ตามรายงานของ South China Morning Post (SCMP) ซีอีโอของ NVIDIA อย่าง เจนสัน หวง (Jensen Huang) ได้กล่าวชื่นชมถึงความก้าวหน้าในการผลิตชิปของจีน โดยระบุว่า “จีนตามหลังสหรัฐฯ เพียงไม่กี่นาโนวินาทีเท่านั้น” นอกจากนี้เขายังยอมรับเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า ภายใต้มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ส่วนแบ่งตลาดของ NVIDIA ในจีนได้ลดลงเหลือเพียง 50% จากเดิมที่เคยครองตลาดถึง 95% เมื่อ 4 ปีก่อน (อ้างอิงจาก Reuters)
ในขณะที่ Huawei ยังคงโดดเด่นด้วยชิป Ascend AI, สายตาของตลาดตอนนี้จับจ้องไปที่ว่า “ใครจะสามารถเข้ามาแทนที่ช่องว่างที่ NVIDIA ทิ้งไว้ในตลาดจีนได้” ซึ่ง 3 ผู้เล่นหลักที่กำลังมาแรงคือ Moore Threads, MetaX และ Cambricon โดยเฉพาะ Moore Threads ที่เพิ่งผ่านการตรวจสอบการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น STAR Market (ตลาดแนสแด็กของจีน) เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
จากรายงานของ Commercial Times, Moore Threads ถือเป็นบริษัทที่มีลักษณะใกล้เคียงกับ NVIDIA มากที่สุดในด้านประเภทของชิป ขณะที่ Cambricon และ Huawei HiSilicon จะเน้นไปทาง ASIC มากกว่า Moore Threads ยังระบุว่า ตนเป็น บริษัทเดียวในจีนที่สามารถผลิต GPU ที่มีฟังก์ชันครบถ้วนในระดับเชิงพาณิชย์ได้ในตอนนี้
รายงานจาก Security Times ระบุว่า Moore Threads ได้เปิดตัวสถาปัตยกรรม GPU มาแล้ว 4 รุ่น ได้แก่
Sudi (2021)
Chunxiao (2022)
Quyuan (2023)
Pinghu (2024)
โดยสองรุ่นแรก (Sudi และ Chunxiao) ใช้สำหรับงานกราฟิกและเดสก์ท็อปทั่วไป ส่วนรุ่น Quyuan และ Pinghu มุ่งเน้นด้าน AI computing อย่างเต็มตัว
สิ่งที่น่าสนใจคือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยให้ อัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) ของบริษัทพุ่งขึ้นอย่างมาก — จาก -70.08% ในปี 2022 → 25.87% ในปี 2023 → และสูงถึง 70.71% ในปี 2024
ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Moore Threads คือ เจมส์ จาง เจี้ยนจง (James Zhang Jianzhong) ซึ่งเคยทำงานที่ NVIDIA นานถึง 14 ปี และเคยดำรงตำแหน่งรองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ NVIDIA China ก่อนลาออกในปี 2020 เพื่อมาก่อตั้ง Moore Threads
นอกจากนี้ SCMP ยังรายงานว่า บริษัทจากปักกิ่งแห่งนี้ใช้เวลาเพียง 88 วัน ตั้งแต่ยื่นคำขอในเดือนมิถุนายนจนได้รับอนุมัติ IPO ในปลายเดือนกันยายน ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของตลาด STAR Market โดยบริษัทคาดว่าจะระดมทุนได้ถึง 8,000 ล้านหยวน (ราว 1.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อนำมาเร่งการพัฒนาและขยายการผลิต GPU เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่
ในขณะเดียวกัน MetaX ก็เร่งเดินหน้าเข้าสู่ตลาดทุนของตนเอง โดยถ้า Moore Threads เติบโตจากอดีตวิศวกร NVIDIA, MetaX ก็ถือเป็น สายตรงจาก AMD
