ตัวกล่อง Virtuoso RGB Wireless มาในทรงสีเหลี่ยม โทนสีดำเรียบหรู บนตัวกล่องมีรายละเอียดพร้อมทั้งฟีเจอร์การใช้งานระบุเอาไว้ชัดเจน
Unbox
แกะกล่องออกมาจะได้รับอุปกรณ์ทั้งหมดตามนี้
- หูฟัง Virtuoso RGB Wireless
- ไมโครโฟน
- หัวต่อ Wireless
- สาย AUX 3.5 mm
- สายพอร์ต USB
- คู่มือการใช้งานและการดูแลรักษา
- คู่มือการรับประกัน
Headphone
Virtuoso RGB Wireless เป็น Gaming Headset แบบปิดขนาด Full size ออกแบบตามทรงสรีระของศรีษะ มีน้ำหนักอยู่ที่ 360 กรัม ถือว่ามีน้ำหนักพอสมควร ดีไซน์ภายนอกเป็นทรงกลมเรียบหรูดูมีราคาสไตล์หูฟังที่ใช้งานในสตูดิโอ ทำให้สามารถเอาออกไปใช้งานนอกบ้านได้ดูไม่เด่นสะดุดตาจนเกินไป ช่วงบอดี้ทำมาจากอลูมีเนียมแบบพรีเมี่ยมสีเทา ซึ่งจะมีความแข็งแรงและความทนทานมากกว่าหูฟัง Headset ส่วนใหญ่ที่ทำจากพลาสติก ตัดกับส่วนของ Headband และ Ear Cup ที่เป็นสีดำ ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งประดับด้วยโลโก้ Corsair พร้อมทั้งมีไฟ RGB ลอดผ่าน ตัว Ear Cup สามารถบิดหมุนได้ 90 องศา ทั้งซ้าย-ขวา
Earpads ด้านในที่มากับตัวหูฟังใช้วัสดุพรีเมี่ยมอย่าง Memory foam ที่มีความหนาแน่นและมีความนิ่มเป็นอย่างมาก มาในขนาดกำลังดีอยู่ที่ 25mm (0.98”) ไม่บาง ไม่หนาจนเกินไป หุ้มด้วยหนังเทียม (PU) อย่างดีช่วยเพิ่มความสบายในการสวมใส่และมีความยืดหยุ่นสูง (สามารถถอดเปลี่ยนได้) ทำให้ใส่ไปนาน ๆ ได้ไม่บีบหัวและไม่เจ็บหู แต่ในเรื่องของการระบายความร้อนอาจจะไม่ดีนัก นอกจากนี้ยังสามารถกันเสียงรบกวนภายนอกได้ค่อนข้างดีอีกด้วย
หัวเสียบและปุ่มต่าง ๆ บนหูฟังประกอบด้วย รูเสียบสาย, รูเสียบไมโครโฟน, ปุ่มเปิด-ปิด (ไอคอน Wifi และ USB), ลูกกลิ้งปรับระดับเสียง และไฟบอกสถานะแบตเตอร์รี่ โดยจะมีด้วยกัน 3 ระดับ คือ ไฟสีเขียว (สูง) ไฟสีส้ม (กลาง) และไฟสีแดง (ต่ำ) โดยระยะเวลาการใช้งานจะใช้ได้ยาวนานสูงสุดประมาณ 20 ชั่วโมง
จุดปรับระดับของหูฟังสามารถปรับได้ถึงฝั่งละ 10 ระดับ ทำให้รองรับขนาดศีรษะได้ทุกขนาด พร้อมทั้งปั้มตรา Corsair ไว้ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนของ Headband ใช้วัสดุเหมือนกับ Earpads คือ Memory foam หุ้มด้วยหนัง PU ไม่มีลวดลายอะไร
Microphone
สำหรับก้านไมโครโฟนจะมาแบบแยกกับตัวหูฟัง มีความยืดหยุ่น งอได้ แต่ไม่สามารถปรับระดับความยาวได้ ตรงหัวเสียบเป็น Micro USB ส่วนปลายของไมโครโฟนไว้สำหรับใช้งานเสียงพูด เป็นแบบ Omni-directional รับเสียงได้รอบทิศทาง มีย่านความถี่อยู่ที่ 100Hz ถึง 10kHz มีไฟ LED บอกสถานะการใช้งาน หากเป็นสีเขียวคือกำลังเปิดใช้งานอยู่ แต่ถ้าเป็นสีแดงคือผู้ใช้งาน Mute เสียงเอาไว้ ตรงส่วนนี้ไม่สามารถปรับแต่งสีไฟใน Software ได้
