NVIDIA เผยผลประกอบการไตรมาส 3 พร้อมยืนยันชัดเจนว่า “กระแส AI ยังแรงต่อเนื่อง” โดยเฉพาะความต้องการระบบ Blackwell และ Rubin ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
รายได้โตแรงจากธุรกิจ Data Center/AI — Blackwell ดันยอดแบบทำสถิติใหม่ QoQ
ในขณะที่หลายฝ่ายพูดถึง “ฟองสบู่ AI” ที่อาจแตก แต่ดูเหมือน Jensen Huang และทีม NVIDIA จะคิดต่าง เพราะผลประกอบการล่าสุดแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความต้องการด้าน AI ยังคงลุกโชน
-
รายได้ไตรมาส 3 อยู่ที่ 57,000 ล้านดอลลาร์
-
เติบโต 22% QoQ
-
NVIDIA คาดว่าในไตรมาส 4 (FY2026) จะเพิ่มขึ้นเป็น 65,000 ล้านดอลลาร์
CEO Jensen Huang ระบุว่า ความต้องการระบบ Blackwell ถึงระดับ “สูงเป็นประวัติการณ์” โดย AI และกฎการสเกล (scaling laws) 3 ประการ ทำให้ความต้องการด้านพลังประมวลผลสูงกว่าที่เคยเป็นมาอย่างมาก
ฝั่งเกมมิ่งสะดุดเล็กน้อย แต่ยังโต YoY
ในขณะที่ธุรกิจ AI พุ่งแรง ธุรกิจเกมกลับมีจังหวะสะดุดเล็กน้อย:
-
รายได้ฝั่ง Gaming ลดลง 1% QoQ
-
NVIDIA อธิบายว่าเกิดจากสต๊อกของคู่ค้า (channel inventory) เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ
-
แต่เมื่อเทียบปีต่อปี รายได้ Gaming กลับ โต 30% YoY ถือว่ายังอยู่ในทิศทางบวก
น่าสนใจเพราะ Q3–Q4 โดยปกติเป็นฤดูกาลที่ยอดขายการ์ดจอควรดีจากรอบอัปเกรดและเทศกาลลดราคา แต่การลดลง 1% ถือว่าเล็กมากและไม่ได้บ่งชี้ถึงความสนใจที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
วิสัยทัศน์รายได้ 500,000 ล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2026 ยัง “ตรงตามแผน”
หลายคนสงสัยว่า NVIDIA จะทำรายได้แตะ 0.5 ล้านล้านดอลลาร์ ตามที่ Jensen Huang เคยประกาศในงาน GTC ได้อย่างไร
CFO Colette Kress ตอบชัดเจนในสายรายงานผลประกอบการ:
“เรากำลังก้าวไปตามเป้าหมาย 500,000 ล้านดอลลาร์ และทุกไตรมาสที่ผ่านมาก็ยังอยู่ในเส้นทางนั้น ความต้องการด้านคอมพิวต์จะเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2026”
และสิ่งที่ถูกจับตาเป็นพิเศษคือแพลตฟอร์ม Rubin ซึ่งคาดว่าจะถูกใช้งานมากกว่า Hopper และ Blackwell เสียอีก และน่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันรายได้หลักให้ถึงเป้าหมาย
มีผู้เชี่ยวชาญบางส่วนตั้งคำถามว่า NVIDIA จะขายได้มากขนาดนั้นจริงหรือไม่ แต่ NVIDIA ชี้ไปที่ออเดอร์ระดับ 400,000–600,000 GPU จากซาอุดีอาระเบียเป็นตัวอย่างของความต้องการที่มีอยู่จริง
รายได้ Q3 ยัง “ไม่มีส่วนจากลูกค้าจีนเลย”
แม้ NVIDIA จะมีลูกค้ารายใหญ่ในจีน แต่ตัวเลขไตรมาสนี้ไม่ได้รวมรายได้จากจีนแม้แต่บาทเดียว แปลว่าความต้องการส่วนใหญ่ตอนนี้มาจาก:
-
ผู้ให้บริการคลาวด์ (CSPs)
-
บริษัท AI รายใหญ่ เช่น OpenAI
-
การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั่วโลก
ทั้งหมดสะท้อนว่าตลาด AI ยังอยู่ในช่วงเร่งตัว และ NVIDIA ยังอยู่ในตำแหน่งนำแบบทิ้งห่างคู่แข่ง
สรุปคือ อนาคตของ NVIDIA และอุตสาหกรรม AI ยังดู “เขียวสด” สมกับสีของ Team Green อย่างแท้จริง
ที่มา: Wccftech