ผู้ก่อตั้ง เฉิน เว่ยเหลียง (Chen Weiliang) เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสที่ AMD Shanghai ตั้งแต่ปี 2007 ก่อนจะลาออกในปี 2020 เพื่อมาก่อตั้ง MetaX ทั้งนี้ ซีทีโอของบริษัททั้งสองคน — เผิง ลี่ (Peng Li) และ หยาง เจี้ยน (Yang Jian) — ก็ล้วนมาจาก AMD เช่นกัน
รายงานจาก Security Times ระบุว่าในปี 2024 สินค้าหลักของ MetaX คือ GPU สำหรับงาน training และ inference ซึ่งกลายเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท โดย
บอร์ด GPU คิดเป็น 68.99% ของรายได้รวม,
GPU server คิดเป็น 28.29%
และในไตรมาสแรกของปี 2025 รายได้จากบอร์ด GPU เพียงอย่างเดียวพุ่งขึ้นคิดเป็น 97.55% ของยอดขายทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ทั้ง MetaX และ Moore Threads ยังไม่สามารถทำกำไรได้ในตอนนี้ สิ่งที่ขับเคลื่อนให้ทั้งสองบริษัทมั่นใจในการเข้าตลาดหุ้นคือ การเติบโตของรายได้ในปี 2024 ที่พุ่งสูงมาก พร้อมกับการยอมรับในผลิตภัณฑ์ AI ที่ออกแบบมาสำหรับ ยุคของโมเดลขนาดใหญ่ (Large Model Era)
อีกด้านหนึ่ง Cambricon กลับมาอยู่ในสปอตไลต์อีกครั้งหลังจากได้รับอนุมัติให้เพิ่มทุนแบบ private placement มูลค่า 3.99 พันล้านหยวน (ประมาณ 559.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อนำไปใช้ในโครงการพัฒนาชิปและซอฟต์แวร์ AI (รายงานโดย Yicai Global) การระดมทุนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากหุ้นของ Cambricon เคยพุ่งขึ้นเกือบ 10 เท่า ก่อนจะร่วงลงในภายหลัง
รายงานระบุว่า Cambricon คาดว่ารายได้ในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 317%–483% อยู่ในช่วง 5,000–7,000 ล้านหยวน โดยบริษัทย้ำว่านี่เป็นเพียงประมาณการเบื้องต้นเท่านั้น
Cambricon ก่อตั้งในปี 2016 โดยสองพี่น้อง เฉิน หยุนจี (Chen Yunji) และ เฉิน เถียนสือ (Chen Tianshi) ซึ่งปัจจุบันยังมีอายุเพียงราว 40 ต้น ๆ รายงานจาก SCMP ระบุว่า ชิปรุ่นเรือธงถัดไปของบริษัท Siyuan 690 มีเป้าหมายที่จะท้าชนกับ NVIDIA H100, ส่วนชิปรุ่น Siyuan 590 ที่เปิดตัวในปี 2023 ให้ประสิทธิภาพราว 80% ของ NVIDIA A100 และผลิตบนกระบวนการ 7nm ภายในประเทศจีนเอง
ตามรายงานของ Commercial Times, Cambricon ยังคงนำหน้าอีกสองบริษัทในด้านรายได้ ส่วน Moore Threads ซึ่งเคยตามหลัง MetaX ก็แซงขึ้นมาได้ในครึ่งแรกของปี 2025 โดยเมื่อ NVIDIA ถูกจำกัดการจำหน่ายในจีน ทั้ง Cambricon และ MetaX ต่างมีรายได้พุ่งสูงเกินยอดรวมของสามปีก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า MetaX ยังถือส่วนแบ่งตลาดจาก NVIDIA ได้น้อยกว่าอีกสองรายอยู่มาก
สรุปภาพรวม:
Moore Threads
MetaX
Cambricon
นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศผลกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกที่ 1,000 ล้านหยวน พลิกจากขาดทุน 530 ล้านหยวนในปีก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
จีนกำลังเร่งพัฒนา “GPU สายเลือดภายในประเทศ” เพื่อทดแทนการขาดหายของ NVIDIA หลังการแบนจากสหรัฐฯ — โดยสามบริษัทยักษ์ใหม่ Moore Threads, MetaX และ Cambricon ต่างมีพื้นฐานมาจากทีมผู้เชี่ยวชาญของ NVIDIA และ AMD เดิม และตอนนี้กำลังกลายเป็น “ขุมพลังใหม่ของวงการชิป AI จีน” อย่างเต็มตัว.
ที่มา: TrendForce