Starhelm Studios กำลังพัฒนาเกม Project Shadowglass ด้วยเอนจิน Godot
เกมนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าสไตล์ “พิกเซลอาร์ตที่สร้างด้วย AI” ซึ่งเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริงนั้น สามารถทำได้จริง ๆ

Dominick John นักพัฒนาอินดี้ผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์นี้ กำลังสร้างเกมแนว stealth immersive sim ที่มีบรรยากาศและรูปลักษณ์เหมือนกับคอนเซปต์เกมที่เห็นกันในโซเชียล — แต่คราวนี้ของจริง “เล่นได้จริง” ไม่ใช่แค่ภาพ AI อีกต่อไป เกมนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมคลาสสิกอย่าง Thief, Deus Ex และ System Shock โดยมาในฉากแฟนตาซีสุดมืดมน ผู้เล่นจะต้องวางแผนปล้นและลอบเร้นเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม พร้อมรับมือกับผลลัพธ์ที่ตามมาจากการกระทำของตน

บรรยากาศของเกม โดดเด่นด้วยแสงยามค่ำคืนที่เรืองรอง ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว และพระจันทร์สีแดงเหนือหมู่บ้านของอาณาจักร ทั้งหมดนี้ถูกเรนเดอร์เป็น พิกเซลอาร์ตแบบ 3 มิติ ที่ทำงานแบบเรียลไทม์

จุดที่ทำให้โปรเจกต์นี้น่าสนใจเป็นพิเศษ

เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อน นักวาดและนักพัฒนาจำนวนมากต่างพูดตรงกันว่า “เกมที่มีสไตล์แบบนี้ทำไม่ได้จริง นอกจากให้ AI สร้างภาพเท่านั้น”
หลายคนถึงขั้นสงสัยว่าคลิปหรือภาพตัวอย่างที่เห็นออนไลน์นั้น “ของจริงหรือของปลอมกันแน่”

แต่ Project Shadowglass คือคำตอบที่ชัดเจนต่อข้อสงสัยนั้น — เพราะมัน มีอยู่จริงและเล่นได้จริง
John ได้โพสต์คลิปพัฒนาเกมที่แสดงให้เห็นการทำงานจริงของระบบ ซึ่งยืนยันว่าไม่มีการใช้ AI สร้างภาพเลยแม้แต่นิดเดียว กราฟิกทั้งหมดมาจากเทคโนโลยี 3D สุดยูนีคที่สร้างบรรยากาศพิกเซลย้อนยุค พร้อมระบบเคลื่อนไหวได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา ทุกสิ่งที่เห็นในเทรลเลอร์และภาพสกรีนช็อต ล้วนถูกจับภาพมาจากเอนจินจริง

ตอนนี้เกมเปิดให้ Wishlist บน Steam แล้ว ระหว่างที่ยังอยู่ในช่วงพัฒนา

เป้าหมายของเกม

นอกจากจะพิสูจน์แนวคิดแล้ว Project Shadowglass ยังตั้งใจมอบประสบการณ์เกมลอบเร้นแบบจริงจัง ที่ทุกการวางแผนมีความหมาย และทุกความผิดพลาดทิ้งร่องรอยไว้เบื้องหลัง
คำอธิบายใน Steam ระบุว่าเกมจะมี “การปล้นสุดระทึก” และ “สมบัติล้ำค่า” ในโลกที่ “ทุกการกระทำมีน้ำหนักของมัน”
สำหรับแฟนเกมแนว immersive sim ที่ชอบกลิ่นอายยุคเก่า นี่อาจเป็นเกมที่น่าจับตามองที่สุดเกมหนึ่ง

ระบบการเล่น (Gameplay)

• ใช้แสงและเสียงในการนำทาง: ซ่อนตัวในความมืด ศึกษาเส้นทางลาดตระเวน และเลือกพื้นเงียบแทนพื้นเสียงดัง

• ใช้สิ่งแวดล้อมให้เป็นประโยชน์: ดับคบเพลิง สร้างสิ่งเบี่ยงเบนความสนใจ หรือใช้พื้นที่รอบตัวอย่างชาญฉลาด

• แทรกซึมเข้าเขตหวงห้าม: งัดกลอน ล้วงกุญแจ หรือปีนไปยังพื้นที่ต้องห้ามเพื่อหาทางได้เปรียบ

• จัดการศัตรู: ทำให้หมดสติ ซ่อนศพและหลักฐาน หรือเลือกสู้แบบประชิดดาบหากจำเป็น

• ปฏิบัติการปล้น: เจาะพื้นที่ คว้าสมบัติ แล้วหนีให้รอด

ฟีเจอร์เด่น

• รองรับหลายแนวทางและวิธีแก้ปัญหา ด้วยดีไซน์แบบ sandbox

• เทคโนโลยีเรนเดอร์เฉพาะตัวที่สร้างพิกเซลอาร์ต 3 มิติสุด怀ย้อนยุค

• ระบบชื่อเสียงติดตัว: หากถูกจับได้ ระบบรักษาความปลอดภัยจะเข้มงวดขึ้นตามความรุนแรงของการกระทำ

• หากถูกมองว่าเป็นฆาตกร ชาวเมืองจะหนีทันทีเมื่อเห็นหน้า

• ผู้เล่นต้องทำ “การสืบข้อมูล” ก่อนเริ่มปล้น เลือกด้วยตัวเองว่าจะลงมือ เมื่อไหร่ ที่ไหน และอย่างไร

• หากถูกจับเป็น คุณจะต้องหาทางหนีออกจากคุกเอง

อุปสรรคที่ต้องเผชิญ

• ทหารยามติดอาวุธครบมือ

• ระบบป้องกันเวทมนตร์พร้อมรหัสซับซ้อนให้ถอด

• ความสูงอันน่าหวาดเสียว — พลาดเพียงก้าวเดียวอาจตกลงไปตายทันที

• ทางเข้าด้านหน้าเป็นทางที่เร็วที่สุด… แต่เสียงดังที่สุด

• กับดักที่รอขโมยผู้ประมาท

• ศัตรูจะใช้ไฟและคบเพลิงค้นหาผู้บุกรุกหากสงสัยว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่ในความมืด

Project Shadowglass คือหลักฐานชิ้นสำคัญว่า “ศิลปะพิกเซลที่เหมือนมาจาก AI” สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยฝีมือคนจริง ๆ และยังกลายเป็นเกมที่เล่นได้จริงอีกด้วย — ไม่ใช่แค่ภาพฝันในโลกออนไลน์อีกต่อไป

ที่มา: TechPowerUp