สวัสดีชาวโอเวอร์คล็อกโซน สถานะการ RTX 50 Series ในบ้านเราที่สามารถหาซื่อได้ง่ายมากขึ้น ตามเว็บฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ในบ้านเรา ที่สามารถหาซื้อแบบแยกชิ้นได้ง่ายขึ้น โดยการ์ดจอจาก ASUS ที่มีการทำตลาด ROG ,TUF Gaming ,ProArt และ PRIME โดยตระกลู ROG ที่สามารถแบ่งออกแบบเป็น ROG Astral มาพร้อมระบบระบายความร้อนระดับพรีเมียมและการจ่ายพลังงานเพื่อประสิทธิภาพที่สามารถรับมือกับสถานการณ์การเล่นเกมที่ท้าทายที่สุด ,ROG Matrix การ์ดจอระบายความร้อนด้วยของเหลว ที่มีระบบระบายความร้อนด้วยโลหะเหลวบนคอร์ เพื่อความสามารถในการโอเวอร์คล็อกขั้นสูงสุด การออกแบบที่เพรียวบาง และ ล่าสุด ROG Strix มีระบบจ่ายไฟขั้นสูง ส่วนประกอบระดับพรีเมียม และโซลูชันระบายความร้อนที่อลังการ ออกแบบมาเพื่อปลดปล่อยประสิทธิภาพสูงสุด กับ ROG Strix GeForce RTX 5070 Ti OC Edition หัวใจหลัก Blackwell ออกแนวเด็กซุ่ม ที่ต้องอาศัยความรู้ (AI) เข้ามาช่วยประมวลผลทางด้านการเล่นเกม และ การทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น ที่การออกแบบมาอย่างจัดเต็ม มีการใช้พัดลม Axial-Tech ที่มีตลับลูกปืนคู่ช่วยส่งลมได้มากขึ้น ,ด้วยการควบคุมพลังงานแบบดิจิทัลและตัวเก็บประจุ 15k ช่วยให้มีประสิทธิภาพสูง ,ไฟ ARGB ที่เข้ากันได้กับ Aura บนส่วนขอบทำให้ปรับแต่งได้ไม่จำกัด ,การออกแบบการระบายความร้อนแบบสุดขั้นที่เกิดหน้าเกินตา RTX 5070 Ti ด้วนการใช้ MaxContact Design และ Vapor Chamber อีกหนึ่งความสุดของ ROG Strix GeForce RTX 5070 Ti OC Edition การ์ดหนา 3.2 สล็อต มีการใช้พัดลม Axial-tech เพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น ที่การใช้พลังงานยังอยู่ในกรอบ RTX 5070 Ti ไม่ต้องใช้พาวเวอร์ซัพพลายระดับโรงไฟฟ้า แค่ระดับ 850 วัตต์ สถาปัตยกรรม Blackwell มี CUDA Core 8960 คอร์ พร้อมหน่วยความจำ GDDR7 ความจุ 16GB แบบ 256 บิต มาด้วยเทคโนโลยี Tensor cores รุ่นที่ 5 ประสิทธิภาพ AI สูงสุดด้วย FP4 และ DLSS 4 ขับเคลื่อนด้วย AI ปรับให้เหมาะสมสำหรับ Ray Tracing Cores รุ่นที่ 4 สร้างขึ้นสำหรับเรขาคณิตขนาดใหญ่ ช่วยให้สามารถรันเกมที่ต้องการกราฟิกสูงสุดและครีเอทีฟแอปพลิเคชั่นด้วยความเสถียรและประสิทธิภาพที่ดี ยังมี NVIDIA Studio สามารถสร้างสรรค์ครีเอทีฟโปรเจ็กต์ให้มีชีวิตขึ้นมาได้เร็วกว่าที่เคย สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Blackwell ใช้ชิปรหัสว่า GB203 ที่ Blackwell เทคนิคใหม่ๆด้วย RTX Neural Shader ใช้ในการบีบอัดพื้นผิวในเกมได้ ใน RTX Neural Faces มุ่งหวังที่จะปรับปรุงคุณภาพใบหน้าโดยใช้ AI โดย DLSS 4 ประกอบด้วย