ดูเหมือนว่า Tesla กำลังมองหาพาร์ทเนอร์ด้านชิปเพิ่มเติม หลังจากที่ได้ร่วมงานกับ TSMC และ Samsung ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดบริษัทก็เริ่มแสดงความสนใจในบริการ โรงงานผลิตชิป (foundry) ของ Intel แล้วเช่นกัน
Tesla อาจเป็นลูกค้าภายนอกรายแรกของ Intel ที่ใช้กระบวนการผลิต 18A สำหรับชิป AI6 รุ่นใหม่
ที่ผ่านมา Intel Foundry ยังไม่สามารถดึงลูกค้าภายนอกได้มากนัก แม้ว่ากระบวนการผลิตระดับ 18A (ประมาณ 1.8 นาโนเมตร) จะถือว่าแข่งขันได้ก็ตาม “ทีมสีน้ำเงิน” (Team Blue) ยังไม่สามารถดึงความสนใจจากตลาดได้มากพอ
อย่างไรก็ตาม จากบทสนทนาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ล่าสุด Elon Musk ได้พูดถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับ Intel Foundry โดยระบุว่า Tesla ต้องการกำลังการผลิตชิปจำนวนมหาศาลจากทุกพาร์ทเนอร์ ซึ่งหมายความว่าบริษัทอาจกลายเป็นลูกค้ารายแรกที่ใช้บริการผลิตชิปจากทั้ง Samsung, TSMC, และ Intel พร้อมกัน
“บางทีเราอาจจะทำอะไรบางอย่างร่วมกับ Intel ก็ได้ ตอนนี้ยังไม่มีการเซ็นสัญญาใด ๆ แต่ก็น่าจะคุ้มค่าที่จะเริ่มพูดคุยกับพวกเขา
แม้ในกรณีที่ดีที่สุดสำหรับกำลังการผลิตจากพาร์ทเนอร์ปัจจุบันของเรา ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี”
— Elon Musk
หาก Tesla ทำข้อตกลงกับ Intel ได้จริง ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยี 18A node ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่แข่งขันได้ที่สุดของ Intel Foundry Services (IFS) ในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Tesla กำลังมองหาซัพพลายเออร์ ระดับ 2 นาโนเมตร สำหรับชิป AI6 รุ่นใหม่
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า Intel อาจให้บริการ advanced packaging สำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Dojo ของ Tesla แต่หลังจากโครงการ Dojo ถูกยุติ ข่าวลือนี้ก็เงียบไป ตอนนี้ความเป็นไปได้ใหม่ได้ย้ายมาที่ “การร่วมมือด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์โดยตรง” ซึ่งถือว่าน่าสนใจกว่าเดิมมากสำหรับ Intel
ทำไมดีลนี้ถึงน่าจับตา
ในบรรดา “สามยักษ์ใหญ่” ของโลกชิป (Intel, TSMC, Samsung) — Intel เป็นรายเดียวที่มี โรงงานผลิตระดับก้าวหน้าในสหรัฐฯ โดยโรงงาน Fab 52 ที่รัฐแอริโซนา กำลังเดินสายการผลิต ชิประดับ 18A ซึ่งเทียบเท่ากับ TSMC N2 และ Samsung SF2
เมื่อพิจารณาว่า Tesla ให้ความสำคัญกับการผลิตในอเมริกา (Made in USA) การร่วมมือกับ Intel จึงเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผล ทั้งในแง่เทคโนโลยีและภูมิศาสตร์
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าดีล Intel–Tesla นี้จะเดินหน้าไปในทิศทางใด เนื่องจาก Elon Musk ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม — แต่แน่นอนว่าหากเกิดขึ้นจริง มันอาจกลายเป็นการเปลี่ยนสมดุลของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ครั้งใหญ่เลยทีเดียว.
ที่มา: Wccftech



