หากท่านยังสงสัยว่าจะเลือกซื้อ CPU แบบไหนดีใน intel generation 12 ครั้งนี้จะมาอธิบายแบบง่ายๆกัน
INTEL GEN 12TH ALDER LAKE น่าสนใจอย่างไร
หลักๆเลยต้องยอมรับว่าปีนี้ Intel Gen 12 มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยที่มีการออกแบบ Hybrid Design ออกมา ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้นไปมากๆ แล้ว Hybrid Core ดีอย่างไรมาดูกัน
Hybrid Core : เทคโนโลยีการทํางานที่เปลี่ยนโครงสร้าง architecture ครั้งสําคัญของการประมวลผลคอมพิวเตอร์แบบที่ไม่เคยมีใครทํามาก่อน
ซึ่งจะเป็นการเปิดตัวครั้งแรกกับ อินเทล เจนเนอเรชั่นที่ 12 หรือที่เรียกว่า Alder Lake เพราะตอนนี้ การประมวลผลด้วยสมองกลของซีพียูจะผสมผสานกันได้อย่างลงตัว และเป็นการทํางานแบบ " Hybrid" อย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีสุดลํ้าที่เรียกว่า Intel® Thread Director Technology ลิขสิทธิ์เดียวของอินเทล เท่านั้น! ซึ่งถือเป็นก้าวสําคัญในการทํางาน Multi-Threads อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการใช้พลังงานตํ่า ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดนั้นมาจากการออกแบบโครงสร้างหน่วยประมวลผลแบบใหม่ที่เรียกว่า Hybrid Core Technology จะเป็นการประสานประสิทธิภาพของ Performance Cores(P-Core) และ Efficiency Cores(E-Core) เข้าด้วยกันโดยมี Intel® Thread Director ทําหน้าที่ควบคุมและประสานการทํางาน P-Core & E-Core บน Windows 11 ให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด พร้อมทั้งจัดการ การใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่าซึ่งไม่เคยทําใครคิดและทํามาก่อน
*** นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Intel® ARC™ Alchemist Graphics และ Ai Technology อีกด้วย
ในครั้งนี้ก็จะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อ CPU ใน Gen 12 นี้โดยจะเป็นในกลุ่มของ mainstream อย่างที่หลายๆท่านคุ้นเคยกัน
INTEL GEN 12th Alder Lake ในกลุ่ม Mobility หรือ Notebook
สำหรับ Notebook หรือ Laptop นั้นจะผลิตบนเทคโนโลยี Intel 7 Process มี P-Core เน้นความอัจฉริยะในการทํางานระดับสูง และ E-Core เน้นประสิทธิและการประหยัดพลังงานที่ดี โดยทุกตัวในกลุ่มของ Mobility หรือ Notebook จะมี GPU Intel Iris Xe Graphic มาทุกตัว
H series เน้นความแรงที่สุดเหมาะสำหรับเกมมิ่ง หรือ สายครีเอเตอร์ บริโภคพลังงานเริ่มต้นที่ 35-45W
P series เป็นซีพียูใหม่ที่มีสเปคเดียวกับ H series แต่กำหนดค่า TDP เอาไว้ที่28W เพื่อใช้งานกับโน้ตบุ๊คกลุ่มบางเบา ได้ความแรงและแบตเตอรีที่ยาวนานกว่า
U series เน้นประหยัดพลังงาน สำหรับโน้ตบุ๊กบางเบา เป็น Hybrid core ที่ทำงานได้แรงขึ้นแต่ใช้พลังงานน้อยลงครึ่งหนึ่งของรุ่นก่อน เหลือเพียง 9W-15W
INTEL GEN 12th Alder Lake ในกลุ่ม Desktop หรือ PC
สำหรับ Desktop หรือ PC นั้นจะมี Hybrid Core Processors สูงสุดที่ 16C/24T โดย Core i9 และ Core i7 ทุกรุ่น จะเป็น Hybrid Core ส่วน Core i5 จะมีเฉพาะ K series ที่เป็น Hybrid Core
Core i9 เป็นรุ่นที่เอาใจสายโหด ที่มีความต้องการ แรงสุด เร็วสุด เน้นความสุด โดยไม่ต้องกังวลว่า i5 หรือ i7 จะเพียงพอสำหรับการใช้งานหรือไม่ ก็ไปให้สุดทางด้วย i9 ตัวนี้เลย
i9-12900K 16C/24T (8P+8E) : CPU ตัวนี้คือตัวแรงที่สุด เหมาะสำหรับสายโหดใช้งานหนักที่ต้องประมวลผลรวดเร็วมี C/T มากถึง 16 Cores / 24 Threads รองรับทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นสาย Creator หรือ Gaming เพราะมี Boost Frequency ที่ 5.2GHz สามารถ Overclock เพิ่มขึ้นไปได้อีก
i9-12900KF 16C/24T (8P+8E) : ประสิทธิภาพเหมือนด้านบน แตกต่างที่ไม่มี GPU มาให้ใช้งานทำให้ไม่สามารถใช้ Intel Quick Sync ได้
