บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือ Amazon.com (NASDAQ: AMZN) ประกาศเปิดตัว “AWS Innovation Hub” ศูนย์นวัตกรรมแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งอยู่ ณ สำนักงานใหญ่ AWS ใจกลางสิงคโปร์ บนพื้นที่กว่า 8,000 ตารางฟุต ศูนย์นวัตกรรมแห่งนี้เป็นพื้นที่สำหรับซีอีโอและผู้นำธุรกิจในภูมิภาค ให้ได้สัมผัสและทดลองใช้เทคโนโลยีล่าสุดจาก AWS และ Amazon รวมถึงโซลูชันจากพันธมิตรกว่า 30 ราย นอกจากนี้ยังรวบรวมตัวอย่างความสำเร็จในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคลาวด์จากองค์กรชั้นนำมากกว่า 50 กรณีศึกษา จุดเด่นของศูนย์นวัตกรรมคือการนำ Vision Builder มาใช้ ซึ่งเป็นเครื่องมือวางแผนอัจฉริยะที่พัฒนาโดย AWS และขับเคลื่อนด้วย Amazon Nova ช่วยให้องค์กรได้รับแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนและนำไปปฏิบัติได้จริง เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
AWS Innovation Hub เป็นศูนย์นวัตกรรมที่มุ่งผลักดันการพัฒนาด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โครงการนี้ใช้งบประมาณการลงทุนหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนเพิ่มเติมจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ในสิงคโปร์ของ AWS ที่มีมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2571 AWS ตั้งเป้าว่าในแต่ละปี จะมีผู้บริหารระดับสูงและผู้มีอำนาจตัดสินใจทางธุรกิจกว่า 1,000 คน เข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมด้านคลาวด์และ Generative AI ที่ศูนย์นวัตกรรมแห่งนี้ พร้อมทั้งเปิดโอกาสพิเศษให้นักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาในสิงคโปร์จำนวน 200 คน ได้เข้าร่วมการเรียนรู้ด้วย ภายในศูนย์นวัตกรรมมีการจัดแสดงโซลูชันเทคโนโลยีทั้งในรูปแบบเสมือนจริงและรูปแบบจับต้องได้ ซึ่งเป็นผลงานจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง AWS พันธมิตร และลูกค้า โดยมุ่งเน้นให้ตอบโจทย์ความท้าทายทางธุรกิจที่สำคัญ ทำให้องค์กรต่าง ๆ ในภูมิภาคสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที
AWS Innovation Hub พัฒนาต่อยอดมาจากบริการนวัตกรรมที่ AWS มีอยู่แล้วทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ AWS Builders Studio ที่เมืองเมลเบิร์น ซึ่งลูกค้าสามารถทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของ AWS เพื่อสร้าง ทดลอง ตรวจสอบ และทดสอบต้นแบบก่อนนำไปขยายผล ในด้านเทคโนโลยี Generative AI AWS ได้สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมผ่านโครงการระดับโลกอย่าง AWS Generative AI Innovation Center โดยมีทีมนักวิทยาศาสตร์ด้าน AI และผู้เชี่ยวชาญเชิงกลยุทธ์คอยให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า ด้วยความเชี่ยวชาญทั้งในด้านอุตสาหกรรมและ AI ครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการคิดค้นไปจนถึงการขยายผลทั่วทั้งองค์กร นอกจากนี้ AWS ยังได้สร้างพื้นที่ทำงานร่วมกันในรูปแบบป๊อปอัพที่เรียกว่า AWS Gen AI Lofts เพื่อเชื่อมโยงสตาร์ทอัพ นักพัฒนา นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์เชิงลึกและส่งเสริมนวัตกรรม ซึ่งได้จัดขึ้นไปแล้วที่เมืองเบงกาลูรูและกรุงโซลในปี 2567 และมีแผนจะจัดที่เมืองเบงกาลูรูอีกครั้งและโอซาก้าในปี 2568
Jaime Vallés รองประธาน AWS ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า “นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเอเชีย เราจำเป็นต้องใช้นวัตกรรมเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและสร้างมูลค่าทางธุรกิจที่เป็นรูปธรรม AWS Innovation Hub ช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถแปลงแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ให้กลายเป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้ ผ่านการผสานการใช้เทคโนโลยีคลาวด์และ AI แบบครบวงจรของเรา เครือข่ายพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 140,000 รายทั่วโลก และวัฒนธรรมนวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Amazon ที่ Innovation Hub แห่งนี้ ลูกค้าสามารถร่วมมือกับ AWS เพื่อพัฒนาแผนงานที่นำไปปฏิบัติได้จริง ตั้งแต่การทำเกษตรกรรมอัจฉริยะ การค้าปลีกแบบเฉพาะบุคคล ไปจนถึงการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินและบริการประชาชนแบบดิจิทัล โอกาสมีอยู่อย่างไม่จำกัด และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะช่วยเร่งการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลในภูมิภาคนี้”
สัมผัสประสบการณ์เทคโนโลยีล้ำสมัยที่เร่งการสร้างนวัตกรรม
