สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน จากช่วงงาน Computex Taipei 2021 ที่ผ่านมานั้น AMD ก็ได้มีการประกาศเปิดตัว Ryzen 5000G Series ที่จะเป็นการขายปลีกอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ APU ตระกูลนี้ลงสู่ตลาด OEM ตั้งแต่เดือนเมษายน แตกต่างจากยุคของ Ryzen 4000G Series ที่จะมาในตลาดของ OEM เท่านั้น สำหรับ Ryzen 5000G Series รหัสการพัฒนา Cezanne ขนาดขบวนการผลิต 7 nm ที่นอกจากการเปลี่ยนมาใช้พื้นฐานของหน่วยประมวล ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 3 รหัสการพัฒนา เช่นเดียวกับ AMD Ryzen 5000 Series ที่โดนตัด Cache L3 ออกไปครึ่งนึง ซึ่งอีกสิ่งนึงที่ Ryzen 5000G Series มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการใส่คอร์กราฟฟิก AMD Radeon RX Vega อีกทั้งยังสามารถอัพเกรดกราฟฟิกการ์ดแยกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในอนาคต ถ้าเทียบกับ Ryzen 4000G Series การ์ดจอจะวิ่งได้สูงสุด PCI Express 3.0 x8 แต่ Ryzen 5000G Series จะวิ่ง PCI Express 3.0 x16 เต็มที่ เท่ากับว่ามันไม่รองรับเทคโนโลยี PCI Express 4.0
AMD Ryzen 5000G Series การทำตลาดที่จะเป็นการอุดช่องว่างของ AMD Ryzen 5000 Series ถ้านั่งตัดสินใจจะซื้อแล้ว แน่นอนว่าเป็นการชวนสับสนได้
Ryzen 5000G Series ที่เจาะตลาดของผู้ที่ต้องการซีพียูประสิทธิภาพสูงที่ใช้พื้นฐาน Zen3 ที่มาด้วยความคุ้มค่าของการใส่กราฟฟิก AMD Radeon RX VEGA แต่ประหยัดพลังงาน เหมาะสมกับการใช้งานตั้งแต่คอมพิวเตอร์สำนักงาน จนมาถึงเกมเมอร์ จบครบที่ APU ตระกูลนี้ แน่นนอความคุ้มค่าของ AMD ใช้งานร่วมกับเมนบอร์ด AMD B450 จนถึง X570 ระดับเรือธงของยุค
ในตลาดที่จะมีการขายปลีกนั้นตามหลังที่เราได้ลงรีวิว ซึ่งถ้ามองว่า Ryzen 7 5700G ราคาสูงไป AMD ก็มีทางเลือกของ Ryzen 5 5600G ด้วยสเป็คที่ลดลงเล็กน้อย แต่ถ้ามองที่ราคาก็เป็นทางเลือกที่ดี
ก็น่าเสียดายที่ทาง AMD ไม่ได้ทำกราฟเปรียบเทียบประสิทธิภาพ Ryzen 4000G Series เข้ามากับ Ryzen 5000G Series ถ้าเรามองภาพจากกราฟนี้ผู้ใช้งานที่ใช้ Ryzen 3000G Series อยู่ ก็น่าสนใจที่จะอัพเกรด APU ตัวใหม่ได้ ถ้าเมนบอร์ดเดิมนั้นรองรับนะ
การเล่นเกมด้วยกราฟฟิกใน APU ที่ Ryzen 5000G Series สามารถทำประสิทธิภาพได้สูงชัดเจนกว่า Ryzen 3000G Series ในหลายเกม แต่เกมที่กินสเป็คโหดๆบางเกม ก็แทบไม่ต่างกันมาก
ประสิทธิภาพในการประมวลผล เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับตลาดและราคาใกล้กัน Ryzen 5000G Series ก็ทำได้น่าสนใจ
ในด้านการใช้งานต่างๆ ที่ AMD ได้ทดสอบเปรียบเทียบกับคู่แข่ง Ryzen 5000G Series ก็ทำออกมาได้น่าสนใจ
