ถ้าคุณเดินเข้าไปร้าน JIB, Banana IT ฯลฯ คุณจะเห็นโน้ตบุ๊กเรียงรายอยู่มากมาย และส่วนใหญ่จะติดโลโก้ของ Intel อาจจะมีชิป APU ของ AMD แซมๆ อยู่บ้าง ซึ่งมันก็เป็นอย่างนี้มานานหลายปีแล้ว ทว่าการกลับมายังสมรภูมิคอมพิวเตอร์พกพาในปีนี้ด้วยสถาปัตยกรรม Zen ของ AMD ที่มาจากฝั่งเดสก์ทอปก็ทำให้ตลาดโน้ตบุ๊กเกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นมันก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาในสมองแว้บนึงว่า AMD นั้นดีพอหรือยังที่จะแข่งขันกับผู้ครองตลาดอย่างอินเทล
ยกที่ 1: สายผลิตภัณฑ์และการทำแบรนดิ้ง
อาจจะไม่เชื่อว่า การดำเนินงานของอินเทลในแง่ของการสร้างแบรนด์ การตลาด และการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เป็นเรื่องที่พวกเขาทำได้ไม่ดี เนื่องจากภายใต้ฮาร์ดแวร์ที่มีความยอดเยี่ยม กลับมีขยายรุ่นหรือชื่อเรียกผลิตภัณฑ์มากจนเกินไป แม้ว่าจริงๆ แล้วพวกเขามีซีพียูเดสก์ทอปและโมบายล์รวมกันทั้งหมดแล้วมากกว่า 100 รายการ แต่ผลลัพธ์ก็คือ คนทั่วไปไม่สามารถติดตามหรือทำความเข้าใจกับซีพียูเหล่านั้นได้ทั้งหมด แม้กระทั่งโน้ตบุ๊กที่พวกเขากำลังจะตัดสินใจซื้ออยู่ตรงหน้า นอกจากนั้นซีพียูในอดีตยังถูกบังคับโดยนักการตลาดในการปิดกั้นคุณสมบัติดีๆ เอาไว้ อย่างเช่น การป้องกันการโอเวอร์คล็อก การปิดกั้น HyperThreading กับซีพียูรุ่นล่าง ฯลฯ แต่อย่างน้อยซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊ก Gen 8th ก็ถูกจำกัดเอาไว้แค่ 10 รุ่น มันจึงไม่ยากที่จะการทำความเข้าใจใและเปรียบเทียบก่อนการเลือกซื้อ ขณะที่ AMD มีความชัดเจนกว่า ด้วยการนำเสนอซีพียู Ryzen Mobile เพียง 4 รุ่น และเหตุผลในการซอยรุ่นก็สมเหตสมผล ทว่าก็มีเฉพาะ Ryzen 3 2300U ที่ถูกปิดระบบแกนประมวลผลเสมือน ในมุมของเรา มองว่า มันเป็นความผิดพลาดในการกำหนดตำแหน่งทางการตลาด ซึ่งไม่แยบยลมากพอจะสั่นสะเทือนตลาดของอินเทล
อาจจะไม่เชื่อว่า การดำเนินงานของอินเทลในแง่ของการสร้างแบรนด์ การตลาด และการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เป็นเรื่องที่พวกเขาทำได้ไม่ดี เนื่องจากภายใต้ฮาร์ดแวร์ที่มีความยอดเยี่ยม กลับมีขยายรุ่นหรือชื่อเรียกผลิตภัณฑ์มากจนเกินไป แม้ว่าจริงๆ แล้วพวกเขามีซีพียูเดสก์ทอปและโมบายล์รวมกันทั้งหมดแล้วมากกว่า 100 รายการ แต่ผลลัพธ์ก็คือ คนทั่วไปไม่สามารถติดตามหรือทำความเข้าใจกับซีพียูเหล่านั้นได้ทั้งหมด