AWS Hub รูปแบบใหม่แห่งแรกของโลก เปิดให้ผู้บริหารระดับสูงได้สัมผัสประสบการณ์นวัตกรรมที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับความท้าทายทางธุรกิจของแต่ละองค์กร ภายในประกอบด้วย 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนสร้างแรงบันดาลใจ (Aspiration Zone), โซนเร่งการเติบโต (Acceleration Zone), และโซนลงมือทำ (Action Zone) โดยผู้เข้าชมจะได้แผนการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัลที่พร้อมนำไปปฏิบัติจริงร่วมกับ AWS และพันธมิตร ในโซนสร้างแรงบันดาลใจ ผู้บริหารจะได้สัมผัสเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนโลก ทั้ง AI ที่สร้างคอนเทนต์ได้เอง (Generative AI) การประมวลผลควอนตัม และเทคโนโลยีโลกเสมือน (VR) ที่กำลังปฏิวัติวงการธุรกิจและสังคมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ใน Acceleration Zone ผู้บริหารจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมการสร้างนวัตกรรมแบบ Amazon ผ่านกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า Amazon สร้างการเปลี่ยนแปลงระยะยาวได้อย่างไร ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางและวัฒนธรรมองค์กรที่มีเป้าหมายชัดเจน โซนนี้ยังจัดแสดงนวัตกรรมล่าสุดของ AWS อย่างชิปประมวลผล Graviton, Inferentia และ Trainium ที่ทั้งประหยัดและมีประสิทธิภาพสูง รวมถึง AWS Outposts ระบบที่ช่วยให้องค์กรใช้งานโครงสร้างพื้นฐานของ AWS ในสถานที่ของตนเองได้อย่างไร้รอยต่อ
ปิดท้ายด้วย Action Zone ที่ Working Backwards Studio ที่นี่ ทุกไอเดียจากการพูดคุยจะถูกสรุปเป็นภาพรวมด้วย Vision Builder เครื่องมือวางแผนพิเศษจาก AWS ที่ช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพความเป็นไปได้ทางธุรกิจและวางแผนการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน Vision Builder ทำงานด้วย Amazon Nova ระบบ AI รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีความฉลาดเหนือชั้น ประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย ปรับแต่งได้ตามต้องการ และพร้อมใช้งานบนแพลตฟอร์ม Amazon Bedrock
ศักยภาพไร้ขีดจำกัดด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
นวัตกรรมที่จัดแสดงใน Hub จะหมุนเวียนและพัฒนาไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การจัดแสดงใน Hub ประกอบด้วย
· ระบบอัจฉริยะจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหารโดย Netatech ผู้นำนวัตกรรมด้านการเกษตรในเมือง ที่ใช้ AI ควบคุมการผลิตแบบอัตโนมัติตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมระบบตรวจสอบคุณภาพด้วยเทคโนโลยีไฮเปอร์สเปกตรัล เพื่อรับประกันความสดใหม่ของผลผลิตด้วย AI อย่างแม่นยำและโปร่งใส (“AI-Verified Fresh”) ระบบนี้พัฒนาขึ้นในสิงคโปร์ ออกแบบให้ปรับขนาดได้ตามต้องการและทำงานอัตโนมัติ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานระดับโลกที่ไร้ของเสียและรักษาความสดใหม่เป็นหัวใจสำคัญ
· สายการผลิตจักรยานไฟฟ้าอัจฉริยะจาก AWS (AWS’s E-bike Smart Factory) แสดงให้เห็นวิธีแก้ปัญหาที่ผู้ผลิตมักเจอ เช่น สินค้าขาดสต็อก การผลิตติดขัด และปัญหาควบคุมคุณภาพ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลทวิน ผู้ช่วยอัจฉริยะในโรงงานที่ใช้ AI และระบบ IoT ที่พัฒนาโดย AWS และพาร์ทเนอร์
· AGIL Trust จาก ST Engineering เครื่องมือ AI ที่ช่วยต่อสู้กับข่าวปลอม ตรวจจับดีปเฟค และวิเคราะห์เนื้อหาที่เป็นอันตรายบนโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมให้บริการบน AWS แล้ว ด้วยประสบการณ์กว่า 4 ปีในฐานะ AWS Advanced Services Partner ST Engineering พร้อมให้คำปรึกษาและปรับแต่งโซลูชันให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละองค์กร
· GS DAP® แพลตฟอร์มบล็อกเชนรางวัลการันตีจาก Goldman Sachs ที่ปฏิวัติวงการการเงินด้วยระบบจัดการเครื่องมือทางการเงินครบวงจร ช่วยให้ลูกค้าทำธุรกรรมได้สะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในตลาดทุน
· Project Kuiper โครงการดาวเทียมจาก Amazon ที่จะนำอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงราคาเข้าถึงได้ไปสู่ชุมชนห่างไกลทั่วโลก ด้วยการส่งดาวเทียมนับพันดวงโคจรรอบโลกระดับต่ำ (Low Earth Orbit: LEO) เชื่อมต่อกับเครือข่ายสายอากาศ ไฟเบอร์ และจุดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภาคพื้นดินทั่วโลก
· Amazon Rufus ผู้ช่วยชอปปิงอัจฉริยะที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากแคตตาล็อกสินค้า รีวิว และข้อมูลออนไลน์ของ Amazon เพื่อตอบคำถาม แนะนำ และเปรียบเทียบสินค้าให้ลูกค้าแบบเป็นธรรมชาติ ปัจจุบัน Amazon Rufus เปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกา อินเดีย และญี่ปุ่น พร้อมขยายบริการทั่วโลกในอนาคต
