NTT DATA ผู้นำระดับโลกด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการเทคโนโลยี AI ประกาศเปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการป้องกันภัยไซเบอร์ (Cyber Defense Centers) ยุคใหม่ 4 แห่งในอินเดีย และเตรียมขยายเพิ่มในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา เพื่อตอบรับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ทวีความซับซ้อนมากขึ้น พร้อมสนับสนุนองค์กรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ที่กำลังเร่งทรานส์ฟอร์มสู่ยุคดิจิทัลและ AI อย่างเต็มรูปแบบ
NTT DATA ปรับโฉมการทำงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์จากรูปแบบเดิมไปสู่โมเดลแบบกระจายศูนย์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และระบบอัตโนมัติขั้นสูง เพื่อช่วยองค์กรลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ เร่งความเร็วในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคาม พร้อมรองรับข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและการคุ้มครองข้อมูลในแต่ละประเทศ
เทคโนโลยียุคใหม่ ผสานความเชี่ยวชาญระดับโลก
ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันภัยไซเบอร์ยุคใหม่ทำงานร่วมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและ AI Agents เพื่อคัดกรอง วิเคราะห์ และล่าภัยคุกคามโดยอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาในการตรวจสอบลงได้ถึง 60% และลดปริมาณการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นลงถึง 90% ทำให้องค์กรรับมือกับภัยคุกคามได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ศูนย์แต่ละแห่งสนับสนุนบริการด้านความปลอดภัยแบบครบวงจร ครอบคลุม Managed Detection & Response (MDR), การตอบสนองต่อเหตุการณ์, Threat Intelligence และบริการความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรม (OT)
เครือข่ายระดับโลก เสริมความพร้อมระดับภูมิภาค
NTT DATA ขยายเครือข่ายศูนย์ป้องกันภัยไซเบอร์ให้ครอบคลุมมากกว่า 50 ประเทศ เชื่อมต่อกับศูนย์บริการและ SOCs กว่า 40 แห่งทั่วโลก เพื่อดูแลลูกค้ากว่า 1,200 ราย พร้อมส่งมอบข้อมูลข่าวกรองภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ผ่านแพลตฟอร์มเดียวแบบบูรณาการ
“สภาพแวดล้อมของภัยคุกคามในปัจจุบันต้องการกลไกการป้องกันที่ชาญฉลาดและปรับตัวได้ ซึ่งต้องผสานข้อมูลเชิงลึกระดับโลกเข้ากับความเชี่ยวชาญในท้องถิ่น เพื่อช่วยให้องค์กรลดความเสี่ยงและสร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง” ชีทัล เมห์ตา หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยไซเบอร์ บริษัท NTT DATA, Inc. กล่าว “การเปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการป้องกันภัยไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เหล่านี้ ถือเป็นการสานต่อวิสัยทัศน์ของเราในการสร้างเครือข่ายป้องกันภัยไซเบอร์ที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก โดยผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ และบุคลากรระดับโลกเข้าด้วยกัน”
ประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับ
องค์กรจะได้รับการป้องกันภัยไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ลดภาระงานซ้ำซ้อนของทีมงาน เพิ่มความเร็วในการตรวจจับและตอบสนอง และรองรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านข้อมูลและความเป็นส่วนตัวในแต่ละประเทศ พร้อมสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงในยุคดิจิทัล



