ผมเองก็ไม่แน่ใจนักว่าข่าวนี้จะเข้ากับแนวเนื้อหาที่เรามักนำเสนอหรือไม่ แต่หลังจากได้รับข้อมูล ก็น่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนสนใจ เพราะ “สิทธิบัตร” และ “ทรัพย์สินทางปัญญา” เป็นประเด็นที่ซับซ้อน สำหรับบางคน มันคือกับดักทางกฎหมาย แต่สำหรับอีกหลายคน มันคือช่องทางสร้างรายได้
บริษัท Adeia เป็นบริษัทที่เน้น การออกใบอนุญาตสิทธิบัตร (IP licensing) โดยพัฒนาและเข้าซื้อเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้จาก “สิทธิบัตร” ไม่ใช่จาก “ผลิตภัณฑ์ผู้บริโภค” บริษัทลักษณะนี้มักถูกเรียกว่า Non-Practicing Entity (NPE) หรือที่บางคนรู้จักกันในชื่อ “Patent Assertion Entity”
ล่าสุด Adeia ได้ยื่นฟ้อง AMD ฐานละเมิดสิทธิบัตร โดยอ้างว่า AMD ใช้เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ของตนโดยไม่ได้รับอนุญาตมานานหลายปี การฟ้องครั้งนี้ครอบคลุมสิทธิบัตรทั้งหมด 10 ฉบับ — แบ่งเป็น 7 ฉบับเกี่ยวกับเทคโนโลยี Hybrid Bonding และอีก 3 ฉบับเกี่ยวกับกระบวนการผลิตชิพขั้นสูง (Advanced Process Node Technology) ซึ่ง Adeia ระบุว่าเทคโนโลยีเหล่านี้มีส่วนช่วยให้ AMD ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาด และบริษัทยืนยันว่าพยายามเจรจาก่อนฟ้องร้องแล้วแต่ไม่สำเร็จ
“วันนี้ Adeia ดำเนินการทางกฎหมายกับ AMD เพื่อปกป้องสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา และการลงทุนของเราที่ใช้พัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์พื้นฐาน”
— Paul E. Davis, CEO ของ Adeia กล่าว“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ของ AMD ใช้นวัตกรรมที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ Adeia อย่างกว้างขวาง ซึ่งช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาด หลังจากพยายามเจรจาอย่างยาวนานแต่ไม่บรรลุผล เราจึงเห็นว่าจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของเรา”
Adeia กล่าวเพิ่มเติมว่า AMD ละเมิดสิทธิบัตร 10 ฉบับในพอร์ตโฟลิโอของบริษัท (7 ฉบับเกี่ยวกับ Hybrid Bonding และ 3 ฉบับเกี่ยวกับเทคโนโลยีกระบวนการผลิตขั้นสูง)
“เรามั่นใจว่าการดำเนินคดีนี้เป็นแนวทางที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิ่งประดิษฐ์ของ Adeia รวมถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและลูกค้า” Davis กล่าวต่อ “แม้เรายังคงเปิดกว้างต่อการเจรจาในเงื่อนไขที่เป็นธรรมและสะท้อนคุณค่าของทรัพย์สินทางปัญญา แต่เราก็พร้อมเต็มที่ที่จะต่อสู้คดีในศาล เพื่อรักษาสิทธิ์ของเราและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี”
Adeia เรียกร้องค่าเสียหาย (ไม่ได้ระบุจำนวน) และขอให้ศาลมีคำสั่ง ห้าม AMD ใช้เทคโนโลยีที่มีข้อพิพาทดังกล่าวต่อไป อย่างไรก็ตาม บริษัทยืนยันว่ายังพร้อมเจรจาเพื่อทำข้อตกลงใบอนุญาตในเงื่อนไขที่ “ยุติธรรมและเหมาะสม”
Adeia ถือครองสิทธิบัตรด้านเซมิคอนดักเตอร์จำนวนมากที่สะสมมาหลายทศวรรษ และเคยมีการฟ้องร้องบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่น ๆ มาก่อน เช่น NVIDIA ซึ่งสุดท้ายจบลงด้วย ข้อตกลงลับ (confidential settlement)
เทคโนโลยี Hybrid Bonding ที่เป็นหัวใจของคดีนี้ ถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ของ AMD Ryzen X3D ซึ่งมีจุดเด่นคือเทคโนโลยี 3D V-Cache สื่อหลายแห่งชี้ว่า เทคโนโลยีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกลยุทธ์ของ AMD และหากศาลมีคำสั่งให้ AMD หยุดผลิตหรือจำกัดการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวระหว่างการพิจารณาคดี จะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อบริษัท
ดังนั้น AMD อาจต้องเลือกแนวทางเดียวกับที่ NVIDIA เคยทำ — คือ ยอมเจรจาและยุติคดีด้วยการประนีประนอม ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายไปกว่านี้.
ที่มา: VideoCardz



