ย้อนกลับไปปีกว่าๆแล้ว ใครที่อยู่ในวงการไอทีต้องได้ยินเกี่ยวกับเรื่อง Cryptocurrency หรือสกุลเงิน Crypto กันทุกคน .. ส่วนคนทั่วๆไปที่ไม่ได้อยู่ในวงการอาจจะเหมาะรวมไปว่ามันเป็น Bitcoin ทั้งหมด ซึ่งก็ไม่แปลกครับ เพราะมันเป็นสกุล Crypto ที่มีมูลค่าสูงที่สุด และเหมือนจะเป็นตัวนำของตลาดนั่นเอง ถึงแม้ในความเป็นจริงแล้วจะมีสกุลเงิน Crypto มากมายมหาศาลให้เลือก Trade กัน .. จุดเด่นนึงของ cryptocurrency ก็คือความปลอดภัยที่โปรโมทกันนักหนา ด้วยหลักการที่ว่าทุกการธุรกรรมนั้นจะทำผ่าน Blockchain ไม่สามารถแก้ไข หรือโกงกันอย่างมั่วซั่วได้อย่างแน่นอน
และถ้าใครอยู่ในวงการของ Cryptocurrency ต้องไม่มีใครไม่รู้จัก Binance เพราะว่าเว็ปนี้เป็น Crypto Exchange หรือเว็ปเทรดเหรียญ Crypto ที่ใหญ่ที่สุดแห่งนึงของโลก ในเว็ปก็มีสกุล Crypto อยู่หลากหลาย และผู้ใช้งาน Online พร้อมกันทั่วโลกอย่างหนาแน่น
หลายๆคนอาจจะลืมชื่อนี้ไปแล้ว รวมถึงแอดมินเองก็ด้วย ที่ไม่ได้ติดตามหรือได้ยินคำว่า Binance มานาน ทั้งๆที่ตัวเองก็มีเหรียญฝากอยู่ในนั้นเหมือนกัน แต่หลังจากที่เหรียญที่เคยเล่นมันหมดค่าไป ราคาร่วงดิ่ง ก็ไม่ได้เข้าไปดูให้ช้ำใจอีก .. จนกระทั่งเมื่อวานนี้มีข่าวใหญ่โตมากๆก็คือเว็ป Binance ที่ว่านี้ถูก HACK !!!
การแฮคครั้งนี้ถือว่าเป็น "Large-Scale Security Breach" และมีเหรียญ Bitcoin ถูกขโมยไปจากเว็ปถึง 7000 เหรียญ ตีมูลค่าเป็นดอลล่าร์ก็ $40 ล้าน .. หรือเงินไทยก็ราว 1.2 พันล้านบาท
ซึ่งถ้าถอยออกมามองในภาพใหญ่ ก็จะเห็นว่าตั้งแต่เริ่มต้นปี 2019 มานี้ Hacker ก็ได้ขโมยทรัพย์สินเกี่ยวกับ Cryptocurrency จากเว็ป Exchange รวมกันไม่ต่ำกว่า $356 ล้านดอลล่าร์แล้ว ! แต่ด้วยความที่ครั้งนี้มันเกิดขึ้นกับ Binance ซึ่งเป็นเว็ปใหญ่อันดับโลก ที่มีหลายคนเชื่อถือเรื่องความปลอดภัย ก็เลยเป็นเรื่องที่น่าตกใจ .. ถ้าให้เปรียบเป็นโลกการเงินปกติ ก็อาจจะมองได้เป็นว่าธนาคารโลกถูกขโมยเงินแหละครับ
CEO ของ Binance อย่างนาย Zhao Chanpeng ก็กล่าวว่า Hacker มีการใช้เทคนิคที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำ Phishing, การใช้ไวรัส, และการโจมตีอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งตัว Hacker เองก็มีความใจเย็นและทำปฏิบัติการครั้งนี้อย่างแยบยล จนกระทั่งผ่านระบบ Security Check ของเว็ปไซต์ไปได้ .. ซึ่งทาง Hacker เองก็สามารถเข้าถึง Account ที่มีทรัพย์สิน Crypto ที่เก็บอยู่ใน Hot-Wallet และทำการโอนออกไปในเวลาไม่นาน
นาย Zhao ยังกล่าวอีกว่าทางเว็ปไซต์จะมีการทำ Security Review ซึ่งจะใช้เวลาราวๆหนึ่งอาทิตย์ .. และ Binance ยังจะเปิดให้บริการ Trading ต่อไป ถึงแม้จะยังไม่สามารถจับตัว Hacker ได้ และผู้ที่ Trade อยู่ตอนนี้ก็อาจจะตกเป็นเหยื่ออยู่เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามฟีเจอร์การฝากและถอนนั้นจะถูกปิดไว้ชั่วคราวก่อน จนกว่าทาง Hacker จะถูกระบุตัวตน
โดยรวม เรื่องนี้ก็ถือเป็นอะไรที่น่าตกใจเหมือนกัน เว็ปใหญ่โตแบบนี้ยังถูกผู้ไม่หวังดีเจาะระบบเอาได้ .. แต่เอาตรงๆจากสถานการณ์มันก็ยังไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น เพราะเงิน $40 ล้าน ถึงแม้จะดูเยอะ แต่ก็เป็นแค่ส่วนเล็กๆของ Binance เท่านั้น และผู้ใช้ที่ถูก Hack ไปก็น่าจะได้เงินคืน .. อย่างที่ได้บอกไปนั่นแหละครับ ว่าการกระทำทุกอย่างผ่าน Blockchain นั้นจะต้องมีหลักฐาน และทางเว็ปไซต์ก็ต้องไล่ตามกลับมาให้ได้ (แต่นานแค่ไหนไม่รู้นะ)
สุดท้ายแล้วถ้าใครเป็นนักลงทุน Cryptocurrency ก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่า ไม่ควรเอาเงินตัวเองไปฝากไว้ในเว็ป Exchange หรือพวก Hot Wallet ต่างๆ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดก็คงจะเป็นการซื้อ Hardware Wallet มาเก็บไว้กับตัวเอง แล้วถ้าอยากจะ Exchange ก็ค่อยเอาเงินจำนวนนึงไปใส่ไว้ในเว็ป Exchange แทนที่จะใส่ทั้งหมด.. ทีนี้ในเมื่อเงินส่วนใหญ่มันอยู่กับเราในแบบ Hardware จะให้เว็ป Exchange โดน Hack ยังไง เราก็ไม่ต้องเจ็บตัวด้วย ... แต่ถ้าคุณเงินลงทุนจำนวนไม่มาก ไม่อยากลงทุนซื้อ Hardware Wallet ที่มีราคาค่อนข้างสูง (หลายพัน) ก็เก็บไว้ใน Exchange นั้นแหล่ะครับ คงไม่โดน Hack ถ้าไม่ถึงคราวซวย แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