Multi Frame Generation ซึ่งสร้างเฟรมเพิ่มเติมได้สูงสุดสามเฟรมต่อเฟรมดั้งเดิมและสามารถเพิ่มอัตราเฟรมได้มากถึง 8 เท่าเมื่อเทียบกับการเรนเดอร์ดั้งเดิม ซึ่งทำให้ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้แอนตี้ตัวช่วยการเล่นเกมที่ความละเอียด 4K สามารถทำได้ไม่มีปัญหาเลย ถ้าคุยที่พลังเพียว ROG Strix GeForce RTX 5070 Ti OC Edition ระดับความละะเอียด 2K สามารถตอบสนองได้ดี ที่ AI เข้ามาช่วยเสริมถึงระดับ 4K ถึง 5K ได้สบายๆ
GeForce RTX 5060 Ti | GeForce RTX 4060 Ti | GeForce RTX 5070 | GeForce RTX 4070 | GeForce RTX 5070 Ti | GeForce RTX 4070 Ti | |
Architecture | Blackwell | Ada Lovelace | Blackwell | Ada Lovelace | Blackwell | Ada Lovelace |
Process | TSMC 4N | TSMC 4N | TSMC 4N | TSMC 4N | TSMC 4N | TSMC 4N |
CUDA Core | 4608 | 4352 | 6144 | 5888 | 8906 | 7680 |
Tensor Core (AI) | 144 - Gen 5 | 136 - Gen 4 | 192 - Gen 5 | 136 - Gen 4 | 280 - Gen 5 | 240 - Gen 4 |
Ray Tracing Core | 36 - Gen 4 | 34 - Gen 3 | 48 - Gen 4 | 46 - Gen 3 | 70 - Gen 4 | 60 - Gen 3 |
GPU Boost Clock | 2407 Mhz | 2535 Mhz | 2512 Mhz | 2475 Mhz | 2452 Mhz | 2610 Mhz |
Memory | 16/8GB GDDR7 | 16/8GB GDDR6 | 12GB GDDR7 | 12GB GDDR6X | 16GB GDDR7 | 12GB GDDR6X |
Memory Interface | 128 Bit | 128 Bit | 192 Bit | 192 Bit | 256 Bit | 192 Bit |
Bandwidth | 448 GB/s | 288 GB/s | 672 GB/s | 504 GB/s | 896 GB/s | 504 GB/s |
TDP | 180w | 160w | 250w | 200w | 300w | 285w |
Bus Interface | PCIe 5.0 x8 | PCIe 4.0 x8 | PCIe 5.0 x16 | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
Package & Bundled
แพคเกจบ่งบอกชัดเจน ROG Strix ซึ่งเป็น GeForce RTX 5070 Ti ในธีมสีดำลายดำ ที่ดูแข็งแกร่ง พร้อมแสงสีในแบบฉบับ ROG Strix
คู่มือการใช้งานเบื่องต้น ,ไม้บรรทัด PCB ROG ,แม่เหล็ก ROG ,ที่เก็บสายไฟ ,ที่ค้ำการ์ดจอ สามารถปรับระดับความสูงได้ รวมไปถึงพาวเวอร์ใครที่ไม่มี 12V-2x6 หรือ 12VHPWR สามารถใช้หัวแปลง PCIe 8 Pin ที่ให้มาได้
Design & Detail
การ์ดจอซีรีส์ ROG Stirx การ์ดจอเพื่อการเล่นเกม หรือ ครีเอเตอร์ มีแสงสีม่วงในค่ามาตรฐาน อีกทั้งยังสามารถประแต่ได้ ให้อารมณ์ที่ดูแข็งแกร่งด้วยธีมสีดำเทา พร้อมการเล่นลายที่ให้ความเป็น ROG Stirx ที่มีขอบมนและส่วนโค้งทางด้านบนและล่าง ที่สามารถมองเห็นได้ทั้งการวางการ์ดแนวตั้งและนอนแบบมาตรฐาน ขนาดการ์ดอยู่ที่ 332 x 147.3 x 64 มม. ความหนาโดยประมาณ 3.2 สล็อต ครีบระบายความร้อนขนาดใหญ่ที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับการไหลของอากาศจากพัดลม