ฟีเจอร์การป้อนข้อมูลอัตโนมัตินั้นถือว่าสะดวกสบายและสามารถลดระยะเวลาในการป้อนข้อมูลได้ แต่ก็เหมาะสำหรับข้อมูลบางอย่างเท่านั้น เช่น การป้อนชื่อ ที่อยู่ สำหรับการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ส่วนข้อมูลที่เสี่ยงต่อการถูกแฮกนั้นก็คือข้อมูลเกี่ยวกับยูสเซอร์เนม พาสเวิร์ด และที่เสี่ยงมากที่สุดคือข้อมูลการเงิน โดยเฉพาะข้อมูลบัตรเครดิตที่โอกาสถูกแฮกทั้งจาก Phishing Sites หรือเว็บไซต์ที่ฝัง Malicious Code ไว้มีสูงและนั่นหมายถึงคุณอาจต้องเสียเงินจำนวนมหาศาล ดังนั้นต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าคุ้มกันไหมกับความสะดวกสบายที่แลกมาแค่ไม่กี่วินาที

จริงๆ แล้วมีแอพพลิเคชั่นบางตัวที่ถูกออกแบบมาเพื่อการช่วยบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณโดยเฉพาะและมีความปลอดภัยสูง (เช่น LastPass) แต่สำหรับบราวเซอร์ที่มักตกเป็นเป้าจู่โจมของแฮกเกอร์อย่าง Chrome นั้น คำแนะนำของเราคือไม่ควร และต่อไปนี้คือวิธีตั้งค่าไม่ให้ Chrome บันทึกข้อมูลบัตรเครดิตของคุณ หรือถ้าเคยบันทึกไว้แล้วก็ทำให้มันลืมไปได้เลย

วิธีป้องกันสำหรับ Chrome บน Desktop 
1. คลิกปุ่มเมนู (สัญลักษณ์จุดสามจุด) มุมบนขวา เลือกคำสั่ง “Settings”
2. ที่หัวข้อ Autofill คลิกเลือก “Payment methods”
3. คลิกปิดออปชั่น “Save and fill payment methods”
4. หากมีข้อมูลบัตรเครดิตเคยถูกบันทึกไว้แล้ว สามารถลบออกได้โดยคลิกปุ่มจุดสามจุดด้านหลังวันหมดอายุบัตร แล้วเลือกคำสั่ง “Remove”

วิธีป้องกันสำหรับ Chrome บน Android
1. แตะเมนู (สัญลักษณ์จุดสามจุด) มุมบนขวา เลือกคำสั่ง “Settings”
2. แตะหัวข้อ “Payment methods”
3. คลิกปิดออปชั่น “Save and fill payment methods”
4. หากมีข้อมูลบัตรเครดิตเคยถูกบันทึกไว้แล้ว สามารถลบออกได้โดยแตะที่รายการบัตรเครดิต เลือกคำสั่ง “Edit” ตามด้วยแตะปุ่มสามจุดด้านหลังวันหมดอายุบัตร แล้วเลือกคำสั่ง “Remove”

วิธีป้องกันสำหรับ Chrome บน iOS
1. คลิกเมนู (สัญลักษณ์จุดสามจุด) มุมบนขวา เลือกคำสั่ง “Settings”
2. คลิกหัวข้อ Payment methods เลือกออปชั่น Save and Fill Payment Methods เป็น “Off”
3. หากมีข้อมูลบัตรเครดิตเคยถูกบันทึกไว้แล้ว การลบออกจะสามารถทำได้โดยเข้าไปตั้งค่าในเมนู Settings ของ Safari วิธีคือเข้าไปที่เมนู Settings -> Safari -> AutoFill -> Saved Credit Cards -> เลือกรายการบัตรเครดิตที่ต้องการลบ -> Edit -> Delete

สรุป
การเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยเฉพาะข้อมูลทางการเงินไว้ในบราวเซอร์นั้นมีความเสี่ยงสูง แต่หากต้องการจริงๆ ก็สามารถทำได้โดยใช้ผ่านแอพพลิเคชั่นที่น่าเชื่อถือกว่า ยกตัวอย่างเช่น LastPass ซึ่งหากมีโอกาสเราจะนำเสนอและแนะนำอย่างละเอียดในครั้งต่อไปครับ