Ryzen 5000G Series กราฟฟิกในตัวนั้น AMD Radeon RX Vega ที่ทาง AMD ได้เคลมเอาไว้ว่ามันสามารถเล่นเกมระดับ AAA และ เกมยอดนิยม ได้เป็นอย่างดี
AMD Radeon RX Vega ที่อยู่ใน Ryzen 5000G Series ทาง AMD นั้นจัดเต็มกับฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ เพื่อการเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เทคโนโลยี AMD FSR ในเกมที่รองรับนั้น เท่ากับว่าเทคโนโลยีนี้ ช่วยเพิ่มเฟรมเรทให้สูงเพื่อการเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นมากขึ้น
ใครที่จะคิดอัพเกรดมาใช้งาน Ryzen 5000G Series ที่รองรับการใช้งานร่วมกับเมนบอร์ด AMD 400 และ 500 Series ก็ควรที่จะตรวจสอบไบออสจากผู้ผลิตที่ีรองรับ Ryzen 5000G Series ข้อแนะนำจาก AMD ในเรื่องของแรมที่ 16 GB Dual Channels บัส 3200 CL16 นั้นจะเป็นจุดที่คุ้มค่าคุ้มราคา ประสิทธิภาพดี ใครโอเวอร์คล็อกแรมก็คุ้มเพิ่มเติมไปอีก
Ryzen 7 5700G มีแกนประมวผล 8 คอร์ 16 เธรด ด้วยความถี่สัญญาณนาฬิกาพื้นฐาน 3.8 Ghz และ Max Boost Clock 4.6 Ghz แล้วก็ยังมี Cache L3 รวมกัน 16 MB ค่า TPD สูงสุด 65Watt แต่ที่น่าสนใจคือมัน "Unlock" ก็โอเวอร์คล็อกได้สิแบบนี้ ทางด้านของกราฟฟิก AMD Radeon RX Vega ที่ Ryzen 7 5700G ที่ถูกใส่มา 8 แกนประมวลผล พร้อมกับความเร็วระดับ 2000 Mhz ซึ่ง AMD Radeon RX VEGA 8 ก็น่าสนใจไม่น้อย
Package & Bundled
แพคเกจของ AMD Ryzen 5000G Series โดยภาพรวมจะเป็นธีมสีเทาและส้ม เช่นเดียวกับเดียวกับ AMD Ryzen 5000 Series ในชุดจะมีคู่มือ ,ชุดระบายความร้อน และ สติกเกอร์ติดหน้าเครื่อง
CPU Detail
รูปแบบของตัวหน่วยประมวลผล ที่จะเป็น AMD แบบดั่งเดิมมาตั้งแต่ในยุค AMD Athlon 64 ก็เรียกได้ว่าเป็นสิบปีก็ยังคงเดิม เพิ่มเติมมาคือจำนวนขาตามแต่ละซ็อกเก็ต ที่จะเป็นกระดองครอบคอร์พร้อมกับการยิงเลเซอร์รายละเอียดต่างๆมาตามแบบฉบับของ AMD เรียกได้ว่าซีพียูตัวเดียวผ่านมา 3 ประเทศ คือสหรัฐอเมริกา ,ไต้หวัน และ สุดท้ายประกอบที่จีน เหมือนกับ Ryzen 5000 Series
แพ็คเกจ AM4 ที่รองรับการใช้งานร่วมกับเมนบอร์ด 400 Series และ 500 Series
ชุดระบายความร้อน Wraith Stealth ก็บางดีครับเหมาะสมกับค่า TDP ตามสเป็ค ซิงค์ตัวนี้เวลาถอดอีทซิงค์ออกมานั้นควรที่จะต้องใจเย็น แต่ต้องอุ่นซีพียูและฮีทซิงค์ให้มีความร้อนก่อนให้ซิลิโคลนอ่อนตัว ซึ่งขณะการถอดนั้นควรต้องระวังและมีสติเป็นอย่างยิ่ง ไม่งั้นอาจได้ AMD ของแท้
Ryzen 5000G Series จะมีสติกเกอร์เพิ่มพลังหน้าเคสมาสองชิ้น
8 Core 16 Threads ถ้ามองที่จำนวนคอร์ก็มีเท่ากับ Ryzen 7 3000 และ 5000 Series