Axial-tech ทั้งสามตัว การผลิตที่ใช้เทคโนโลยี Auto−Extreme กระบวนการผลิตอัตโนมัติที่กำหนดมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมโดยให้บัดกรีได้ทั้งหมดในครั้งเดียว เทคโนโลยี ASUS Auto-Extreme ช่วยลดความร้อนบนส่วนประกอบและหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีทำความสะอาดที่รุนแรง ส่งผลให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง ใช้พลังงานในการผลิตน้อยลง และ MaxContact กระบวนการผลิตพิเศษของ ASUS ที่ช่วยขยายพื้นที่ผิว กระจายความร้อนที่อยู่ด้านบนของ GPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 5% เมื่อเทียบกับการออกแบบดั้งเดิม ซึ่งช่วยปรับปรุงอุณหภูมิได้ ร่วมกับชุดฮีตซิงค์ขนาดใหญ่ มีแผ่นระบายความร้อน GPU ด้วยการหลอมละลายเพื่อเติมช่องว่างระหว่าง GPU และโมดูลระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แผ่นระบายความร้อน GPU แบบระดับพรีเมียมจึงให้การนำความร้อนที่เหนือกว่าและการระบายความร้อนที่ดีขึ้น ช่วยให้การ์ดกราฟิกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น รองรับการทำงานหนัก ยังมีการเคลือบ PCB ป้องกันจะห่อหุ้มแผงวงจรเพื่อช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรที่เกิดจากความชื้น ฝุ่น หรือเศษวัสดุ
มุมมองจากทางด้านข้างของการ์ด ฝาครอบมีการบ่งบอกชัดเจนใน Prime Series เราจะเห็นว่าฮีทซิงค์ระบายความร้อนที่มันใหญ่อลังการมาก มีการเขียนอย่างชัดเจน นี่คือ GEFORCE RTX ในทางโค้ง มีคานเสริมความแข็งแรง ถ้ามองที่ขนาด PCB ตัวการจะเป็นไปตามสมัยที่ชุดระบายความร้อนใหญ่กว่ามาก
พาวเวอร์ใครที่ไม่มี 12V-2x6 หรือ 12VHPWR สามารถใช้หัวแปลง PCIe 8 Pin ที่มาในกล่อง การสลับ BIOS แบบคู่ ระหว่างโหมดประสิทธิภาพหรือโหมดเงียบ ที่ยังมีจุดเชื่อมต่อพัดลม 2 ช่อง
ชุดระบายความร้อน ที่มีการใช้พัดลม Axial-tech จำนวน 3 ใบพัดยาวขึ้นและวงแหวนกั้นเพื่อเพิ่มแรงดันอากาศลงเพื่อให้มีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า เสียงรบกวนน้อยลง และประสิทธิภาพที่สูงขึ้น พัดลมทั้งสามตัวจะหยุดทำงานเมื่ออุณหภูมิของ GPU ต่ำกว่า 50 องศาเซลเซียส ช่วยให้คุณเล่นเกมที่ไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากหรือทำภารกิจเบาๆ ในความเงียบ พัดลมจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 55 องศาเซลเซียส ขนาด 10 เซ็น ถึง 3 ตัว ที่มีตลับลูกปืนคู่มีความทนทานเป็นพิเศษและสามารถใช้งานได้นานกว่าตลับลูกปืนแบบปลอกถึงสองเท่า พร้อมท่อฮีทไปท์ถ่ายเทความร้อนจาก GPU และ VRAM ไปยังฮีทซิงค์ได้อย่างรวดเร็วเพื่อการกระจายความร้อนที่เหมาะสมที่สุด แผ่นโลหะด้านหลังเสริมความแข็งแรงพร้อมช่องระบายอากาศช่วยเพิ่มการระบายความร้อน ที่มีการใช้ฮีทไปท์ทองแดงเชื่อมกับฐานทองแดงชุบนิกเกิลเพื่อการระบายความร้อนที่ดี
