– โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ 4000 Series สำหรับโน้ตบุ๊กจากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำ ให้ประสบการณ์ด้านประสิทธิภาพการทำงาน และการพกพาที่ยอดเยี่ยมที่สุด พร้อมด้วยประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นจากรุ่นก่อนหน้า –

– AMD เปิดตัวโปรเซสเซอร์ระดับ HEDT (High-End Dektop) ตัวแรกของโลกที่มีคอร์ประมวลผล 64 คอร์ ด้วยโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ Threadripper™ 3990X มาพร้อมด้วยความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพ –

          AMD (NASDAQ: AMD) เปิดตัวโปรเซสเซอร์แล็ปท็อป x86 คอร์ประมวลผล 8 คอร์ ตัวแรกของโลก ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ตระกูล AMD Ryzen™ 4000 Series Mobile Processor รังสรรค์จากสถาปัตยกรรมการผลิต “Zen 2” บนเทคโนโลยีกระบวนการผลิต 7nm ที่ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพของ Radeon™ graphics ให้สูงขึ้นในรูปแบบ SOC (System-On-Chip) โดยโปรเซสเซอร์รุ่นที่สาม AMD Ryzen™ 4000 Series มอบประสิทธิภาพการประมวลผลที่ไม่เคยมีมาก่อน ยกระดับการออกแบบ และประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ที่น่าทึ่งบนแล็ปท็อป Ultrathin และเกมมิ่งแล็ปท็อป  AMD พร้อมเปิดตัวโปรเซสเซอร์ตระกูล AMD Athlon™ 3000 Series Mobile Processor ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพด้วยสถาปัตยกรรมการผลิต “Zen” ส่งมอบประสบการณ์การประมวลผลที่ทันสมัย และประสิทธิภาพที่แท้จริงสำหรับผู้ใช้งานแล็ปท็อปที่หลากหลาย ผู้บริโภคสามารถหาซื้อแล็ปท็อปที่ขับเคลื่อนด้วยประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 4000 Series และ Athlon 3000 Series ได้แล้วจากตัวแทนผู้ผลิตชั้นนำ อาทิ Acer, Asus, Dell, HP, Lenovo และแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมายในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวกับผู้ผลิตทั่วโลกตลอดปี 2563
          นอกจากนี้ AMD ยังได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์ที่ผู้ใช้ทั่วโลกต่างตั้งตารอคอยคือ AMD Ryzen™ Threadripper™ 3990X ที่มาพร้อมคอร์ประมวลผล 64 คอร์ 128 เธรด คาดว่าจะวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในการทำงานด้าน 3D, Visual Effects และการตัดต่อวิดีโอในระดับมืออาชีพ ซึ่งโปรเซสเซอร์ AMD Threadripper 3990X ส่งมอบประสิทธิภาพการเรนเดอร์ที่เร็วขึ้นถึง 51% เมื่อนำไปเทียบกับโปรเซสเซอร์รุ่น AMD Ryzen Threadripper 3970X
          ซาอิด มาสคาลานี่ รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายไคลเอนท์คอมพิ้วของ AMD กล่าวว่า “เราเริ่มเปิดฉากปี 2563 ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยประสิทธิภาพของการทำงาน, ระบบกราฟิก และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ใช้แล็ปท็อป Ultrathin และเกมมิ่ง ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพด้วยโปรเซสเซอร์ใหม่ AMD Ryzen 4000 Series Mobile Processors เราได้เห็นการเติบโตของผลิตภัณฑ์อย่างโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ Mobile ในปีที่ผ่านมา และในปีนี้เรากำลังพัฒนาเพื่อขยายการใช้งานให้กว้างยิ่งขึ้นด้วยโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 4000 Series Mobile Processors พร้อมกับเหล่าตัวแทนผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก ที่นำเสนอประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้นถึงสองเท่าเมื่อนำไปเทียบกับรุ่นก่อนหน้า”

โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 4000 Series Mobile Processors with Radeon™ Graphics

          ด้วยคอร์ประมวลผล 8 คอร์ 16 เธรด บนโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 4000 U-Series Mobile Processors ทำให้มีการตอบสนองการทำงาน และความสะดวกสบายในการใช้งานที่น่าเหลือเชื่อ ส่งมอบประสิทธิภาพการทำงานที่แตกต่างสำหรับแล็ปท็อป Ultrathin ด้วยค่า TDP เพียง 15W นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 4000 H-Series Mobile Processors จะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการเล่นเกม และการสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ ในด้านนวัตกรรม การดีไซน์ที่บางและเบา พร้อมด้วยค่า TDP เพียง 45W⁶ สำหรับเกมเมอร์และครีเอเตอร์กว่า 90 ล้านคนทั่วโลกที่ใช้งานแล็ปท็อป

