Intel เผยข้อมูลทางเทคนิคฉบับเต็มของ “Panther Lake” — สถาปัตยกรรมใหม่สำหรับชิปซีรีส์ Core Ultra 300
พร้อมเปิดยุคใหม่ของพีซีที่ขับเคลื่อนด้วย AI และกราฟิก Xe3
ภาพรวมของ Panther Lake
Intel เปิดตัวรายละเอียดทางเทคนิคของแพลตฟอร์ม Core Ultra Series 3 “Panther Lake” ซึ่งเป็นชิปเจเนอเรชันถัดไปที่ใช้กระบวนการผลิต Intel 18A รุ่นล่าสุด โดยผสานซีพียู Cougar Cove (คอร์ประสิทธิภาพสูง) และ Darkmont (คอร์ประหยัดพลังงาน) เข้ากับกราฟิกสถาปัตยกรรมใหม่ Xe3 ในรูปแบบ chiplet-based package ที่สร้างด้วยเทคโนโลยี Foveros-S stacking
แพลตฟอร์มใหม่นี้ยังมาพร้อม หน่วยประมวลผล AI รุ่นที่ 5 (NPU5) เพื่อเร่งความสามารถด้าน AI โดยเฉพาะ และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วง งาน CES 2026 โดยโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิปนี้จะวางจำหน่ายใน ไตรมาสแรกของปี 2026
การออกแบบและโครงสร้าง
Panther Lake แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก (tiles):
-
Compute Tile – สร้างบนกระบวนการผลิต Intel 18A
-
Graphics Tile – ผลิตบน Intel 3 หรือ TSMC N3E
-
Platform Controller Tile – ผลิตบน TSMC N6
ทั้งสามส่วนถูกติดตั้งบน base tile เดียวกัน ผ่านเทคโนโลยี Foveros-S packaging รวม CPU, GPU และ I/O เข้าเป็น SoC เดียวที่กะทัดรัดและมีประสิทธิภาพสูง
ประสิทธิภาพ: AI PC ยุคใหม่บนสถาปัตยกรรม 18A
-
ประสิทธิภาพ CPU เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
-
กราฟิก Xe3 สูงสุด 12 คอร์ ให้พลังมากกว่าเดิม 50%
-
AI acceleration สูงสุดถึง 180 TOPS (trillion operations per second)
-
ประสิทธิภาพระดับ Lunar Lake ในด้านพลังงาน แต่ แรงเท่ากับ Arrow Lake
นอกจากนี้ Intel ยังวางแผนให้ Panther Lake ถูกนำไปใช้กับงาน Edge AI เช่น หุ่นยนต์ โดยมีชุดซอฟต์แวร์ Intel Robotics AI Suite และบอร์ดอ้างอิงสำหรับพัฒนาโซลูชันหุ่นยนต์ต้นทุนต่ำที่ใช้ Panther Lake เป็นหัวใจหลัก
โครงสร้างภายในของ Compute Tile
-
P-Core (Cougar Cove): พัฒนาต่อยอดจาก Lion Cove เพิ่มความแม่นยำในการคาดเดาคำสั่ง (branch prediction), ปรับปรุงระบบแคช (L1: 256KB, L2: 3MB ต่อคอร์) และเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยความจำ
-
E-Core (Darkmont): ขยายสถาปัตยกรรมจาก Skymont รองรับการถอดรหัส 9 ชุดคำสั่งพร้อมกัน และเพิ่มช่องทางส่งข้อมูล (dispatch ports) เป็น 26 ช่อง แต่ละคลัสเตอร์ 4 คอร์มี L2 cache 4MB
-
LP-E Core Cluster (4 คอร์): สำหรับงานเบา ๆ หรือรันเบื้องหลัง โดยไม่ต้องปลุกซีพียูหลัก
Intel อ้างว่า:
-
ประสิทธิภาพแบบ single-thread ดีกว่า Lunar Lake / Arrow Lake ประมาณ 10% ที่พลังงานเท่ากัน
-
ประสิทธิภาพแบบ multi-threaded สูงขึ้นกว่า 50% ภายใต้พลังงานเท่ากัน และประหยัดไฟได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับ Arrow Lake
หน่วยความจำและแคช
-
รองรับ DDR5-7200 และ LPDDR5X-9600
-
มี L3 cache รวมสูงสุด 18MB และ memory-side cache 8MB ช่วยลดการเข้าถึง DRAM และลด latency
-
