สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน กับอุปกรณ์เกมมิ่งที่ปี 2024 กระแสของแสสี RGB ที่มักหายหรือมีน้อยลงกว่ายุคก่อนหน้านี้ ที่วันนี้กลายเป็นว่าของธรรมดาบ้านๆ หน้าตาอวกาศ แสงสีมาเต็ม ส่วนสายเกมมิ่งที่เรียบง่ายไร้แสงสี วันนี้เรามากับ CORSAIR M75 AIR Wireless แน่นอนว่ามันคือเมาส์ไร้สาย ที่มีขนาดกระทัดรัด และ น้ำหนักเบา พร้อมแบตเตอรี่ในตัว โดยทาง Corsair ออกแบบให้รองรับความละเอียดสูงสุด 26,000 DPI พร้อมกับ Polling Rate สูงสุด 2,000Hz กับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานรองรับการใช้งานไร้สาย ,Bluetooth และ ใช้สาย ในการออกแบบให้ CORSAIR M75 AIR ลงตัวกับการเล่นเกมแนว FPS ที่เด่นเรื่องการควบคุม และ ความรวดเร็ว
CORSAIR M75 AIR มีสัดส่วน 41.66 x 65.02 x 128.02 มม. น้ำหนักที่ 60 กรัม ออกแบบมารองรับการวางนิ้วแบบ Claw และ Palm เน้นกับสายเล่นเกม FPS เป็นหลัก แนวอื่นเป็นรอง
ทางด้านเซ็นเซอร์ Marksman แบบ Optical ที่ควบคุมได้อย่างแม่นยำของ Corsair ความละเอียดสูงสุด 26,000 DPI
เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Hyper Fast ในชื่อ Slipstream รองรับ Polling Rate สูงสุด 2000 Hz ใช้งานได้สูงสุด 34 ชั่วโมง พร้อมรองรับการใช้งาน Bluetooth ใช้งานได้สูงสุด 100 ชั่วโมง แล้วยังรองรับการเชื่อมต่อทางสาย USB ได้ ชาร์จเต็มเพียง 75 นาที
การออกแบบที่น่าสนใจคือ Zero Gap ไม่มีช่องว่างที่ปุ่ม Click พร้อมการใช้ Optical Switches รองรับการคลิกที่ 100 ล้านครั้ง
Package & Bundled
แพคเกจมาในธีมสีสันที่ดูสดใสสีเหลืองตัดสลับลายสามเหลี่ยมตามแบบฉบับ Corsair ของที่ให้มาในกล่องคู่มือเงื่อนไขการรับประกัน และ สติกเกอร์ CORSAIR
สาย USB Type C to Type A ความยาว 1.8 เมตร สำหรับการชาร์ตพลังงาน หรือ การใช้งาน โดยระดับ Corsair น่าจะให้สายนิ่มที่มีความคล่องตัวในการใช้งาน
Mouse Detail
การออกแบบที่ตอบโจทย์มือขนาดกลาง หรือ ขนาดค่อนข้างใหญ่ รูปทรงสมมาตรลงตัวกับการใช้มือขวาและซ้ายได้ วัสดุพลาสติกสีดำผิวด้าน ตัวบอดี้ที่น้ำหนักไม่มากเกินไปในยุค 2024 สัมผัสแล้วไม่ก๊องแก๊ง ไม่เหมือนจะหลุดออกมาได้ ถ้าลองใช้งานแล้วมือเหงื่อออกมาก มี Grip Tape ขายเพิ่ม หรือ DIY เอง แต่เท่าที่ลองใช้ไม่มีปัญหาเรื่องความลื่นนะ ที่ภายในมีการใส่แบต Lithium-Polymer ไว้แล้ว น้ำหนักเบา แต่บอดี้ยังดูแข็งแรงใช้ได้ บริเวณตรงกลางที่เป็นจุด เป็น LED แสดงสถานะ ที่ไม่ได้ติดตลอดเวลา
ลูกกลิ้งที่เป็นผิวสัมผัสยางลายเส้นขวาง ที่แกนกลางเป็นสีเหลืองตามสไตล์ Corsair ไม่มีปุ่มปรับ DPI นะครับ ต้องปรับใน iCUE
ถ้าใครใช้ Corsair ในยุคหลัง จะคุ้นเคยกับสีเหลืองนี้ดี สาย USB ที่ใช้มาก็มีแซมเหลืองแบบนี้
โดยมีโลโก้ Corsair สีดำเงาที่ด้านหลัง
ที่ด้านซ้ายมีผิวด้านเหมือนบอดี้ทั้งหมด พร้อมชื่อรุ่น M75 AIR ยังมีปุ่ม Forward และ Backward ที่สามารถปรับการใช้งานได้
ด้านล่างที่ออกแบบ Mouse Skate ที่มีขนาดใหญ่เป็นท่อนหนาและหลัง พร้อมเป็นกรอบล้อมรอบตรงกลาง ที่ให้ความมั่นคงในการควบคุม