ด้านใต้จะมีปุ่มสำหรับ Mute เสียง สะดวกต่อการใช้งานโดยไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าการพูดแบบ Push to Talk ในโปรแกรม Voice Chat ต่าง ๆ พร้อมทั้งรองรับ Discord Certified ช่วยให้สื่อสารผ่านโปรแกรม Discord ขณะเล่นเกมได้แบบลื่นไหลไม่มีสะดุด นอกจากนี้ก็มีฟีเจอร์ Sidetone ที่สามารถได้ยินเสียงของตัวเองได้หากพูดผ่านไมโครโฟน โดยการกดปุ่ม Mute ไมค์ค้างเอาไว้ 2-8 วินาที
Sound
Virtuoso RGB Wireless มาพร้อมการใช้งานไดร์เวอร์ขนาด 50 มม. Neodymium มีย่านความถี่อยู่ที่ 20Hz - 40000Hz สามารถปรับเสียงได้สูงสุดที่ 109 dB และปรับค่า Sensitivity ได้ +/- 3 dB รองรับการเล่นเสียงในระดับ Hi-Res Audio แต่ไม่รองรับ Dolby Atmos มี 2 โหมดการใช้งานหลัก ๆ คือ Stereo 2.0 mode และ 7.1 Surround Sound ซึ่งทั้งสองโหมดนี้ก็จะให้เสียงที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน อย่าง Stereo mode จะเหมาะกับการฟังเพลงและพูดคุยทั่วไป ส่วน 7.1 Surround Sound จะมีรูปแบบเสียงที่กังวาลกว่า นิยมใช้กับการดูหนังและเล่นเกมแนว FPS หรือเกมที่ต้องการรู้ทิศทางของกระสุน เสียงฝีเท้า และตำแหน่งของสิ่งมีชีวิตที่กำลังเคลื่อนที่อยู่
แนวเสียงที่ส่งออกมามีความบาลานซ์สูงแต่จะแอบเน้นไปที่ส่วนของเบสมากกว่าเสียงอื่น ๆ ส่วนความชัดเจนในรายละเอียดสูง หนักแน่น กระชับ มีมีติแต่ยังไม่ถึงที่สุด ความกว้างของเวทีเสียงนั้นถือว่าค่อนข้างกว้างทำให้เสียงที่ส่งออกมาถูกจับทิศทางและรับรู้เสียงในตำแหน่งต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ
รูปแบบการใช้งาน
SLIPSTREAM WIRELESS: การใช้งานผ่านหัวต่อ Wireless ที่ใช้เทคโนโลยีไร้สายสมรรถนะสูงอย่าง CORSAIR SLIPSTREAM WIRELESS technology ช่วยให้คุณภาพเสียงคมชัด การเชื่อมต่อไม่มีสะดุดหรือดีเลย์ พร้อมระยะการเชื่อมต่อไกลถึง 60 ฟุต ( ประมาณ 18 เมตร ) รองรับการใช้งานบน PC และ PS4/PS4 Pro แต่ PS4 จะไม่รองรับ 7.1
USB WIRED: การใช้งานผ่านสายพอร์ต USB Type-C แบบหูฟังมีสายทั่วไป และทำการชาร์จไฟหูฟังไปในตัว
3.5MM WIRED: เป็นการใช้งานกับอุปกรณ์ที่มีหัวเสียบ 3.5 mm มาตรฐานปกติ เช่น มือถือ, แทปเล็ต และเครื่องเล่นเกม Console ต่าง ๆ
Software
ควบคุมการใช้งานด้วย Software ICUE โดยการตั้งค่าภายใน Software จะมีดังนี้
Lighting Effects: โหมดการปรับแต่งไฟ RGB ซึ่งจะปรับได้ตั้งแต่รูปแบบการวิ่ง , ความเร็ว , ความเข้มอ่อนของสี และตำแหน่งที่ต้องการให้ไฟแสดงผล นอกจากนี้ยังตั้งค่าให้ลูกเล่นไฟเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Corsair ได้อีกด้วย
Equalizer setting: โหมดปรับแต่งเสียงสูง กลาง ต่ำ ได้อย่างอิสระ จะเน้นเสียงพูด เสียงเพลง หรือเสียงเบสก็ได้ทั้งนั้น
Device Setting: การตั้งค่าทั่วไปอย่างการตั้งให้สถานะของแบตเตอร์รี่โชว์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรา, ความสว่างของไฟ RGB, ตั้งค่า Sleep mode, ไฟบอกสถานะการใช้งานไมโครโฟน รวมไปถึงการอัพเดต Firmware
