Xiaomi เปิดตัว BlackShark ไปเมื่อ 11 เดือนก่อน (และเปิดตัวรุ่นอัพเดทอย่าง BlackShark Helo) เมื่อห้าเดือนที่แล้ว หลังจากทิ้งช่วงมาพักใหญ่ๆ ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Xiaomi BlackShark 2 ที่ดีขึ้น สวยขึ้น และเพียบพร้อมกว่าเดิม
BlackShark 2 รวมข้อดีของรุ่นเก่าทั้ง Xiaomi BlackShark และ BlackShark Helo ทำให้มีบอดี้สวยงามที่ทำจากกระจกและอลูมิเนียมตัดพิเศษ และโลโก้ตัว S พร้อมไฟเรืองแสงด้านหลัง
สำหรับหน้าจอนั้น BlackShark 2 ใช้หน้าจอ AMOLED 6.4 นิ้วจาก Samsung มีตัวตรวจจับแรงกดบนหน้าจอ สามารถตั้งค่ามาโครได้ว่าถ้าหากกดแรงๆ ในบริเวณใดแล้วจะให้ใช้คำสั่งไหน อีกทั้งยังปรับแต่งให้หน้าจอมี Latency ที่ต่ำลง เหมาะแก่การเล่นเกมส์มากขึ้น แต่ยังคงใช้หน้าจออัตราส่วน 18:9 เหมือนเดิม โดยด้านบนและด้านล่างกลายเป็นลำโพงสเตอริโอแทน และยังมีตัวอ่านลายนิ้วมือใต้หน้าจอเหมือนเดิม
สำหรับสเปคหลักนั้น Xiaomi ใส่มาสุดทุกทาง คือหน่วยประมวลผลที่แรงที่สุดในตอนนี้อย่าง Snapdragon 855 ส่วนเรื่องหน่วยความจำนั้นมีให้เลือกตั้งแต่ 6GB / 8GB / 12GB ไล่ขึ้นมาตามระดับราคาที่ขาย (ซึ่งรุ่นแพงสุด ในวงการเกมส์ก็ยังนับว่าถูกอยู่ดี)
ตัวเครื่องมีระบบระบายความร้อน Liquid Cool 3.0 ระบายความร้อนด้วยไอน้ำภายในตัวเครื่อง ทาง Xiaomi ระบุว่าสามารถลดความร้อนลงมาได้ 14 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังมีเคสพิเศษที่ช่วยให้การระบายความร้อนดีขึ้น (ด้วยการเพิ่มพัดลมเข้าไปอีกตัว) ทำให้อุณหภูมิลดลงได้เพิ่มอีกมากถึง 5 องศาด้วยกัน
แต่ถ้าเครื่องร้อนมากจริงๆ ระบบจะลดสเปคลงเพื่อให้แบตเตอรีมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น แต่ถ้าใครไม่สนใจด้านแบตเตอรีมากนัก แต่ต้องการให้เครื่องแรงสุดๆ ก็สามารถกดปิดการทำงานนี้ได้ โดยเครื่องจะทำงานที่ความเร็วสูงสุดตลอดเวลา โดยเครื่องมีแบตเตอรีขนาด 4,000 mAh และรองรับการชาร์จไฟ 27W
BlackShark 2 อาจจะโฟกัสไปที่เรื่องการเล่นเกมส์เป็นหลัก แต่การใช้งานถ่ายรูปก็ถือว่าโอเค ไม่แย่อะไร (ความดีความชอบต้องยกให้ AI ในกล้องของ Xiaomi) กล้องหลักนั้นเป็นเซนเซอร์ 48 Megapixel ส่วนกล้องรองนั้นเป็นเลนส์ Tele ขนาด 12 Megapixel สามารถใช้กล้องสองตัวเพื่อควบคุมระดับความหน้าชัดหลังเบลอได้ และกล้องหน้ามีความละเอียดขนาด 20 Megapixel
ณ ตอนนี้ Xiaomi ระบุว่ายังไม่มีแผนจะนำไปวางจำหน่ายนอกประเทศจีนแต่ประการใด งานนี้ต้องลุ้นกันหน่อยเพราะ Xiaomi เองก็เพิ่งจะนำ BlackShark Helo มาขายเมื่อครึ่งปีก่อน ไม่รู้ว่าจะต้องรอรุ่นปรับปรุงก่อนถึงจะขายทั่วโลกหรือเปล่า
สำหรับรุ่นเล็กสุดคือรุ่น RAM 6GB, พื้นที่ 128GB ราคาอยู่ที่ราวๆ 15,200 บาท ส่วนรุ่นบนสุด RAM 12GB, พื้นที่ 512GB ราคาอยู่ที่ราวๆ 19,800 บาท
ที่มา - Phone Arena