeball
นอกเหนือจากกล้องเลนส์คู่แล้ว Dahua Full-color 2.0 series ยังมีคุณสมบัติอัจฉริยะอื่นๆ เช่น เลนส์ Vari-focal และความละเอียดสูง 4K
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dahua Full-color 2.0 คลิก https://bit.ly/3nK5AZQ
ใช้อินฟาเรด (IR) และไฟส่องสว่างร่วมกัน
อินฟราเรด (IR) และไฟส่องสว่างสีขาวเป็นไฟเสริมของกล้องทั่วไป ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณใช้ โดยอาจส่งผลต่อคุณภาพของภาพในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยหรือในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตาม การใช้แสงไฟสีขาวมากเกินไปทำให้เกิดมลภาวะทางแสง โดยเฉพาะในเขตเมือง
TiOC 2.0 (กล้อง 3-in-1) ของต้าหัว มาพร้อมไฟส่องสว่างคู่อัจฉริยะ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างโหมด IR และโหมดแสงไฟส่องสว่างสีขาว (หรือที่เรียกว่าโหมด Full-Color) ได้อย่างยืดหยุ่น โดยไฟส่องสว่างและอินฟราเรดมีมาในตัวกล้อง เมื่อมีบุคคลเข้าสู่พื้นที่การตรวจจับไฟส่องสว่างสีขาวจะทำงานและเปิดใช้งานโหมดสีเต็ม เมื่อเป้าหมายออกจากพื้นที่ LED จะดับลงและ IR จะเปิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งช่วยลดมลภาวะทางแสงในพื้นที่ได้อย่างมาก
นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยี OPC (Optical Path Compensation) กล้อง TiOC 2.0 ยังสามารถแก้ไขมุมการหักเหของแสงที่แตกต่างกัน ทำให้กล้อง Dahua IP สามารถส่งออกภาพขาวดำที่สว่างและชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยเลนส์รูรับแสงขนาดใหญ่ F1.0 นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเทคโนโลยี VoiceCatcher ซึ่งเป็นไมโครโฟนคู่ที่ปรับปรุงคุณภาพเสียงและประสิทธิภาพการรับเสียง โดยกล้องรุ่น TiOC 2.0 มีทั้งความละเอียด 8MP, 5MP หรือ 4MP
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dahua TiOC 2.0 คลิก https://bit.ly/2YZg797
การติดตามอัตโนมัติ
การติดตามอัตโนมัติเป็นคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในกล้อง PTZ ระบบติดตามอัตโนมัติทำให้เป้าหมายที่เคลื่อนที่อยู่ในโฟกัสและอยู่ตรงกลางเฟรม ทำการติดตามเป้าหมายโดยอัตโนมัติภายในขอบเขตการมองเห็น
กล้องรุ่น TiOC 2.0 มาพร้อมกับการติดตามอัตโนมัติ 3.0 (Auto Tracking 3.0) โดยอิงตามอัลกอริธึมการ Deep-learning โดยใช้ฟังก์ชันเคลื่อนกล้อง เอียง และซูมกล้อง เพื่อติดตามเป้าหมายการเคลื่อนไหวที่กำหนดไว้ล่วงหน้าโดยอัตโนมัติแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยหรือในเวลากลางคืน ทำให้เกิดกระบวนการติดตามที่ราบรื่นผ่านการผสานของอัลกอริธึมอัจฉริยะและการโฟกัส และสามารถติดตามเป้าหมายได้ไกลถึง 870 เมตร โดยอัลกอริธึม Auto Tracking 2.0 นั้นมีข้อกำหนด เพราะขนาดการติดตามเป้าหมายจะลดลงไปอีกเมื่ออยู่ในระยะไกลขึ้น
สรุป
เนื่องด้วยความยากลำบากในการตรวจจับในเวลากลางคืน ได้รับการตอบโจทย์ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ที่ทำให้การตรวจสอบสีในสภาพแสงน้อยนั้นเป็นไปได้ กล้อง Full-color ของต้าหัว ไม่ว่าจะเป็นแบบสแตนด์อโลนหรือเป็นส่วนหนึ่งของรุ่น TiOC ก็สามารถให้ภาพและการเฝ้าระวังที่ดียิ่งขึ้นได้ทุกเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วยการใช้กล้องที่ตรวจจับได้แม้มีแสงน้อย ที่มาพร้อมเลนส์คู่ ไฟส่องสว่างคู่อัจฉริยะ และการติดตามอัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่ต้องทนกับภาพที่ไม่ดีและใช้งานไม่ได้ในตอนกลางคืนอีกต่อไป ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น หมู่บ้าน ลานจอดรถ และร้านค้าปลีก เป็นต้น