โปรเซสเซอร์ใหม่ AMD Ryzen 7 4800U

·         ประสิทธิภาพในการประมวลผลแบบซิงเกิลเธรดมากขึ้น 4% และประสิทธิภาพการประมวลผลแบบมัลติเธรดมากขึ้นถึง 90% เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

·         ประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่มากขึ้นถึง 18% เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

โปรเซสเซอร์ใหม่ AMD Ryzen 7 4800H:

·         ประสิทธิภาพในการประมวลผลแบบซิงเกิลเธรดมากขึ้น 5% และประสิทธิภาพการประมวลผลแบบมัลติเธรดมากขึ้นถึง 46% เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

·         การเข้ารหัสวิดีโอ 4K ด้วยโปรแกรม Adobe Premier เร็วขึ้นถึง 25% เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

·         ประสิทธิภาพในการจำลองฟิสิกส์ในการเล่นเกมสูงขึ้นถึง 39% เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

          AMD ยังเปิดเผยถึงรายละเอียดของเทคโนโลยี AMD SmartShift ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 4000 Mobile, Radeon Graphics และซอฟต์แวร์ AMD Radeon Software Afrenalin 2020 รุ่นล่าสุด ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสบการณ์การประมวลผลผ่านการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานไปอีกระดับ ด้วยการสลับการทำงานรูปแบบไดนามิกระหว่างโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen และกราฟิกการ์ด AMD Radeon เทคโนโลยี AMD Smartshift จะมอบประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูงขึ้นถึง 10% และสูงขึ้นถึง 12% เมื่อนำไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ

โปรเซสเซอร์ 3^rd Gen AMD Ryzen Threadripper 3990X

         AMD เปิดตัวโปรเซสเซอร์ที่ผู้ใช้ทั่วโลกต่างตั้งตารอคอยคือ AMD Ryzen Threadripper 3990X โปรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่มีคอร์ประมวลผล 64 คอร์ โดยครีเอเตอร์ทั่วโลกสามารถหาซื้อโปรเซสเซอร์ได้ผ่านทางร้านค้าปลีก และผู้ให้บริการทั่วโลกในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ศกนี้
         ด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการประมวลผลแบบซ็อกเก็ตเดี่ยวจำนวนมากในแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ ทำให้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper 3990X เป็นโซลูชั่นเหมาะสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานรูปแบบดิจิทัลในระดับมืออาชีพทั้งในด้านการทำแอนิเมชั่น 3D, Raytraced VFX และการแปลงสัญญานวิดีโอ 8K รวมไปถึง

·         ประสิทธิภาพการทำงานด้าน 3D Ray Tracing ด้วยโปรแกรม MAXON Cinema4D Renderer⁵ มากกว่า 51% เมื่อนำไปเทียบกับโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper 3970X

·         คะแนน Cinebench R20.06 สำหรับการประมวลผลแบบซิงเกิลโปรเซสเซอร์⁵ ได้คะแนน 25,399 คะแนน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์

โปรเซสเซอร์ AMD Athlon 3000 Series Mobile Processors with Radeon Graphics

โปรเซสเซอร์ AMD ตระกูล Athlon 3000 Series Mobile Processors ช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นผ่านสถาปัตยกรรมการผลิต “Zen” บนโน้ตบุ๊ก ให้ประสบการณ์การประมวลผลที่ทันสมัย เช่น ระบบ Window Hello และ Cortana ประสิทธิภาพการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการสตรีมมิ่งระดับ Full HD นำเสนอกราฟิกที่เร็วขึ้นถึง 86% และประสิทธิภาพด้านการผลิตที่เร็วขึ้นถึง 51% เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง โดยจะพร้อมใช้งานในช่วงต้นปี 2563 ผ่านทางตัวแทนผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก

ข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์: โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ 4000 Series & Athlon™ 3000 Series Mobile Processors

ข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์: โปรเซสเซอร์ 3^rd Gen AMD Ryzen Threadripper 3990X

Supporting Resources

• Learn more about the new AMD Ryzen™ 4000 Series Mobile Processors
• Learn more about the new AMD Athlon™ 3000 Series Mobile Processors
• Learn more about AMD SmartShift technology

·         Learn more about the AMD Ryzen™ Threadripper™ 3990X

·         Become a fan of AMD on Facebook

·         Follow AMD on Twitter