ไม่มีการติดตั้งหน่วยความจำบนแพ็คเกจ (memory-on-package) เหมือน Lunar Lake
กราฟิก Xe3: พลังใหม่ของการเล่นเกมและเรนเดอร์
Panther Lake ใช้กราฟิกสถาปัตยกรรม Xe3 มีให้เลือก 2 แบบ:
-
รุ่นเล็ก: 4 Xe Cores (Intel 3)
-
รุ่นใหญ่: 12 Xe Cores (TSMC N3E)
มาพร้อมแคช L1/L2 ขนาดใหญ่ขึ้น, ประสิทธิภาพ anisotropic filtering และ stencil ที่ดีขึ้น, และหน่วยประมวลผล ray tracing แบบใหม่ที่จัดการรังสีแสงแบบไดนามิก
Intel ระบุว่ากราฟิก Xe3 ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นราว 50% เมื่อเทียบกับ Lunar Lake ที่พลังงานเท่ากัน
และยังเปิดตัว XeSS 3 (Multi-Frame Generation) — ระบบสร้างเฟรมภาพหลายเฟรมแบบเรียลไทม์เพื่อการแสดงผลที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น พร้อมระบบ “Frame Generation Override” ที่ให้ผู้ใช้ควบคุมโหมดการเรนเดอร์ได้เอง
NPU5 และ AI Acceleration
หน่วยประมวลผล AI NPU5 ให้พลัง 50 TOPS มากกว่า NPU4 ใน Lunar Lake พร้อมรองรับรูปแบบข้อมูลใหม่ FP8 และ INT8 ทำให้ throughput เพิ่มขึ้นเท่าตัว และลดการใช้พลังงานลงกว่า 40%
เมื่อรวมกับ CPU และ GPU จะให้พลังรวมทั้งแพลตฟอร์มประมาณ 180 TOPS
ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ
ระบบ Thread Director รุ่นใหม่ จะคอยกระจายงานตามโหลดแบบเรียลไทม์ เช่น เมื่อ GPU ใช้งานหนัก งานบางส่วนจะถูกย้ายไปยัง E-core เพื่อปลดภาระพลังงานให้กราฟิก ส่งผลให้เฟรมเรตในเกมดีขึ้นประมาณ 10%
พร้อมฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Intelligent Experience Optimizer ที่ปรับโหมดพลังงานของ Windows โดยอัตโนมัติตามการใช้งาน เพื่อให้ประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 20% ภายใต้ขีดจำกัดพลังงานเท่าเดิม
รุ่นและสเปกที่วางจำหน่าย
-
รุ่น 8 คอร์: 4 P-Cores + 4 LP-E Cores
-
รุ่น 16 คอร์: 4 P-Cores + 8 E-Cores + 4 LP-E Cores
-
รุ่น ท็อปสุด (16 คอร์ + 12 Xe3 GPU)
การเชื่อมต่อรองรับ PCIe สูงสุด 20 เลน, Thunderbolt 4, และ Thunderbolt 5 (ผ่านคอนโทรลเลอร์แยก) รวมถึง Wi-Fi 7 Revision 2 (Whale Peak 2 BE211) และ Bluetooth Core 6.0 ที่รองรับ LE Audio / Auracast
กำหนดการผลิต
Intel ระบุว่าจะเริ่มผลิต Panther Lake จำนวนมากภายในปีนี้ โดยชิปรุ่นแรกจะออกก่อนสิ้นปี และเริ่มวางจำหน่ายในตลาดอย่างกว้างขวางช่วง มกราคม 2026
บทสรุป
Panther Lake (Core Ultra 300) คือการก้าวกระโดดของ Intel ในยุค AI PC — รวมพลังของ 18A compute tile, กราฟิก Xe3 แบบโมดูลาร์, และ NPU5 ที่ปรับแต่งเพื่อ AI โดยเฉพาะ
แม้การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างคอร์จะไม่พลิกเกมเท่าที่คาด แต่การรวมทุกส่วนเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ, ประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่ดีขึ้น, และพลัง AI ที่มากขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญสู่ยุคใหม่ของชิปโน้ตบุ๊ก Intel
เตรียมพบกับ Core Ultra 300 “Panther Lake” — จุดเริ่มต้นของยุคพีซีที่ “ฉลาด” และ “ทรงพลัง” ที่สุดของ Intel ในต้นปี 2026
ที่มา: Intel