สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน กับการเปิดตัวของ Intel Gen 12 กัน แต่มันก็ยังเป็นยุคที่คาบเกี่ยวกันด้วยแรม DDR4 นั้นยังคงมีบทบาทในตลาดกันอย่างไม่ต้องสงสัย ที่สำคัญการอัพเกรดเครื่องที่ใช้แรม DDR5 ค่าใช้จ่ายยังสูง และ ทางเลือกของแรม DDR5 ในเวลานี้ยังไม่หลากหลายนัก หลังจากคราวที่แล้วเราได้รีวิว Corsair Vengeance RGB RS ซึ่งวันนี้ก็จะเป็นการรีวิว Vengeance RGB RT ที่เป็นการปรับปรุงภายนอกให้มีความสวยงามที่โดดเด่นแตกต่างจากตัว Vengeance RGB RS สำหรับ Corsair Vengeance RGB RT ที่เรามาทดสอบให้ได้ชมวันนี้จะเป็น DDR 4 บัส 3200 Mhz CL16 ที่ความจุ 16 GB Dual Channels ซึ่งลงตัวกับการใช้งานของสายเกมมิ่ง ,การใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุค 2021 และ รองรับการโอเวอร์คล็อกได้ จากภายนอกมันควรจะรีวิวพร้อมกัน แต่มันมีบางจุดที่คิดว่าจับมารีวิวทำแยกกันอีกกว่า
Package
มาถึงแพคเกจที่ดูเรียบง่ายสไตล์ของ CORSAIR ตระกูลนี้เป็นกล่องกระดาษแข็งสีดำ การพิมพ์ลวดลายบ่งบอกความเป็น Vengeance RGB RT ใส่ลายสามเหลี่ยมดูซิ่งๆ เหมือนลายสานของวัสดุน้ำหนักเบา ในชุดจะไม่มีอะไรเลยนอกจากตัวแรม
Design & Detail
เรามาดูหน้าตาของ Vengeance RGB RT ภายนอกจะเป็นสิ่งที่โดดเด่นที่สุด คงหนีไม่พ้น Heatspeader ที่เป็นการออกแบบกันอย่างโดดเด่นสวยงามของตระกูลนี้ วัสดุอลูมิเนียมที่มีการขึ้นรูปมาอย่างเนียบมาก สีขาวตัดกับสีดำ ผิวคล้ายกับการยิงทรายแบบด้าน ใส่ลายสามเหลี่ยม ที่ดูใกล้ๆคลายกับวัสดุลายคาร์บอนประมาณนั้น พร้อมกับโลโก้ Vengeance มาอย่างชัดเจน ความสูงของ Heatspeader สามารถใช้งานร่วมกับฮีทซิงค์ประสิทธิภาพสูงขนาดใหญ่
Vengeance RGB RT ในเวอร์ชั่นสีขาวตัดด้วยสีดำ โดย PCB นั้นเป็นการใช้ของที่ Corsair ได้ออกแบบและสั่งผลิตเป็นของตัวเอง
มาถึงในส่วนด้านหลังกันบ้าง Heatspeader ที่จะเป็นรูปแบบเดียวกันด้านหน้า พร้อมกับฉลากบ่งบอกข้อมูลประจำตัวของ ถ้าใครเล่นแรม CORSAIR อีกสิ่งนึงที่ต้องใช้ประกอบการส่องคือเวอร์ชั่น ที่เราได้รับมาคือ ver 4.32
บริเวณด้านสันของเมโมรีโมดูล ที่ใช้พลาสติกสีโปร่งแสงแบบขาวนม ช่วยเพิ่มการกระจายแสงจาก LED RGB ได้สว่างกันทั่ว ไม่สังเกตุเห็นเป็นจุดๆ มีการใส่พิ้วผิวรูปทรงสามเหลี่ยมเช่นเดียวกับด้านหน้า
การยึดติดกับระหว่างเมโมรีโมชิพและ Heatspeader จะเป็นการใช้แผ่นระบายความร้อนแบบการในถ่ายเทความร้อน ที่การออกแบบของ Heatspeader ถือว่าทำออกดี ที่ความนาบเกือบสนิท