Specifications
Conclusion
Virtuoso RGB Wireless คือหูฟังที่สามารถใช้งานได้ทั้งแบบสายและไร้สายอีกหนึ่งตัวที่ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเรื่องรูปทรงและโทนสีที่ออกแบบมาเรียบหรูดูแพง (แต่ก็แอบแพงจริงแหละ ฮ่าๆ) บางครั้งก็ลืมไปเลยว่านี่คือเกมมิ่งเกียร์ อีกทั้งวัสดุทั้งหมดบนหูฟังตัวนี้ทางแบรนด์ก็ได้เลือกใช้เป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูง ทำให้มีความทนทาน ใช้งานกันไปแบบยาว ๆ ไม่ชำรุดง่ายแน่นอน บอดี้สามารถปรับระดับได้มากถึงฝั่งละ 10 ระดับ จะหัวเล็กหัวใหญ่ก็ใส่ได้แน่นอน และโฟมทั้งสองข้างมีขนาดใหญ่ทำให้ครอบใบหูได้ทั้งหมด ส่งผลให้เก็บเสียงจากภายนอกได้มากแต่ยังไม่ถือว่าที่สุด ตัวหูฟังมีความกระชับกับสรีระศีรษะ ใส่ไปนาน ๆ ได้ไม่บีบหัวและไม่เจ็บหูถึงแม้น้ำหนักจะค่อนข้างเยอะ (สำหรับบางคน)
เรื่องคุณภาพเสียงที่อยู่ในระดับดี-ดีมาก ทั้งตัวเสียงที่ถูกส่งออกมาคมชัด ไม่ดีเลย์ มีมิติทำให้จับทิศทางได้อย่างแม่นยำ และยังรองรับการเล่นเสียงได้ในระดับ Hi-Res Audio ทำให้เพิ่มอรรถรสในการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังเลือกปรับแต่งเสียงได้อย่างอิสระ อยากได้เสียงใส เสียงสูงหรือเสียงต่ำแค่ไหนก็จัดไป เพียงแค่มี Software ICUE และด้วยความที่มี Soundcard ในตัวทำให้เสียงที่ออกมามีความเสถียร ไม่ว่าจะเอาไปเสียบกับคอมพิวเตอร์เครื่องไหน เสียงที่ออกมาก็จะเหมือนกันทุกครั้ง และไม่ใช่แค่ใช้งานกับ PC ได้เท่านั้น ยังสามารถนำไปใช้งานกับ Smartphone, Tablet รวมถึงเครื่องเกม Console ได้อีกด้วย
มาพูดถึงข้อเสียกันบ้าง อย่างแรกที่ต้องพูดถึงคือหัวเสียบไมโครโฟนที่เป็น Micro USB เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจจะทำให้หัวเสียบหลวมได้ง่าย และวัสดุตรงส่วนที่เป็นหนัง PU ดีในเรื่องความนิ่มใส่สบายก็จริง แต่อาจจะทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ค่อยดีถ้าไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ และราคาที่ค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับราคาของเกมมิ่งเกียร์คุณภาพดีหลาย ๆ ตัวตามท้องตลาด แต่ถ้าถามหาความคุ้มค่า ก็คงบอกได้แค่ว่าคุ้มค่าแน่นอน สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังที่ตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยมสำหรับคอเกม Corsair Virtuoso RGB Wireless ตัวนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ.. ถึงหน้าตาอาจจะดูไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเล่นเกม แต่นี่แหละเรียกได้ว่าเป็นหูฟังเกมมิ่งอย่างแท้จริง !
Special Thanks: Corsair Gaming, Inc.