i9-12900 16C/24T (8P+8E) : Base Frequency จะลดลงมาอยู่ที่ 2.4 GHz และ Boost Frequency ที่ 5.1 GHz มี iGPU ที่มาพร้อม Intel Quick Sync ช่วยให้การทำงานรวดเร็วเช่น การตัดต่อ เรนเดอร์ พรีวิว หรือแม้แต่การสตรีมด้วย (ไม่สามารถ Overclock )
Core i7 เป็นรุ่นที่เน้นประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาจาก i5 หรือจะเรียกว่าเป็นตัวตรงกลางเลยก็ได้ แต่ถึงจะเป็นตัวตรงกลาง แต่เชื่อเถอะว่าแค่นี้ก็แรงเพียงพอทุกการใช้งานแล้ว
i7-12700K 12C/20T (8P+4E) : CPU ตัวนี้คือตัวรองลงมาจาก i9-12900K เหมาะสำหรับการใช้งานที่เน้นประสิทธิภาพจะเห็นได้ว่า มีการลด C/T ลงมาเป็น 12 Core และ 20 Threads สำหรับการใช้งานทุกรูปแบบจะ Creator หรือ Gaming ก็ได้แต่ไม่ได้เน้นความแรงหวือหวา Boost Frequency ที่ 5.0GHz สามารถ Overclock เพิ่มขึ้นไปได้อีก
i7-12700KF 12C/20T (8P+4E) : ประสิทธิภาพเหมือนด้านบน แตกต่างที่ไม่มี GPU มาให้ใช้งาน
i7-12700 12C/20T (8P+4E) : Base Frequency จะลดลงมาอยู่ที่ 2.1 GHz และ Boost Frequency ที่ 4.9 GHz ( ไม่สามารถ Overclock )
Core i5 เป็นรุ่นที่มีราคาประหยัดคุ้มค่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการอัปเกรด CPU ใหม่มาเป็น Gen 12th ถึงแม้ว่าราคาประหยัดแต่ประสิทธิภาพเรียกได้ว่าเหลือเฟือ สำหรับ Core i5 นี้ จะเป็น Hybrid core เฉพาะรุ่นที่เป็น K series เท่านั้น
i5-12600K 10C/16T (6P+4E) : CPU ตัวนี้ เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป ไม่ได้เน้นไปในด้านการประมวลผลหนัก มี 10 Core และ 16 Threads แต่ก็ถือได้ว่าเกินพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป Boost Frequency 4.9 GHz สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลด้วยการ Overclock เพิ่มขึ้นไปได้อีก
i5-12600KF 10C/16T (6P+4E) : ประสิทธิภาพเหมือนด้านบน แตกต่างที่ไม่มี GPU มาให้ใช้งาน
i5-12600 6C/12T (6P+0E) : Base Frequency จะลดลงมาอยู่ที่ 3.3 GHz , ลด Cache ลงมาเหลือ 18M , ไม่มี Efficient-cores , แม้ไม่ใช่ Hybrid แต่ก็ทรงพลังและมีความสามารถด้าน Single thread ที่สูง ( ไม่สามารถ Overclock )
Core i3 เป็นซีพียูน้องเล็กที่สุดในตระกูล i แต่หัวใจไม่ได้เล็กลง มีราคาถูกที่สุดเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป งานเอกสาร , เล่นอินเตอร์เน็ต , เกมส์ทั่วๆไปที่ไม่มีการกินทรัพยากรของซีพียูจำนวนมากๆ หรือสรุปง่ายๆว่าการใช้งานออฟฟิศทั่วๆไป Core i3 Intel 12th Gen นี้สามารถรับมือได้สบายๆเลย
i3-12100 4C/8T : มี Base Frequency อยู่ที่ 3.3 GHz ส่วน Boost Frequency อยู่ที่ 4.3 GHz ถึงแม้ว่าจำนวน Core มีไม่เยอะเท่ารุ่นพี่ แต่ก็ยังคงไว้เรื่องความทรงพลังและมีความสามารถด้าน Single thread ที่สูงเช่นเดิม มี iGPU ที่มาพร้อม Intel Quick Sync ช่วยให้การทำงานด้านวีดีโอรวดเร็วยิ่งขึ้น
i3-12100F 4C/8T : ประสิทธิภาพเหมือนด้านบน แตกต่างที่ไม่มี GPU มาให้ใช้งาน
ตาราง CPU 12th Gen Intel
ใครที่กำลังจะอัปเกรดหรือประกอบคอมพิวเตอร์ใหม่อยู่ก็ต้องบอกว่าการเลือกใช้พีซีใหม่เป็น CPU 12th Gen จากทาง Intel นี่ก็ถือว่าคุ้มค่ามากเพราะมีพัฒนาอย่างก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัดตามที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อนๆอาจจะพอได้เห็นประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้จากเว็บไซต์ของเราบ้างแล้ว ก็อย่างที่ทราบกันว่า Intel 12th Gen แรงจริงๆ
ช่วงนี้ก็ใกล้ถึงงาน Commart 2022 ในปีนี้แล้ว หวังว่าเพื่อนๆจะได้เลือกซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ที่ถูกใจและตรงกับตัวเรามากที่สุดมาครอบครองกัน
สวัสดีครับ