· Hercules หุ่นยนต์อัจฉริยะจาก Amazon Robotics ที่ช่วยขนส่งชั้นวางสินค้าในศูนย์กระจายสินค้า ทำให้พนักงานทำงานได้สะดวกขึ้น Amazon ได้พัฒนาและติดตั้งหุ่นยนต์กว่า 750,000 ตัวทั่วโลก เพื่อให้พนักงานทำงานได้ปลอดภัย สะดวก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมส่งสินค้าถึงลูกค้าได้เร็วยิ่งขึ้น
ดีลอยท์ (Deloitte) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์อันยาวนานของ AWS ร่วมจัดแสดงโซลูชันด้านเทคโนโลยีที่ AWS Innovation Hub ลี ชิว เชียต ผู้นำด้านเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของดีลอยท์ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่ผู้นำองค์กรจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ AWS Innovation Hub พร้อมชมโซลูชัน AI รุ่นใหม่ของดีลอยท์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับหน่วยงานด้านกฎหมายและกฎระเบียบโดยเฉพาะ ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมา AWS และดีลอยท์ได้ร่วมกันช่วยองค์กรต่าง ๆ พัฒนาไอเดียให้กลายเป็นโซลูชันที่สร้างผลลัพธ์จริงในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการเงิน ด้านการผลิต และภาครัฐ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้นำองค์กรให้บรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ด้วยความเข้าใจที่ชัดเจนว่านวัตกรรมใหม่ ๆ จะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงและคุณค่าที่ยั่งยืนได้อย่างไร”
AWS Innovation Hub สร้างสรรค์ขึ้นโดยได้แรงบันดาลใจจาก Amazon’s Leadership Principles (หลักการของผู้นำ) และต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้าผ่านหลักการสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ เรียนรู้และใฝ่รู้ คิดค้นและทำให้เรียบง่าย ความสำเร็จและการเติบโตที่มาพร้อมความรับผิดชอบ และที่สำคัญที่สุดคือ การกล้าคิดการใหญ่
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS Innovation Hub หรือต้องการนัดเข้าเยี่ยมชม สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://aws.amazon.com/local/singapore/innovation-hub/
เกี่ยวกับอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส
ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) ได้เป็นผู้นำด้านบริการคลาวด์ที่ครอบคลุมและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก AWS พัฒนาบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการทำงานทุกรูปแบบ ปัจจุบันมีบริการมากกว่า 240 ประเภท ครอบคลุมด้านต่าง ๆ เช่น การประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล ฐานข้อมูล ระบบเครือข่าย การวิเคราะห์ข้อมูล แมชชีนเลิร์นนิง และปัญญาประดิษฐ์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) เทคโนโลยีมือถือ ความปลอดภัย ระบบไฮบริด สื่อ รวมถึงการพัฒนา การใช้งาน และการจัดการแอปพลิเคชันต่าง ๆ AWS มี Availability Zones 117 แห่งใน 37 AWS Regions ทั่วโลก และมีแผนขยายเพิ่มอีก 13 Availability Zones และ 4 AWS Regions เพิ่มเติมใน ชิลี นิวซีแลนด์ ซาอุดีอาระเบีย และ AWS European Sovereign Cloud ลูกค้านับล้านรายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว องค์กรขนาดใหญ่ และหน่วยงานภาครัฐ ต่างเชื่อมั่นใน AWS ในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขาให้มีความคล่องตัวมากขึ้นและมีต้นทุนที่น้อยลง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ aws.amazon.com
เกี่ยวกับ Amazon
Amazon ใช้หลักการ 4 ประการในการดำเนินงาน ได้แก่ การมุ่งเน้นที่ลูกค้ามากกว่าคู่แข่ง ความหลงใหลในการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในการดําเนินงาน และการคิดระยะยาว Amazon มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามากที่สุดในโลก เป็นบริษัทนายจ้างที่ดีที่สุดในโลก และสถานที่ทํางานที่ปลอดภัยที่สุดในโลก Amazon ได้ริเริ่มนวัตกรรมมากมาย เช่น ระบบรีวิวสินค้า, การสั่งซื้อด้วยคลิกเดียว, ระบบแนะนำสินค้าเฉพาะบุคคล, บริการ Prime, บริการจัดส่งสินค้าโดย Amazon, บริการคลาวด์ AWS, Kindle Direct Publishing. Career Choice, Fire tablets, Fire TV, Amazon Echo, Alexa, เทคโนโลยีร้านค้าไร้แคชเชียร์ Just Walk Out technology, Amazon Studios และโครงการ The Climate Pledge สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ amazon.com/about และติดตามข่าวสารที่ @AmazonNews