ASUS Republic of Gamers เปิดตัว ROG Rapture GT-BE19000AI — เราเตอร์เกมมิ่ง AI ตัวแรกของโลก

ASUS Republic of Gamers (ROG) ได้เปิดตัว ROG Rapture GT-BE19000AI เราเตอร์ AI ตัวแรกของโลก ที่ผสาน “ความฉลาดล้ำ” เข้ากับ “ความยืดหยุ่นในระดับแพลตฟอร์ม” และ “ประสิทธิภาพยุคใหม่” อย่างเต็มรูปแบบ ถือเป็นโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ยุคที่เกมมิ่ง สตรีมมิ่ง และอุปกรณ์สมาร์ตโฮม ต่างต้องการพลังจากเครือข่ายมากกว่าเดิม โดย GT-BE19000AI มอบความอัจฉริยะ การทำงานอัตโนมัติ และความเสถียรในระดับสูงสุด

AI Core ในตัว — ขุมพลังแห่งการประมวลผลใหม่

ROG Rapture GT-BE19000AI เป็นเราเตอร์รุ่นแรกที่มาพร้อม ชิปประมวลผล AI (AI Core) ในตัว ทำงานร่วมกับ ซีพียูแบบ Quad-core, หน่วยความจำ DDR4 ขนาด 4 GB, และ พื้นที่เก็บข้อมูลในตัว 32 GB
แตกต่างจากเราเตอร์ทั่วไปที่ใช้เฉพาะพลัง CPU รุ่นนี้มีระบบแบบบูรณาการที่จัดสรรทรัพยากรเฉพาะสำหรับงาน Docker app และงานประมวลผลอื่น ๆ ได้โดยตรง

รองรับ Docker Engine ในตัว

GT-BE19000AI มาพร้อม Docker Engine แบบครบชุด (รองรับทั้ง CLI และ Compose) พร้อมพื้นที่จัดเก็บ 32 GB สำหรับแอปพลิเคชัน และบอร์ด AI ในตัว
นี่คือเราเตอร์ตัวแรกที่สามารถ รันแอป containerized ได้โดยตรง — เปิดทางสู่ยุคใหม่ของ Edge Computing
ผู้ใช้ขั้นสูงสามารถติดตั้งระบบ อัตโนมัติ, AI Services, หรือ IoT Management ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา PC หรือเซิร์ฟเวอร์แยกต่างหาก ทำให้สามารถรวมศูนย์การจัดการสมาร์ตโฮมไว้ที่เราเตอร์เพียงเครื่องเดียว

เช่น

• รัน Home Assistant สำหรับควบคุมอุปกรณ์ในบ้าน

• ใช้ Frigate เพื่อวิเคราะห์วิดีโอด้วย AI

• ติดตั้ง AdGuard DNS Server เพื่อกรองโฆษณาและปกป้องสมาชิกในครอบครัวขณะออนไลน์

เร้าเตอร์นี้จึงเปรียบเหมือน “ศูนย์กลางอัจฉริยะ” ที่ให้ความยืดหยุ่นสูงสุดทั้งสำหรับนักเล่นเกม ครีเอเตอร์ และผู้ใช้สมาร์ตโฮม พร้อมเสริมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการท่องเว็บ

WiFi Insight — วิเคราะห์สัญญาณอัจฉริยะ

ฟีเจอร์ WiFi Insight จะทำการสแกนหาการรบกวนทั้งจาก WiFi และคลื่นอื่น ๆ ตลอดเวลา พร้อมแสดงรายงานเชิงภาพอย่างละเอียด ทำให้ผู้ใช้สามารถระบุแหล่งรบกวนได้ทันที
นี่เป็นฟีเจอร์เฉพาะของ ASUS ที่ก้าวข้ามการสแกนช่องสัญญาณทั่วไป โดยให้ การวิเคราะห์คลื่นแบบเต็มสเปกตรัม และ สลับช่องอัตโนมัติ เพื่อคงความเสถียรของการเชื่อมต่อในสภาพแวดล้อมที่หนาแน่น

AI Game Boost — ปรับแต่งประสิทธิภาพเกมแบบเรียลไทม์

ROG เคยปฏิวัติวงการเกมมิ่งเร้าเตอร์ในปี 2017 ด้วยฟีเจอร์ “Triple-Level Game Acceleration” และ GT-BE19000AI ยังคงสานต่อความสำเร็จนั้น
รุ่นใหม่นี้มาพร้อมระบบ Device Detection, Adaptive QoE ที่จัดลำดับความสำคัญของทราฟฟิกอย่างอัจฉริยะ และ GTNet Routing ที่ได้รับการปรับแต่งด้วยอัลกอริทึม AI เพื่อให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานจริงแบบเรียลไทม์
ผลการทดสอบภายในพบว่า AI Game Boost สามารถลดค่า Latency ได้สูงสุดถึง 34%

WiFi 7 — แบนด์วิธขั้นสุด

GT-BE19000AI รองรับ WiFi 7 แบบ Tri-band (320 MHz / 4096-QAM) ให้ความเร็วไร้สายสูงสุดถึง 19 Gbps
พร้อมพอร์ต 10 G Ethernet สองพอร์ต และ 2.5 G Ethernet สี่พอร์ต รวมแบนด์วิธสายได้สูงสุดถึง 31 Gbps
รองรับการทำงานแบบ Link Aggregation 20 Gbps สำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูงสุด เช่น เกมมิ่ง สตรีมมิ่ง และคอนเทนต์ครีเอชัน

โครงสร้างระบายความร้อนและฟีเจอร์ระดับพรีเมียม

เราเตอร์รุ่นนี้ใช้แผ่นอะลูมิเนียมหนากว่าเดิม 30% เคลือบ นาโนคาร์บอน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนถึง 18% เมื่อเทียบกับ GT-AXE11000
บอร์ด AI ยังติดตั้ง ฮีตซิงก์และแผ่นระบายความร้อน (Thermal Pad) เพื่อคงประสิทธิภาพ AI ให้เสถียร พร้อมโหมดประหยัดพลังงานเพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

Guest Network Pro และระบบความปลอดภัย AiProtection

ฟีเจอร์ Guest Network Pro ช่วยให้ผู้ใช้สร้าง SSID ได้สูงสุด 5 เครือข่าย สำหรับเกมมิ่ง, IoT, VPN หรือแขกผู้มาเยือน
สามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง จัดการแบนด์วิธ และกรองคอนเทนต์ได้แยกตามแต่ละเครือข่าย รวมถึงมีเครือข่ายเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ IoT เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นระเบียบในการจัดการ

ส่วน AiProtection คือระบบรักษาความปลอดภัยระดับองค์กรที่ปกป้องเครือข่ายในบ้านแบบเรียลไทม์ พร้อมระบบบล็อกโฆษณาและตัวติดตามอัตโนมัติ ให้ผู้ใช้มั่นใจในความปลอดภัยขณะออนไลน์ทุกเวลา

สรุปแล้ว ROG Rapture GT-BE19000AI คือเราเตอร์แห่งอนาคตที่รวมความเร็วระดับ WiFi 7 เข้ากับพลัง AI ในตัว ช่วยให้การเล่นเกม สตรีม และควบคุมสมาร์ตโฮมเป็นเรื่องที่ “อัจฉริยะและเสถียร” กว่าที่เคยเห็นในตลาดมาก่อน.

ที่มา: ASUS