ในด้านกายภาพ หูฟัง Hammerhead Duo ใช้บอดี้ที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับหูฟัง Hammerhead USB-C ANC ซึ่งเรายังไม่เคยสัมผัสมัน ตามดีไซน์แล้วมันคือ หูฟัง In-ear ที่ใช้วัสดุอะลูมิเนียมในการผลิตโครงสร้างหูฟัง โลโก้สีเขียวถูกวางไว้ด้านนอก ตำแหน่งระหว่างสายสัญญาณกับหูฟังจะครอบด้วยท่อแข็งขนาดเล็ก ในชุดอุปกรณ์จะมีซิลิโคนปลั๊กมาให้อีก 2 ชุด รวมทั้งหมดเป็น 3 ชุด 3 ไซส์
สายสัญญาณใช้วัสดุของชนิด โดยในช่วงต้นจากปลั๊ก 3.5 มม.แบบ L จะเป็นสายถักความยาว 3 ฟุต แต่เมื่อมาถึงตำแหน่งแยกซ้ายขวา หรือเราขอเรียกว่า "จุด Y" สายจะเปลี่ยนมาใช้สายหุุ้มยาง ซึ่งยาวไปอีก 1 ฟุตจนถึงหูฟัง ในส่วนของ In-Line Controller นั้นไม่ได้มีสัญลักษณ์หรือตัวอักษรใดๆ มีเพียงปุ่ม 3 ปุ่มเท่านั้น ในการใช้งานก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก ส่วนบนเป็นปุ่มเพิ่มเสียง ปุ่มกลาง Mute ไมโครโฟน /รับสาย-วางสาย/เล่นเพลง-หยุดเพลง และปุ่มล่างสุดลดเสียง
ขออธิบายในส่วนของไดรเวอร์ขับเสียงแบบคู่กันสักนิด ไดรเวอร์ทั้งสองตัวนี้ปรับแต่งมาแบบพิเศษ โดยแบ่งหน้าที่ในการขับเสียงร่วมกับ ซึ่ง Dynamic Driver จะขับเสียงในส่วนของเสียงต่ำ ขณะที่ไดรเวอร์ BA หรือ Balanced Armature Driver จะทำหน้าที่ขับเสียงกลาง-แหลมออกมา
คุณสมบัติหลักๆ ของหูฟังก็ตามตารางเลย อย่างเช่น ค่าอิมพีแดนซ์ 32 โอห์ม +-15% ใช้งานกับอุปกรณ์ทั่วๆ ไปได้ไม่มีปัญหา ไมโครโฟนในจุด In-line Controller มีแพทเทิร์นการเก็บเสียงแบบ Omni-Directional ความไวอยู่ที่ -40 +- 3dB ในบรรทัดสุดท้าย แจ้งว่า รองรับแทบทุกแพลตฟอร์มเลย
การออกแบบสายของหูฟัง Hammerhead Duo ถือว่า ช่วยให้เราแกะสายออกมาใช้งานได้รวดเร็ว แม้ว่ามันจะพันกันบ้างในส่วนของสายถัก ส่วนช่วงสายที่หุ้มด้วยยางมันจะแยกตัวหรือเด้งออกจากกันอย่างรวดเร็ว ขณะที่การถอดหรือเปลี่ยนซิลิโคนเอียร์ ถือว่าทำได้ค่อนข้างยากมากในการเปลี่ยนมาใช้ไซส์เล็กและใหญ่ เนื่องจากซิลิโคนเอียร์ที่ไม่ได้ถูกใช้งานมีความเหนียวและแน่นมาก ดังนั้นเมื่อใส่กับหูฟังจะให้ความกระชับสูง ต้องใช้นิ้วจิ๊กแน่นๆ แล้วดึง แต่ก็จบปัญหาเรื่องการหลุดขณะใช้งานไปในทันที
ความสบายในการสวมใส่โดยส่วนตัวให้ในระดับ 7 - 8 คะแนน เพราะก้านใส่ซิลิโคนเอียร์มีขนาดใหญ่ ดังนั้นเวลาสวมใส่จึงค่อนข้างแน่นกระชับ ไม่ได้มีพื้นที่ยุบตัวมากนัก แม้ว่าจะใส่ได้กระชับ แต่เสียงภายนอกก็ยังเล็ดลอดเข้ามาเล็กน้อย ซึ่งส่วนตัวมองว่า มันถือเป็นข้อดี เนื่องจากเราควรได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมรอบตัว เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุหรือการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ได้ง่าย
การเล่นเกม
การฟังเพลง
Conclusion!!
