NVIDIA GeForce RTX 50 ซีรีส์ เดิมทีไม่รองรับไลบรารี 32-bit ทำให้เกมเก่า ๆ ที่ใช้ PhysX 32-bit รันไม่ได้เลย จนทำให้ผู้เล่นจำนวนมากวิจารณ์ว่า NVIDIA “ตัดสินประหาร” เกมเก่าเหล่านี้แบบเหมาเข่ง แต่ล่าสุด NVIDIA ได้แก้เกม ด้วยการเพิ่มการรองรับ PhysX แบบปรับแต่งเฉพาะเกมให้กับ RTX 50 ซีรีส์ในไดรเวอร์เวอร์ชัน 591.44
NVIDIA เคยยืนยันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า GeForce RTX 50 ซีรีส์ไม่สามารถรันเกมเก่าที่ใช้ PhysX แบบ 32-bit ได้ เนื่องจากสถาปัตยกรรม Blackwell ได้ตัดการรองรับ 32-bit CUDA ออกไปอย่างสมบูรณ์ และไม่เกี่ยวกับไดรเวอร์ หากผู้ใช้ต้องการรันเกมแบบ 32-bit PhysX จำเป็นต้องใช้ GPU รุ่นเก่าอย่าง GTX 9/10/16 หรือ RTX 20/30/40 แทน
จริง ๆ แล้วเทคโนโลยี NVIDIA PhysX หยุดอัปเดตมานานแล้ว ทำให้ NVIDIA ไม่ทันสังเกตว่ายังมีเกมจำนวนมากที่ยังใช้ PhysX แบบ 32-bit อยู่ เมื่อมีเสียงร้องเรียนจากผู้เล่น บริษัทจึงรีบแก้ไขโดยการเพิ่มการรองรับ PhysX แบบพอร์ตเฉพาะเกมให้กับ RTX 50 ซีรีส์
ปัจจุบัน NVIDIA ได้พอร์ตการรองรับ PhysX แบบเฉพาะเกมให้กับ 9 เกม ได้แก่
-
Alice: Madness Returns
-
Assassin's Creed IV: Black Flag
-
Batman: Arkham City
-
Batman: Arkham Origins
-
Borderlands 2
-
Mafia II
-
Metro 2033
-
Metro: Last Light
-
Mirror's Edge
และจะเพิ่ม Batman: Arkham Asylum เพิ่มเติมในไตรมาสแรกปีหน้า
NVIDIA ระบุว่าเกมเก่าที่ใช้ PhysX ยังมีฐานแฟนที่เหนียวแน่น จึงตัดสินใจนำการรองรับกลับมาในไดรเวอร์ 591.44 เพื่อให้ RTX 50 ซีรีส์สามารถเร่งความเร็ว PhysX ได้เต็มประสิทธิภาพในเกมยอดนิยมเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม การรองรับนี้เป็นการพอร์ตเฉพาะเกมแบบ 32-bit PhysX ดังนั้นเฉพาะเกมในรายชื่อเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ เกม PhysX อื่น ๆ จะยังไม่ได้รับการเร่งความเร็ว แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่ดี และแสดงให้เห็นว่า NVIDIA รับฟังเสียงผู้ใช้จริง
ตัวอย่างเช่น Mafia II:
-
เมื่อใช้ไดรเวอร์ 581.80 เกมต้องประมวลผล PhysX ด้วย CPU ได้เพียง 29 FPS
-
พออัปเป็นเวอร์ชัน 591.44 ซึ่งรองรับการเร่งด้วย GPU แล้ว FPS กระโดดขึ้นเป็น 78 FPS แบบชัดเจน
ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นแบบสัมผัสได้ทันทีเลยทีเดียว
ที่มา: HKEPC