แม้กระทั่งโน้ตบุ๊กที่พวกเขากำลังจะตัดสินใจซื้ออยู่ตรงหน้า นอกจากนั้นซีพียูในอดีตยังถูกบังคับโดยนักการตลาดในการปิดกั้นคุณสมบัติดีๆ เอาไว้ อย่างเช่น การป้องกันการโอเวอร์คล็อก การปิดกั้น HyperThreading กับซีพียูรุ่นล่าง ฯลฯ แต่อย่างน้อยซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊ก Gen 8th ก็ถูกจำกัดเอาไว้แค่ 10 รุ่น มันจึงไม่ยากที่จะการทำความเข้าใจใและเปรียบเทียบก่อนการเลือกซื้อ ขณะที่ AMD มีความชัดเจนกว่า ด้วยการนำเสนอซีพียู Ryzen Mobile เพียง 4 รุ่น และเหตุผลในการซอยรุ่นก็สมเหตสมผล ทว่าก็มีเฉพาะ Ryzen 3 2300U ที่ถูกปิดระบบแกนประมวลผลเสมือน ในมุมของเรา มองว่า มันเป็นความผิดพลาดในการกำหนดตำแหน่งทางการตลาด ซึ่งไม่แยบยลมากพอจะสั่นสะเทือนตลาดของอินเทล
ผู้ชนะ: AMD ดูจะเหลื่อมอยู่นิดๆ เพราะสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภคน้อยกว่า
ยกที่ 2 : ประสิทธิภาพในการประมวลผล
ว่ากันตรงๆ สำหรับซีพียูโมบายล์ตลาดบนยังคงเป็นของซีพียู Intel Core i9-8950HK แบบไร้ผู้ต่อต้าน ตามมาด้วยซีพียู Core i7-8850H และ Core i7-8750H ที่เป็นซีพียูแบบ 6 แกน กลับมาที่ซีพียู Core i9 แม้ว่ามันจะมาพร้อมกับความเร็ว 2.9GHz แถมอัพความเร็วแบบเทอร์โบได้สุดถึง 4.8GHz แต่มันก็ไม่ได้เต็มเหนี่ยวได้ตลอดเวลา เพราะสภาวะดังกล่าวขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อนในตัวโน้ตบุ๊กด้วย (หลังจากรีวิวกันมาแล้วกับโน้ตบุ๊ก Asus UX580) พูดถึงโน้ตบุ๊กที่ใช้ APU รุ่นท็อปสุดของ AMD อย่าง Ryzen 7 2700U กันบ้าง เมื่อพิจารณาจากจำนวนแกนประมวลผลร่วมกับประสิทธิภาพที่เราได้สัมผัส ชิปตัวนี้ไม่ใช่คู่แข่งโดยตรงกับซีพียู Core i9 หรือแม้กระทั่ง Core i7 ถึงอย่างนั้นมันก็มีประสิทธิภาพที่น่าสนใจเมื่อเปรียบกับซีพียูแบบ Quad Core ด้วยกัน
ผู้ชนะ: อินเทลยังคงครอบครองตำแหน่งซีพียูโมบายล์ทรงประสิทธิภาพแบบสุดขอบอยู่เช่นเดิม

ยกที่ 3 : ความคุ้มค่า
ถ้าเทียบกับซีพียูเดสก์ทอปแล้วซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊กมักจะถูกติติงว่ามันไม่คุ้มค่า นั่นเป็นเพราะว่าโน้ตบุ๊กมีส่วนประกอบอื่นๆ มากกว่าเครื่องพีซีแบบเดสก์ทอป แต่ในปัจจุบัน ผู้คนเองก็มีแนวโน้มที่จะหันไปหาเครื่องโน้ตบุ๊กที่มีสเปคจัดเต็มพร้อมใช้งานได้ทันที ตอบสนองได้ในทุกแอพพลิเคชันไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การเกรดดิ้งวิดีโอ การตัดต่อ งานออกแบบต่างๆ หรือการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงๆ ถึงอย่างนั้นโน้ตบุ๊กของทั้งฝั่ง AMD และ Intel ก็แทบจะไม่เคยแข่งขันกันตรงๆ ในตลาดเดียวกัน ดังนั้น เราจึงเห็นว่า AMD เน้นไปทางตลาดราคาประหยัดเสียมากกว่า ไม่การทำตลาดในกลุ่มซีพียูเดสก์ทอป