Backplate อลูมิเนียมสีดำด้านหลังเสริมแรงพร้อมช่องระบายอากาศและแผ่นระบายความร้อนช่วยเพิ่มการระบายความร้อน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ อายุการใช้งาน และความเสถียรโดยป้องกันความร้อนสูงเกินไปและการลดความร้อน ที่ลายบ่งบอกความเป็น ROG ที่มีความโดดเด่น
พลิกมาดูที่ใต้การ์ด เราจะเห็นการเสริมความแข็งแรงในรูปแบบโครงสร้าง การ์ดหนา 3.2 สล็อต ไม่มีความรู้สึกยวบยาบ สล๊อต PCI-Express x16 5.0 ถ้าใช้งานจริงลดลงไปใช้งาน PCI-Express x16 4.0 ไม่ใช่ปัญหา ถ้ามีงบประมาณซื้อการ์ดพอ หรือ หาซื้อได้ครับ
พลิกมาดูที่ใต้การ์ดหน้าสัมผัส MaxContact Design และ Vapor Chamber
ช่องระบายความร้อน ที่สามารถช่วยในการนำความร้อนลอยสู่ด้านบน
มุมท้ายการ์ด ถ้าเคสมีจุดเสริมความแข็งแรง ที่สามารถติดตั้งได้
การเชื่อมต่อ DisplayPort 2.1a จำนวน 3 พอร์ต และ HDMI 2.1b Bracket หรือ ตัวยึดทำจากสแตนเลสเกรด 304 ซึ่งเลือกใช้เนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อนสูง
ข้อมูลของการ์ดที่แจ้งผ่าน GPU-z ถือว่าเกือบครบถ้วนแล้ว สามารถดูในเรื่องการใช้พลังงาน ความร้อนในส่วนต่างได้อย่างครบ
รายละเอียดที่มาบน AIDA64 มากับครบ
รายละเอียดที่มาบน AIDA64 แจ้งระดับการทำงานมาครบ
System Setup
- M/B : MSI B650 Gaming Plus WiFi
- CPU : AMD Ryzen 7 9700X
- Memory : Kingston FURY Renegade DDR5 RGB 6800MHz 32GB
- CPU Cooler : ROG STRIX LC II 280 ARGB
- SSD : Kingmax PQ4480 1TB
- PSU : Seasonic Prime TX-1600 NOCTUA Edition
- OS : Windows 11 Pro 24H2
บรรยากาศขณะการทดสอบ
ค่ามาตรฐานเป็นไฟสีม่วง แต่สามารถปรับได้จากโปรแกรม
Performance Test
ในเมื่อพลังเขียวที่บางเกมเปิดใช้ DLSS ที่มันยังไม่สามารถเปิดใช้ Frame Generation ได้ เราก็สามารถไปเปิดใช้ FSR ถ้าไม่กลัวเสียความเขียวในตัวเรา
เปิดการใช้งาน Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้
Conclusion
ถ้ามองที่ราคาของ ROG Strix GeForce RTX 5070 Ti OC Edition ถ้าเทียบกับ RTX 5070 Ti ด้วยกัน ROG Strix GeForce RTX 5070 Ti OC Edition ราคาค่าตัวที่สูงกว่าพอตัว ที่ประมาณ 4X,XXX บาท แต่การออกแบบตัวการ์ดที่ทำได้น่าสนใจมาก มีการใช้ MaxContact Design และ Vapor Chamber พร้อมช่วยให้ถ่ายเทความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยฮีตซิงก์ 3.2 สล็อต และ การแบ่งส่วน ให้ประสิทธิภาพระดับพรีเมียม