เม็ดแรมจะโดน Remark เป็น Corsair แล้ว ซึ่งคาดเดาว่าจะเป็น Samsung C-Die แต่ถ้าจากที่เคยเล่นมากับ V4.32 เกรดของเม็ดแรมจะต่ำกว่า V 4.31 ที่เป็น Samsung B-Die ในต่างประเทศเค้าจะเรียกอีกชื่อว่า Samsung OEM
ชุด Dual Channels 16GB เท่ากับว่า 1 แผง = 8GB ครับ
แสงสี RGB ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นจาก Corsair ด้วยการใช้ไฟ RGB 10 เม็ด พร้อมกับการใช้วัสดุขาวนมเพื่อการกระจายแสงได้เนียนมากขึ้น การปรับแต่งสีสัน ที่สามารถได้จาก Software iCUE ของ Corsair ที่เป็นอีกหนึ่ง Eco System จาก Corsair ทำงานร่วมกับเกมมิ่งเกียร์และอื่นๆที่รองรับได้
แน่นอนว่ามีโปรไฟล์ XMP รองรับได้หลากหลายความเร็ว ที่ความเร็วสูงสุด 3200 Mhz ตอบโจทย์การใช้งานของยุค 2021 ได้อย่างลงตัว
นอกจากโปรไฟล์ XMP แต่ตัวมันเองยังมีโปรไฟล์ JEDEC เอาไว้ 18 ชุด ตามมาตรฐาน เม็ดแรมระบุชัดเจนมาจาก Samsung
System Setup
ระบบที่ใช้ในการทดสอบ
- CPU : AMD Ryzen 7 5800X
- VGA : ROG STRIX GeForce GTX980
- Mainboard : ASUS TUF Gaming X570-PLUS
- CPU Cooler : Wraith Prism with RGB LED
- SSD : Silicon Power Ace A56 256GB
- PSU : FSP 1200Watt
- OS : Windows 11 Pro
บรรยากาศขณะการทดสอบ
Stock Performance
Conclusion !
Corsair Vengeance RGB RT กับความจุ 16GB แบบชุด Dual Channel และ CL16 ที่ความเร็ว 3200 Mhz ถ้ามองที่การใช้งานตามพื้นฐาน ยังคงมีความลงตัวกับการใช้งานของเกมมิ่งและการใช้งานในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิ ในนยุค 2021 การออกแบบนั้นสามารถใช้งานร่วมกับฝั่ง Intel และ AMD ได้อย่างไม่มีปัญหา กดเปิด XMP หรือ D.O.C.P บูตทีเดียวติด พร้อมความโดดเด่นด้วยไฟ LED RGB อย่างสวยงาม สามารถปรับแต่งได้จาก iCUE ที่ถูกใจกับสาวกเกมมิ่งเกียร์ของ Corsair ที่ปรับแต่งสีได้ตามสไตล์ ด้วยฮีทซิงค์ที่มีการปรับปรุงอัพเกรดการออกแบบให้มีความสวยงามตามยุคสมัย แต่ประสิทธิภาพการโอเวอร์คล็อกนั้น Corsair Vengeance RGB RT ตัวที่เราได้มามาทำการทดสอบเป็น ver 4.32 ใช้เม็ดแรม Samsung C-Die หรือ เม็ดแรมเกรด OEM ความสามารถในการโอเวอร์คล็อกที่อย่าไปคาดหวังอะไรมาก แค่ CL18 ที่บัส 1866-1933 ยังเหนื่อย เอาเวลาไปนั่งเล่นเกมดีกว่า เลยไม่ได้ทดสอบการโอเวอร์คล็อกให้ได้ชมกันแต่อย่างได สำหรับวันนี้ผมขอลาแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Price : N/A บาท
Special Thanks : Corsair Components, Inc.