เมาส์ Corsair IRONCLAW RGB Wireless เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงเมษายนที่ผ่านมา หากสังเกตกันดีๆ ผู้ผลิตรายนี้ตั้งใจพัฒนาเมาส์เกมมิ่งของตัวเองออกมาเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี นอกจากดีไซน์ที่เปลี่ยนไปแล้ว การผนวกเอาเทคโนโลยีบลูทูธเข้ามาใช้ก็ทำให้คอเกมฝั่งโน้ตบุ๊กไม่ต้องเสียพอร์ตยูเอสบีไปอีกช่อง หรือถ้าไม่ใช่คอเกม เมาส์ตัวนี้จะช่วยให้คุณทำงานได้โดยไม่ต้องหงุดหงิดกับสิ่งแย่ๆ เหมือนที่เคยพบกับเมาส์บลูทูธราคาถูกๆ ในอดีตอีกต่อไป
เรามาพูดถึงฟีเจอร์เด่นๆ ของเมาส์ IRONCLAW RGB Wireless กันก่อน เริ่มจากหน้าตาของมันที่ถอดแบบมาจากเมาส์ IRONCLAW RGB บอดี้ยกสูง มีสัดส่วนโค้งเว้าและความลาดเอียงที่เข้ากับรูปมือของผู้ใช้ แต่มันมีขนาดที่ใหญ่กว่าเมาส์ปกติทั่วไป ดังนั้นมันจึงเหมาะกับคนที่มือใหญ่มากกว่าคนทั่วไป นอกจากนั้นพวกเขายังเพิ่มปุ่มเข้ามาอีกมากมาย เพื่อให้ทำการโปรแกรมมาโครได้เต็มที่มากถึง 10 โปรแกรม ใช้เซนเซอร์ PixArt PMW3391 ที่ถือเป็นระดับไฮเอนด์ในยุคนี้ ให้ค่าความไวมากถึง 18,000 DPI และปรับเพิ่มลดได้ละเอียดระดับ 1 DPI กันเลย
นอกจากการเพิ่มปุ่มสั่งงานแล้ว ภายในของเมาส์ยังมีหน่วยความจำที่ทำการบันทึกโปรไฟล์ค่าการทำงานของเมาส์ที่จะต้องเข้าไปตั้งค่าในซอฟต์แวร์ iCUE ตรงนี้ตั้งค่าได้หลายชุด และเลือกใช้งานได้ด้วยปุ่ม 2 ปุ่มถัดจาก Scroll Wheel ขณะเดียวกันเรื่องความสวยงามก็ปรับเพิ่มขึ้นมาอีกระดับด้วยโซนไฟ RGB เป็นทั้งหมด 3 จุด ได้แก่ บริเวณโลโก้ด้านหลังเมาส์ ตำแหน่ง Scroll Wheel และด้านหน้าของเมาส์
วัสดุของเมาส์ คุณภาพของเท็กซ์เจอร์ หรือแม้กระทั่งการประกอบ ต้องยอมรับว่า มันมีความพรีเมี่ยมเอามากๆ ผิวแบบเคลือบไวนิลให้สัมผัสกึ่งด้านกึ่งมัน ขณะที่กริปยางด้านข้างก็ทำหน้าที่ในการยึดเกาะนิ้วของเราได้น่าชมเชย หรือพูดง่ายๆ ทำหน้าที่ในตำแหน่งที่ควรทำได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นปุ่มสั่งงานมากมายในแต่ละจุดเองก็จัดวางได้เหมาะสม ขยับนิ้วมาใช้งานได้สะดวก ไม่เกิดปัญหาปุ่มลั่นกรณีที่ขยับเมาส์เร็วๆ แล้วไปโดน เนื่องจากองศาของปุ่มและระดับความแข็งทำได้ค่อนข้างลงตัว