หากมองกันอย่างเป็นกลางแล้ว ในทางทฤษฎีชิป APU อย่าง AMD Ryzen รุ่นใหม่นั้นมีความยอดเยี่ยมในทุกๆ แง่มุม เนื่องจากมาพร้อมกับซีพียูที่มีประสิทธิภาพ เสริมความแข็งแกร่งด้วยชิปกราฟิกที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับชิปกราฟิกในซีพียูของ Intel (เราไม่นับรวมชิป Kaby Lake G ที่ใช้ชิปกราฟิก AMD ซึ่งมีราคาแพงกว่ามาก) อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติแล้ว มีโน้ตบุ๊กน้อยมากที่เลือกใช้ชิป Ryzen ขณะที่ฝั่งอินเทลก็ตามที่เราได้เห็นกันในร้านค้า ดังนั้นมันจึงมีตัวเลือกมากกว่า มีรุ่นที่ราคาประหยัดมากกว่า และมองหารุ่นที่มาพร้อมกับองค์ประกอบที่ดีกว่าได้ไม่ยาก
ผู้ชนะ: อินเทลเช่นเคยด้วยทางเลือกมากมายจนเลือกไม่ถูก
ยกที่ 4: ประสิทธิภาพด้านพลังงาน
ประเด็นนี้ถือว่า พิจารณาง่ายที่สุดแล้ว เนื่องจาก AMD ไม่ได้พัฒนาซีพียูให้ทำงานด้วยพลังงานต่ำแบบสุดๆ เหมือนกับผู้ครองตลาดเดิมอย่าง Intel และยิ่งในปีนี้การที่หลายแบรนด์ส่งโน๊ตบุ๊กที่บางเบาเป็นพิเศษออกสู่ตลาด พร้อมกับขับเคลื่อนด้วยซีพียู Intel Core M ยิ่งทำให้หัวข้อนี้เกิดระยะห่างอย่างชัดเจน ส่วนชิปตระกูล U ของ Intel ถือเป็นซีพียูที่ประหยัดพลังงานเป็นอันดับ 2 ก็เป็นคู่แข่งโดยตรงอยู่แล้วกับ Ryzen ดังนั้นประเด็นเรื่องพลังงาน AMD ไม่มีอะไรจะมาแข่งขันได้อีกแล้วในปีนี้
ผู้ชนะ: อินเทล
ยกที่ 5 กราฟิกและการเล่นเกม
ประเด็นนี้เราไม่ได้พูดถึงการขับเคลื่อนร่วมกับชิปกราฟิกภายนอกในการเล่นเกม แต่จะพูดถึงการพัฒนาด้านชิปกราฟิกที่บรรจุมาพร้อมกับซีพียูหรือเอพียูมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น ช่วงต้นปี Intel ได้เปิดตัวชิปประมวลผลโมบายล์แบบ Quad Core เข้ากับแกนชิปกราฟิก AMD Radeon หรือก็คือ ชิปประมวลผล Kaby Lake G ที่เป็นหนึ่งในซีพียู Intel 8th Gen Core เพื่อสร้างแลปท็อปเกมมิ่งที่บางและเบา แน่นอนว่า มันคือโซลูชันกราฟิกแบบอินทริเกรตที่เร็วที่สุด แต่ไม่ได้ติดตั้งลงในซีพียู แค่อยู่ในแพ็กเกจเดียวกันกับโปรเซสเซอร์ หรือที่ Intel ใช้ชื่อเรียกว่า Core i7 Processor with Radeon RX