รัฐบาลจีนได้ดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ชิป AI ของ NVIDIA เข้าสู่ตลาดจีน โดยซีอีโอของ NVIDIA “เจนเซน หวง (Jensen Huang)” ยอมรับในการให้สัมภาษณ์เมื่อไม่นานมานี้ว่า ส่วนแบ่งตลาดของชิป AI จาก NVIDIA ในจีนได้ร่วงลงจาก 95% เหลือ 0% แล้ว
ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของทำเนียบขาว เดวิด แซกส์ (David Sacks) กล่าวในการประชุมของ SalesForce ว่า การที่จีนไม่ซื้อชิป AI จากสหรัฐฯ ในขณะนี้ เป็นเพราะต้องการ “สนับสนุน Huawei” ให้สามารถแข่งขันกับสหรัฐฯ ในตลาดชิป AI ซึ่งถือเป็น ความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ ที่สหรัฐฯ ต้องระวังเป็นพิเศษ
สถานการณ์นี้จึงกลายเป็นเรื่องย้อนแย้ง —
จีนซื้อชิป AI ระดับสูงจากสหรัฐฯ → เป็น “ภัยต่อความมั่นคงของชาติอเมริกา”
จีนไม่ซื้อชิปจากสหรัฐฯ → ก็ยัง “เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติอเมริกา” อยู่ดี
ตามรายงานของ The Business Journals เดวิด แซกส์ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่เข้าใจโครงสร้างระบบนิเวศของเทคโนโลยีอย่างแท้จริง และมักใช้แต่มาตรการทางกฎหมายเพื่อควบคุมการพัฒนา AI ของจีน ซึ่งแนวทาง “ราชการจัดการ” แบบนี้ กำลังกลายเป็นสิ่งที่ บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ เอง
แซกส์ชี้ว่า แม้สหรัฐฯ จะยังคงมีความได้เปรียบอย่างมากในเทคโนโลยีชิป AI และการห้ามส่งออกชิประดับสูงไปยังจีนมีจุดประสงค์เพื่อจำกัดการฝึกโมเดล AI ของจีน แต่ความพยายามที่จะเพิ่มความเข้มงวดอย่างต่อเนื่องนั้น อาจยิ่งผลักดันให้จีน “เร่งพัฒนาเทคโนโลยีชิป AI ของตนเอง” เพื่อไล่ตามสหรัฐฯ
ท้ายที่สุด เขาเตือนว่า ตอนนี้รัฐบาลจีนมีความตั้งใจชัดเจนที่จะ ไม่ใช้ชิป AI จากสหรัฐฯ อีกต่อไป เพื่อ “ทุ่มกำลังสนับสนุนชิป AI ของ Huawei” ให้สามารถแข่งขันในระดับโลก ซึ่งนั่นเองคือสิ่งที่ “สร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ” และรัฐบาลจำเป็นต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
ที่มา: HKEPC