Microsoft Azure ประสบปัญหาล่มครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบหลายเดือน
เมื่อเวลาประมาณ 16:00 UTC (หรือราว 23:00 น. ตามเวลาไทย) แพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure เกิดปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่ ส่งผลให้บริการของไมโครซอฟท์หลายระบบ รวมถึงบริษัทภายนอกที่ใช้ Azure ต้องหยุดชะงักไปด้วย
บริการที่ได้รับผลกระทบได้แก่ แพลตฟอร์ม Xbox ทั้งระบบ, Minecraft, และชุดโปรแกรม Microsoft 365 ซึ่งครอบคลุมถึงบริการบนเว็บอย่าง Teams, Word, Excel, PowerPoint, Outlook, OneNote, Defender, OneDrive, Designer, Clipchamp และ SharePoint โดยหลายบริการไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว และบางส่วนล่มไปทั้งหมด
ล่าสุดไมโครซอฟท์สามารถ กู้คืนบริการในกลุ่ม Microsoft 365 ได้แล้ว เหลือเพียงบริการของบริษัทอื่นที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายของ Azure (Azure Networking) ที่ยังประสบปัญหาอยู่
ในรายงานของไมโครซอฟท์ระบุว่า
“ตั้งแต่เวลาประมาณ 16:00 UTC เราพบปัญหากับบริการ Azure Front Door (AFD) ซึ่งทำให้บางบริการไม่สามารถเข้าถึงได้ เราสงสัยว่ามีการเปลี่ยนแปลงค่าคอนฟิกโดยไม่ได้ตั้งใจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์นี้ ขณะนี้เราได้ดำเนินการหลายอย่างพร้อมกัน ทั้งการ ‘บล็อกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของ AFD’ (รวมถึงของลูกค้า) และกำลัง ‘ย้อนค่าคอนฟิกกลับไปยังสถานะที่ปลอดภัยล่าสุด’ เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าที่มีปัญหากลับมาทำให้ระบบล่มอีกครั้ง”
ไมโครซอฟท์เสริมว่า ขณะนี้ยัง ไม่มีเวลาโดยประมาณสำหรับการกู้คืนทั้งหมด (ETA) แต่จะอัปเดตสถานะทุก ๆ 30 นาที ล่าสุดมีการอัปเดตเมื่อเวลา 17:40 UTC วันที่ 29 ตุลาคม 2025
นอกจากนี้ เว็บไซต์ Downdetector ยังรายงานว่ามีบริษัทอื่น ๆ ได้รับผลกระทบเช่นกัน เช่น Capital One Bank, Alaska Airlines, Starbucks และอีกหลายแห่ง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่ Amazon Web Services (AWS) ประสบปัญหาล่มครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก โดยสาเหตุของ AWS มาจากปัญหา DNS ขณะที่ต้นตอของการล่มของ Azure ครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
เหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า การพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของบุคคลที่สามมากเกินไป ย่อมมีความเสี่ยง และองค์กรควรมี แผนสำรอง (contingency plan) เพื่อรับมือหากเกิดเหตุการณ์ล่มครั้งใหญ่ในอนาคต
ที่มา: TechPowerUp