การทำงานไร้สายมีอยู่ 2 โหมด คือ ทำงานร่วมกับตัวรับสัญญาณของมันเอง ซึ่งใช้เทคโนโลยี Slipstream Wireless บนคลื่น 2.4GHz ที่มีค่าลาเทนซี่ต่ำ ส่วนสัญญาณไร้สายอีกตัวก็คือ Bluetooth 4.0 การสลับสัญญาณทำได้ง่ายด้วยสวิตช์แบบสไลด์ ผลลัพธ์ของการใช้งานถือว่า มองหาข้อติไม่ได้เลยโดยเฉพาะ Slipstream Wireless ขณะที่สัญญาณบลูทูธจะให้ความรู้สึกในการตอบการสนองการเคลื่อนไหวที่ด้อยกว่าเล็กน้อยในกรณีที่ขยับเมาส์ปรับมุมกล้องไวๆ ที่ยังไม่เป็นธรรมชาติเท่ากับ Slipstream Wireless ขณะที่การทำงานด้วยสายสัญญาณก็ไม่ได้ให้การตอบสนองที่แย่แต่อย่างใด ค่าการรายงาน Polling Rate มีค่าที่ออกมาไม่แตกต่างกัน แต่ด้วยสายสัญญาณก็ทำให้เมาส์มีแรงต้านเพิ่มขึ้น เนื่องจากน้ำหนักของสายและการเสียดสีกับพื้นโต๊ะนั่นเอง หากว่ากันตามตรงแล้ว ข้างกล่องเขียนว่า Win Without Wires ก็ถือว่าไม่ได้สำคัญอะไร แค่ทำให้เมาส์ยังใช้งานได้ต่อไปเมื่อแบตเตอรี่หมด และหน้าที่จริงๆ ของมันก็คือ ประจุพลังงาน อย่างไรก็ดี ปลั๊กพลังงานแบบ Micro USB ก็ไม่ได้จำกัดต้องใช้สายตัวมันเองเหมือนกับบางแบรนด์ ใช้สายทั่วไปชาร์จพลังงานได้เลย ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องสายหายหรือถ้าสายขาดไปจะทำอย่างไรอีกต่อไป ตรงนี้ถือว่า Corsair แฟร์กับลูกค้าของตัวเองเอามากๆ เลย
ซอฟต์แวร์ iCUE
แน่นอนว่า การปรับแต่งต่างๆ ยังคงทำงานผ่านซอฟต์แวร์ตัวนี้ การออกแบบอินเทอร์เฟสในภาพรวมถือว่าทำได้ดี มีรายละเอียดในบางจุดที่ยังไม่สะดวกเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์ปรับแต่งของค่ายคู่แข่ง แน่นอนว่าการแบ่งแยกหมวดหมู่ทำได้ชัดเจน การเพิ่มโปรไฟล์ เพิ่มการแสดงผลไฟ การตั้งค่า DPI การตั้งค่า Action ปุ่มมาโครทำความเข้าใจได้ง่าย แต่ต้องระลึกไว้ว่า การตั้งค่าทุกอย่างมันขึ้นจะอยู่ภายใต้โปรไฟล์แต่ละตัวที่คุณตั้งค่า ไม่ได้แยกออกมาดังนั้นเลือกโปรไฟล์ที่ต้องการก่อน จากนั้นค่อยขยับเข้าไปปรับแต่งในส่วนอื่นๆ ตรงนี้ถือว่าสร้างความสับสนเอามากๆ ในช่วงแรก แต่ก็ดีตรงที่ว่า เราสามารถเรียกโปรไฟล์บนซอฟต์แวร์ผ่านปุ่มสลับโปรไฟล์บนเมาส์ จากนั้นค่อยมาปรับในเชิงรายละเอียดอื่นๆ ต่อไปจะได้ไม่งง นอกจากนั้นโปรไฟล์เหล่านี้คุณยังสามารถลิงก์เข้ากับโปรแกรมหรือเกมที่เล่นอยู่ได้อีกด้วย