สิ่งที่อยากบอกก็คือ การใช้จุกซิลิโคนแต่ละไซส์จะให้เสียงที่ต่างกัน ไซส์กลางและใหญ่จะให้เสียงที่มีเบสหนักแน่น ขณะที่ไซส์เล็กเสียงเบสจะหายไปและเสียงแหลมจะชัดเจนและละเอียดมาก (ขึ้นอยู่กับขนาดของรูหูของแต่ละคน) เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเรื่องของระยะของท่อเสียงที่เข้าใกล้หูของเรา ดังนั้น คุณอาจต้องเลือกใช้ซิลิโคนเอียร์ขนาดกลางและใหญ่เพื่อให้ได้เสียงที่ครบถ้วนมากขึ้น แทนที่การใส่สบายๆ ด้วยจุกขนาดเล็ก ซึ่งให้เสียงแหลมแบบจัดจ้านยิ่งกว่าเดิม
Thanks: Ascenti Resources Co., Ltd | ARC (www.ascenti.co.th)
ตลาดเกมบนสมาร์ทโฟนกำลังอยู่ในช่วงการเติบโต เช่นเดียวกับเครื่องเล่นเกมพกพาที่เริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง คำถามคือ หูฟังเกมมิ่งขนาดใหญ่นั้นเหมาะกับอุปกรณ์เหล่านี้หรือไม่ เราคงตอบได้โดยไม่ต้องคิด ด้วยเหตุนี้ผู้ผลิตเกมมิ่งเกียร์อย่าง Razer ที่เปิดตลาดหูฟังขนาดเล็กในซีรีส์ Hammerhead ก็มีการปล่อยรุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพวกเขาบรรจุเทคโนโลยี Dual Driver เข้าไป พร้อมกับปลั๊กอนาล็อกแบบ 3.5mm TRRS ซึงมันสามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ รวมถึงฝั่งเครื่องเล่นเกมคอนโซลด้วย
เริ่มต้นจากเกม PUBG บนสมาร์ทโฟน กำลังขับของโทรศัพท์ iPhone 8 Plus เปิดสูงสุดให้เสียงพอดีกับการได้ยิน เสียงปืน เสียงระเบิด เสียงเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ถือว่ามาเต็ม หนักแน่น สะใจ แต่เสียงจะออกโทนแหลมไปสักนิด เสียงฝีเท้าที่เป็นโทนเสียงสูงได้ยินชัดมาก แม้อยู่ในระยะไกลๆ การสื่อสารของไมโครโฟน เพื่อนร่วมทีมรายงานว่า ชัดเจน ให้เสียงที่ก้องเล็กน้อย และได้ยินเสียงลมหรือเสียงรบกวนต่ำมาก
การใช้งานร่วมกับ Nintendo Switch ต้องเปิดเสียงดังสูงสุดจึงจะได้ยินเสียงต่างๆ ครบถ้วน เสียงเพลงเสียงดนตรีในเกม Super Mario Bros U ขับออกมาได้ไพเราะ โดยส่วนตัวถือว่า หูฟังมีส่วนช่วยเพิ่มมิติเสียงของเกมได้ด้วย แต่เสียงก็ไม่ได้ถือว่าเพอร์เฟค เสียง hi-hat หรือเครื่องเคาะที่เป็นเสียงกลางสูงไปจนถึงเสียงความถี่สูงถูกขับออกมาจนเด่นและได้ยินชัดมาก
ก่อนจะฟังเพลง ทีมงานทดสอบฟังเสียง Sound Frequency ซึ่งเราได้ยินเสียงตั้งแต่ช่วงความถี่ 20Hz เลย ตรงนี้ถือว่า มันตอบสนองความถี่ต่ำได้ดีทีเดียว ถ้าจะให้นิยาม แนวเสียงของหูฟัง Hammerhead Duo ให้เข้าใจง่าย มันก็เหมือนกับการที่มันเป็นเสมือนวัยรุ่น ย่านเสียงต่ำแบบว่าดุดัน กระหึ่มพอสมตัว โทนเสียงกลางอาจจะไม่เด่นชัด แต่พอมีให้ได้ยิน ขณะที่โทนเสียงสูงจัดจ้าน เสียงพุ่งพล่าน ละเอียด คมชัด โดยเฉพาะเสียงเครื่องเคาะอย่าง hi-hat เพลงที่ฟังสบายๆ มีเสียงร้องผู้หญิงหวานๆ ก็ให้อรรถรสที่อาจจะแปลกไปจากเดิม เสียงร้องอาจจะใส แต่มันก็มีรายละเอียดที่ชัดขึ้นอย่างเช่น เสียงลมหายใจ
การหันมาใช้ไดรเวอร์แบบคู่ ถือว่า Razer ประสบความสำเร็จในการยกระดับคุณภาพเสียงของหูฟังซีรีส์ Hammerhead ให้ก้าวไปอีกระดับ แน่นอนว่า มันตอบโจทย์ได้ทั้งการเล่นเกม การดูหนัง การฟังเพลง การสนทนาร่วมกับสมาร์ทโฟนหรือในเกมคอนโซล (PS4) หรือทำทุกอย่างได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ แต่โดยส่วนตัวก็ยังสรุปให้มันเป็นหูฟังเกมมิ่งมากกว่าที่จะใช้ในการฟังเพลงด้วยคาแรคเตอร์เสียงในตัวมันเอง ถ้าให้ระดับของการฟังเพลงก็สรุปว่า "พอใช้" เพราะเสียงค่อนข้างมี Sound Stage ที่แคบ ความกลมกลืนของเสียงดนตรียังทำได้ไม่ดี เพราะไดรเวอร์ที่ทำหน้าที่ขับเสียงสูงและกลางมันมีการขับเสียงออกมามากเกินไป อย่างที่บอกในตอนต้นว่า เสียง hi-hat ชัดเจน จนเหมือนมาตีใกล้ๆ หูเลย
Price: 1,990 บาท