ปุ่มพาวเวอร์ กดปรับโหมดการใช้งาน Wireless ,ปิดหรือสาย และ Bluetooth เซ็นเซอร์ Marksman แบบ Optical ของ Corsair ความละเอียดสูงสุด 26,000 DPI
การเชื่อมต่อ Type C สำหรับการชาร์ตหรือใช้สาย
USB Receiver ที่มีช่องเก็บใต้ตัวเมาส์ เผื่อการเดินทางนอกสถานที่ มีการบ่งบอกถึงเทคโนโลยี Slipstream
Software
ซอร์ฟแวร์ iCUE ที่แฟนคลับ Corsair รู้จักกันดี โดยการจัดการแบ่งออกเป็น USB Receiver และ M75 AIR Wireless
หน้า Dashboard ที่เข้าถึงการปรับแต่ง M75 AIR Wireless มีการอัพเดท Firmware ด้วย
การเชื่อมต่อไร้สายในอดีตที่ไม่ลื่นไหล ปรับ Polling Rate 2,000 Hz จะกินแบตเพิ่มขึ้น แต่ลื่นมาก
การตั้งค่า DPI ได้สูงสุด 26000 DPI สามารถตั้งค่าจำนวนตามความต้องการ แล้วสามารถกำหนดสี LED สถานะได้
การปรับจูนการเคลื่อนไหวให้เข้ากับแผ่นรองเมาส์
ปรับการทำงานของปุ่มบนตัวเมาส์ โดยสามารถใส่เป็นคำสั่งมาโครได้
การใส่คำสั่งมาโครใส่ได้หลากหลาย
การอัพเดท Firmware ที่แยกส่วนในการอัพ
ลองใช้งาน
การออกแบบของ CORSAIR M75 AIR Wireless ที่ลงตัวในการใช้งานในมือซ้าย หรือ ขวา โดยตัวเมาส์ที่ออกแบบลงตัวสำหรับคนมือขนาดกลาง หรือ ค่อนข้างใหญ่ เสียงคลิกที่ยังพอมี แต่เป็นเสียงแนวผู้ดี ไม่ดังมาก
การที่ Mouse Skate มีขนาดใหญ่ แต่ตัวเมาส์มีน้ำหนักเพียง 60 กรัม ก็ไม่ได้เป็นปัญหาความนิ่งในการควบคุม แม้เป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว สบัดมืออย่างว่องไว้ CORSAIR M75 AIR Wireless ก็ให้ความรู้สึกที่นิ่งและแม่นยำมาก การออกแบบที่เหมาะสมเกมประเภท FPS แต่ประเภทอื่นก็ใช้งานได้ครับ
CORSAIR M75 AIR Wireless ออกมาในยุคที่เหล่าเกมเมอร์ ไม่ต้องการแสงสีใดๆ การปรับแต่งทำได้ผ่าน iCUE
Conclusion
CORSAIR M75 AIR Wireless แน่นอนว่ามันคือเมาส์ไร้สาย ที่มีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา ควบคุมได้มั่นใจ สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ ออกแบบมารองรับกับผู้ใช้งานที่ถนัดกับมืทั้งสองข้าง กับรูปทรงแนวรีๆ ไม่กว้างมาก แต่ยาว ด้วยพื้นผิวที่ออกแนวด้าน ถ้าไม่ได้เล่นเกมระดับฮาร์ดคอร์ หรือ เหงือออกมีมากมาย Grip Tape ไม่จำเป็นเท่าไรนัก เซ็นเซอร์ Marksman ชอบความนิ่งและแม่นยำในการควบคุม ลืมไปเลยว่ามันคือเมาส์ไร้สาย ยิ่งปรับ Polling Rate สูงสุด 2000 Hz รู้สึกว่ามันกินแบตไปหน่อย ถ้าช่วงใช้งานปรับ Polling Rate 500-1000 Hz ก็ได้ เก็บไว้ตอนเล่นเกมตั้งที่ 2000 Hz อีกสิ่งที่ผมถูกใจมากคือการหลับ หรือ Sleep ที่หลังจากการตื่น หรือ Awake ของมันทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกดปุ่มอะไรกระตุ้นหรือต้องรอให้ตกใจ โดนส่วนตัวมองว่ามันกินแบตไปนิด ที่ผมเจอช่วงวันหยุดไม่ได้เล่นคอมเลย พอเช้าวันจันทร์มาใช้งานเมาส์ดันแบตหมด นอกนั้นก็ไม่รู้สึกว่ามันมีปัญหาอะไร ถ้ายังไม่พอก็สามารถเชื่อมต่อสาย Type C ใช้งานกันได้ยาวๆ สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Special Thanks : Corsair Gaming, Inc.