รวมไปถึงภาคจ่ายไฟระดับพรีเมียม และ การเคลือบเพื่อป้องกันความชื้นที่มารบกวนการทำงาน สามารถโอเวอร์คล็อกผ่าน GPU Tweak III ที่ ROG Strix GeForce RTX 5070 Ti OC Edition มีความแตกต่างกว่า RTX 5070 Ti ทั่วไปมากพอกับความต่างด้านราคาค่าตัว แต่ยังมีแสงสี RGB ให้ความเป็น ROG อย่างเด่นชัด ภาพลักษณ์ของการ์ดถ้าไม่บอกว่าเป็น RTX 5070 Ti ที่สามารถคิดว่าเป็น RTX 5080 หรือ RTX 5090 ได้เลย ภาพลักษณ์ของการ์ดROG Strix GeForce RTX 5070 Ti OC Edition มันคือการ์ดเล่นเกม ที่ลงตัวกับการใช้งานในกลุ่มครีเอเตอร์ ความแรงและประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่มองจากพลังดิบการเล่นในระดับ 2K มันเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มสูบ ซึ่งมุนของพลังดิบที่ยังสามารถเข้าตอบได้ถึงในระดับ 4K ที่เกือบได้ ด้วยยุคของ AI ที่ MFG (Multi Frame Generation) หรือ Frame Generation มีความสำคัญในการใช้งานของเหล่าเกมเมอร์เป็นอย่างยิ่ง ที่มันจะมีการพัฒนาการทำงานให้ดีมากขึ้น ซึ่งจาก RTX 50 Series ที่เปิดตัวมา จากที่ผลได้ลองใช้ๆ แต่ก่อนแบบหลอนๆ หรือ อยู่ดีๆ MFG (Multi Frame Generation) ไม่ทำงาน ที่ตอนนี้ดีกว่าเดิมเยอะ อาการ MFG ไม่ทำงานแทบไม่เจอแล้ว ROG Strix GeForce RTX 5070 Ti OC Edition เป็นอีกหนึ่งหนึ่งการ์ดสถาปัตยกรรม Blackwell ที่มีความลงตัวในการใช้งาน เล่นเกมได้ความละเอียด 2K ถึง 4K ในงบที่ไม่ออกนอกโลก แต่ยังมีฟีเจอร์ DLSS และ MFG (Multi Frame Generation) ที่ไม่สิ้นเปลืองไฟมากไป ในแง่ของพลังดิบที่แรงกว่า RTX 4070 Ti ระดับนึง แต่มันไม่แรงชน RTX 4090 แน่นอน ซึ่งถ้ามองในยุค 2025 ที่เป็นการ์ดเล่นเกมในระดับ 2K ที่ยังได้ข้ามเล่นในระดับ 4K แทบทุกเกม ถ้าอยากปั่นเฟรมเรมสูงๆบนความละเอียด 4K จุดตายที่มันมีแรม 16GB ที่ผมลองใช้งานในการเล่นเกมบนความละเอียด 4K มันรู้สึกสะดุดบ้าง ถ้าไปจับผิดมันมาก ไม่จับผิดอะไรมันลื่นในการเล่นเกมความละเอียด 4K ถ้าเล่นเกมที่ไม่ได้เปิด หรือ แอนตี้ฟีเจอร์ DLSS และ MFG (Multi Frame Generation) ถ้าใช้งานความละเอียด 2K เป็นหลัก แล้วคิดว่าซักวันจะอัพมอนิเตอร์เป็นความละเอียด 4K-5K ซึ่ง ROG Strix GeForce RTX 5070 Ti OC Edition เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก ถ้างบประมาณซื้อการ์ดถึง รองรับการใช้งานในยุค 2026-2027 ทางด้านการเล่นเกมและสายครีเอเตอร์ ที่มีการออกแบบจาก ROG ดีไซน์ 3.2 สล็อต ชวนให้นึกถึงการ์ดจอในระดับเรือธง ถ้าคิดว่างบสู้ไหว และ หาของได้ โอกาสอัพการ์ดจอมาแล้ว วันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Special Thanks : ASUSTek Computer (Thailand) Co.,Ltd.