Vega M GH graphics หรือ Core i5 Processor with Radeon RX Vega M GL graphics โดยจะมีแกนประมวลผลกราฟิก Vega ติดตั้งอยู่ 20 หรือ 24 ยูนิต ซึ่งมากกว่าชิป AMD Ryzen ที่มี Vega Compute สูงสุดอยู่เพียง 10 ยูนิต ตรงนี้เองก็เกิดข้อถกเถียงกันว่า ระบบกราฟิกที่อยู่ในแพจเกตของ Intel นั้นเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ AMD Vega หรือไม่ แต่อย่างน้อยมันก็มีความชัดเจนว่า ชิป Vega เหล่านั้นมันมีประสิทธิภาพสูงกว่าเมื่อเทียบกับ Vega ที่อยู่ใน AMD Ryzen
ประเด็นนี้เราไม่ได้พูดถึงการขับเคลื่อนร่วมกับชิปกราฟิกภายนอกในการเล่นเกม แต่จะพูดถึงการพัฒนาด้านชิปกราฟิกที่บรรจุมาพร้อมกับซีพียูหรือเอพียูมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น ช่วงต้นปี Intel ได้เปิดตัวชิปประมวลผลโมบายล์แบบ Quad Core เข้ากับแกนชิปกราฟิก AMD Radeon หรือก็คือ ชิปประมวลผล Kaby Lake G ที่เป็นหนึ่งในซีพียู Intel 8th Gen Core เพื่อสร้างแลปท็อปเกมมิ่งที่บางและเบา แน่นอนว่า มันคือโซลูชันกราฟิกแบบอินทริเกรตที่เร็วที่สุด แต่ไม่ได้ติดตั้งลงในซีพียู แค่อยู่ในแพ็กเกจเดียวกันกับโปรเซสเซอร์ หรือที่ Intel ใช้ชื่อเรียกว่า Core i7 Processor with Radeon RX Vega M GH graphics หรือ Core i5 Processor with Radeon RX Vega M GL graphics โดยจะมีแกนประมวลผลกราฟิก Vega ติดตั้งอยู่ 20 หรือ 24 ยูนิต ซึ่งมากกว่าชิป AMD Ryzen ที่มี Vega Compute สูงสุดอยู่เพียง 10 ยูนิต ตรงนี้เองก็เกิดข้อถกเถียงกันว่า ระบบกราฟิกที่อยู่ในแพจเกตของ Intel นั้นเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ AMD Vega หรือไม่ แต่อย่างน้อยมันก็มีความชัดเจนว่า ชิป Vega เหล่านั้นมันมีประสิทธิภาพสูงกว่าเมื่อเทียบกับ Vega ที่อยู่ใน AMD Ryzen
ผู้ชนะ: อินเทลที่ได้รับการสนับสนุนโดยเอเอ็มดี ??

FINAL WORD
จากทั้ง 5 ยก หรือ 5 หัวข้อก็ชี้ให้เห็นว่า AMD Ryzen นั้นเข้ามาแข่งขันในตลาดได้น่าสนใจด้วยประสิทธิภาพที่ตามหลังซีพียูระดับเดียวกันเล็กน้อย น่าเสียดายที่พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตโน้ตบุ๊กไม่มากเท่าที่ควร หรืออาจจะเป็นเหตุผลอื่นๆ ที่เราไม่ทราบก็เป็นได้ ถึงอย่างนั้นในมุมของเรา รู้สึกว่า ประสิทธิภาพของซีพียูนั้นได้ถูกพัฒนาให้สามารถแข่งขันได้ดีกว่าในอดีตมาก ส่วนใครจะเป็นผู้ชนะในการประเมินครั้งนี้ เชื่อว่า คุณผู้อ่านน่าจะคำตอบมีอยู่ในใจแล้ว