สอดคล้องกับทิศทางของตลาดในปัจจุบัน Micron ได้ประกาศในวันพุธว่าบริษัทมีแผนจะยุติธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ Crucial ทั่วโลกภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2026 โดยบริษัทจะปรับการผลิตและการลงทุนไปสู่ DRAM และ SSD ระดับองค์กร ท่ามกลางความต้องการที่พุ่งขึ้นจากภาคส่วน AI
Micron จะยังคงจัดส่งสินค้าแบรนด์ Crucial ผ่านร้านค้าปลีก ร้านค้าออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายไปจนถึงสิ้นไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ ซึ่งจะสิ้นสุดในช่วงปลายกุมภาพันธ์ 2026 หลังจากนั้น Micron จะไม่ส่งสินค้าแบรนด์ Crucial ให้กับตลาดผู้ใช้ทั่วไปอีกต่อไป แต่จะยังคงส่งมอบสินค้า Micron สำหรับองค์กร ซึ่งจะมีจำหน่ายผ่านพาร์ตเนอร์สายคอมเมอร์เชียลและเซิร์ฟเวอร์
เมื่อ Micron หยุดจัดส่งผลิตภัณฑ์ Crucial แล้ว บริษัทจะยังคงรับประกันและให้บริการซัพพอร์ตด้านเทคนิคสำหรับสินค้าที่มีอยู่ในตลาดต่อไป ลูกค้าที่เป็นเจ้าของโมดูลหน่วยความจำ SSD หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ภายใต้แบรนด์ Crucial จะยังคงได้รับการดูแลหลังการขาย แม้ว่าการจัดส่งสินค้าจะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม
ตามที่หลายคนคาดไว้ Micron ตัดสินใจถอนตัวจากตลาดคอนซูเมอร์ เนื่องจากต้องนำกำลังการผลิต 3D NAND และ DRAM ไปใช้กับ SSD ระดับองค์กร, หน่วยความจำ HBM สำหรับเร่งประมวลผล AI และโมดูลหน่วยความจำเซิร์ฟเวอร์
“การเติบโตของศูนย์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้ความต้องการหน่วยความจำและสตอเรจเพิ่มขึ้นอย่างมาก” Sumit Sadana รองประธานอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของ Micron กล่าว “Micron จึงต้องตัดสินใจที่ยากลำบากในการออกจากธุรกิจคอนซูเมอร์ Crucial เพื่อปรับปรุงการส่งมอบสินค้าและการสนับสนุนลูกค้ารายใหญ่ในเซกเมนต์ที่เติบโตเร็วกว่า”
Micron เปิดตัวแบรนด์ Crucial เมื่อปี 1996 หรือเกือบ 29 ปีก่อน ในยุคที่ตลาดฮาร์ดแวร์สำหรับผู้ใช้ระดับ Enthusiast เริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา Crucial ทำผลงานเด่นในตลาดค้าปลีก ชื่อแบรนด์ถูกมองว่า “มีความเป็นผู้นำด้านเทคนิค คุณภาพ และความเชื่อถือได้” อย่างไรก็ตาม ตลาดในปัจจุบันไม่เอื้อต่อผลิตภัณฑ์ประเภทนี้อีกต่อไป ดังนั้นแทนที่จะย่อไลน์สินค้า บริษัทเลือกยุติธุรกิจทั้งหมด แม้จะยังไม่ขายแบรนด์ Crucial ให้ผู้อื่นก็ตาม (อย่างน้อยในตอนนี้)
เบื้องหลังการตัดสินใจของ Micron มีหลายเหตุผล ได้แก่
สินค้าคอนซูเมอร์อย่างโมดูลแรมและ SSD มีกำไรต่ำที่สุด อยู่ในตลาดที่แข่งขันรุนแรง ราคาผันผวน และขับเคลื่อนด้วยโปรโมชั่น แม้ Crucial และ Ballistix จะเป็นแบรนด์ที่คนรู้จัก แต่ก็ถูกบีบทั้งจากแบรนด์ไฮเอนด์และแบรนด์ราคาถูก ทำให้เติบโตได้ยาก ขณะที่สินค้าสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และองค์กรมีสัญญาระยะยาว รายได้เฉลี่ยสูง และดีมานด์คาดเดาได้มากกว่า
ซัพพลายในอุตสาหกรรมเปลี่ยนไปอย่างถาวร โครงสร้างพื้นฐาน AI ต้องการหน่วยความจำจากทุกเวเฟอร์ที่ผลิตได้ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับเมกะเทรนด์อื่นมาก่อน ทุกเวเฟอร์ที่ใช้ผลิตสินค้าคอนซูเมอร์ คือเวเฟอร์ที่ไม่ได้ส่งให้ลูกค้ารายใหญ่ในฝั่งองค์กร ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อกำไรและความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ของบริษัท
ธุรกิจคอนซูเมอร์แม้ขนาดเล็ก ก็ยังต้องใช้ต้นทุนคงที่จำนวนมาก เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การทดสอบเฟิร์มแวร์ การรับรองมาตรฐาน ทีมขาย ความสัมพันธ์กับร้านค้าปลีก และการดำเนินงานด้านการรับประกันทั่วโลก ต้นทุนเหล่านี้ลดลงได้ยากเมื่อยอดขายลดลง ทำให้ธุรกิจไม่คุ้มค่าในระยะยาว
ด้วยเหตุนี้ การยุติธุรกิจคอนซูเมอร์ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ Micron สามารถนำกำลังผลิต ทีม R&D และทรัพยากรด้านวิศวกรรมไปทุ่มให้กับผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เช่น HBM4/HBM4E/C-HBM4E, SSD องค์กร และโมดูลหน่วยความจำความหนาแน่นสูงสำหรับเซิร์ฟเวอร์
Micron ระบุว่าจะพยายามลดผลกระทบต่อพนักงาน ด้วยการโยกย้ายบุคลากรไปยังตำแหน่งงานที่เปิดรับอยู่ในแผนกอื่นภายในบริษัท
ที่มา: Tom's Hardware