การปรับแต่งสีไฟทั้ง 3 โซน ทำได้ทั้งแบบแยกอิสระในแต่ละจุด หรือจะเลือกให้มันทำงานแบบเอฟเฟ็กต์เดียว ปรับสีตามอุณหภูมิของซีพียู ทำการซิงค์โครไนส์กับอุปกรณ์ของ Corsair แน่นอนเลือกสีได้ตามใจชอบ ส่วนการตั้งค่า Actions ไม่ได้มีแค่เฉพาะมาโคร แต่ยังมีการตั้งค่าอื่นๆ อย่างการ Remap เพื่อการทำงานกับแอพพลิเคชันต่างๆ เพิ่มความสะดวกให้มากขึ้นไม่ใช่แค่เฉพาะการเล่นเกม ตรงจุดนี้ถือเป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่แล้วในซอฟต์แวร์ iCUE ผู้ใช้สามารถไปศึกษาเพิ่มเติมกันได้ นอกจากนี้ การค่า DPI เองก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ดีมาก กำหนดค่า DPI ในแต่ละชุดได้ 3 ค่า พร้อมค่า DPI ของ Sniper ปรับแก้ได้ทั้งแกน X และ Y ปรับได้ละเอียดในระดับ 1 DPI รวมถึงกำหนดสีของไฟสถานะ 3 ขีดข้างตัวเมาส์ให้แตกต่างกันก็ได้ ส่วนการตั้งค่าที่เหลือก็มีปรับเปิดปิด Angle snapping ปรับ Enhance pointer precision และการคาลิเบรตเมาส์ให้เหมาะกับพื้นของแผ่นรองเมาส์
Conclusion!!
ต้องยอมรับว่า เมาส์ Corsair IRONCLAW RGB Wireless ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างเฉียบคม แต่ตรงนี้ขอยืนยันเฉพาะค่า DPI แค่ 1800dpi เท่านั้น เนื่องจากสูงกว่านี้ ผู้เขียนไม่สามารถก้าวข้ามไปใช้งานมันได้ ถึงอย่างนั้นผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่ได้ Perfect ไปทั้งหมด แม้ว่าเมาส์จะมีรูปทรงที่สอดรับกับอุ้งมือหรือเข้ามือนั่นแหละ จับใช้งานได้กระชับ ปุ่มสวิตช์ของเมาส์สั่งงานฉับไว การตอบสนองของเซนเซอร์ในการเคลื่อนย้ายเคอร์เซอร์หรือมุมกล้องทำได้ยอดเยี่ยม แต่เหตุผลหลักๆ ก็คือ ขนาดที่ใหญ่โตของมันเกินกว่ามือของผู้เขียนไปพอสมควร ดังนั้นการกดมุมกล้องลงต่ำหรือขยับเมาส์เข้าด้านในจึงติดอุ้งมือ เข้ามาได้ไม่สุด ตรงนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน เพราะบางคนใช้วิธีการไถโดยที่ยกข้อมือขึ้น
ในแง่ของการปรับแต่งก็ต้องบอกว่า สุดจริงเช่นกัน ทั้งในเรื่องของไฟแสดงผลที่ปรับได้หลากหลาย ทั้งตำแหน่ง ทั้งความสว่างและสีสัน แน่นอนว่า มันปรับตั้งอะไรได้มากมายมากกว่าการตั้งค่ามาโครอย่างที่ได้บอกไปตอนต้น แต่น่าเสียดายที่ความเสถียรภาพของซอฟต์แวร์นั้นยังไม่ได้เต็มร้อย มีอาการนิ่งไม่ไหวติงให้เห็น ถึงอย่างนั้น รีสตาร์ทเครื่องก็หายเป็นปกติ
สำหรับความสะดวกในการปรับใช้ต่างๆ ที่ถูกบันทึกไว้บนบอร์ดของเมาส์ ถือว่าทำได้สะดวกจนน่าชมเชย ปุ่มอยู่ถูกที่ถูกทาง ขยับเมาส์เร็วในการเล่นเกม ไม่มีการแตะไปโดนปุ่มอย่างไม่ตั้งใจ แต่สุดท้ายผู้ใช้จะต้องปรับตัวให้เข้ากับตำแหน่งต่างๆ ซึ่งเชื่อว่า ไม่ยากแน่นอน
Price : 2,990 บาท
Special Thanks : Corsair Components, Inc.