8 Core 16 Threads ใน AMD Ryzen 7 5700G ใช้ CCD จำนวน 1 ชุด ถ้าเทียบกับ Ryzen 7 5000 Series ทางด้านของ Cache L3 ที่ถูกลดลงมาครึ่งนึง จาก 32 MB เหลือ 16 MB แน่นนอว่าด้วยความเป็น AMD ก็ไม่แปลก แต่โดยส่วนตัวผมชอบนะ CPU รุ่นที่โดนตัด Cache L3 อย่างในอดีตเช่น Phenom II 900 Series ที่ตัด Cache L3 มาเป็น Phenom II 800 Series
System Setup
ระบบที่ใช้ในการทดสอบ
- M/B : X570 AORUS MASTER
- VGA : AMD Radeon RX6800
- Memory : G.Skill Trident Z Royal 16GB DDR4 4000Mhz
- CPU Cooler : Wraith Prism with RGB LED
- SSD : Intel SSD 600P 256GB
- PSU : FSP 1200 Watt
- OS : Windows 10 Pro (21H2)
บรรยากาศขณะการทดสอบ
Performance Test
Performance Test : AMD Radeon RX VEGA 8
ซึ่งเมนบอร์ดที่ผมใช้ในการทดสอบนั้นไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อมอนิเตอร์ แต่มันคือเมนบอร์ดในรายการที่ AMD นั้นให้ใช้ทดสอบซีพียู AMD Ryzen 7 5700G ตัวนี้ แต่ถ้าไม่ทดสอบประสิทธิภาพ AMD Radeon RX VEGA 8 ก็คงจะเป็นอะไรขาดความสมบูรณ์ในการทดสอบประสิทธิภาพ ผมเลยต้องหาเมนบอร์ดตัวอื่นที่มีพอร์ตการเชื่อมต่อมอนิเตอร์มาใช้ทดสอบเสริม
รายละเอียดของ AMD Radeon RX VEGA 8 ในส่วนของเมโมรีจะเป็นการแชร์แรมระบบมาใช้
เมนบอร์ดที่ใช้ในการทดสอบส่วนของ AMD Radeon RX VEGA 8 จะสามารถตั้งแชร์แรมได้สูงสุด 8GB จากเท่าที่ลองค่า AUTO เทียบกับ 8GB ประสิทธิภาพก็ทำออกมาได้สูงขึ้น
AMD Radeon RX VEGA 8 นอกจากการแชร์แรมระบบมาใช้งาน เท่ากับว่าความเร็วของเมโมรีส่งผลต่อประสิทธิภาพกันด้วย ถ้าตัดสินใจซื้อ APU ตระกูลนี้ ก็ลองดูเป็นแรมบัสที่สูงที่สุดตามงบประมาณที่มีก็แล้วกัน
ระบบที่ใช้ในการทดสอบ
- M/B : ASUS TUF GAMING X570-PLUS
- VGA : AMD Radeon RX VEGA 8
- Memory : G.Skill Trident Z Royal 16GB DDR4 4000Mhz
- CPU Cooler : Wraith Prism with RGB LED
- SSD : Intel SSD 600P 256GB
- PSU : FSP 1200 Watt
- OS : Windows 10 Pro (21H2)
บรรยากาศขณะการทดสอบ
การเล่นเกม Dirt 5 ที่ความละเอียด Full HD ใน Preset Low ซึ่งเฟรมเรทที่ออกมานั้นก็ยังสามารถเล่นออกมาได้พอที่จะไหลลื่นพอได้ แต่ถ้ายอมลดความละเอียดลงมาบ้าง ไม่เน้น Full HD ลดลงมาที่ HD ก็ช่วยเสริมภาพที่ไหลลื่นมากขึ้น กับความสวยของภาพที่พอใช้ได้กับกราฟฟิกออนบอร์ด
Forza Horizon 4 ก็ไม่ใช่เกมใหม่มาก แต่เป็นเกมที่ผมเล่นเป็นประจำ เล่นแทบทุกคืนก่อนนอน ถึงแม้ภาค 5 กำลังจะมาก็ตาม การเล่นที่ความละเอียด Full HD ที่ Preset Medium เฟรมเรทที่ออกมานั้นน่าสนใจครับ แตะ 60 FPS ได้สบายมาก
ลองลากแรม 1:1 เล่นๆ
ลองลากแรมกันต่ออีกหน่อยกันแบบ 1:1 ซึ่งจากการจูนแบบง่ายๆ ผมแค่ตั้งค่าในส่วนของแรมเท่านั้น ได้บัสแรม 4600 Mhz และ Uncore 2300 Mhz ซึ่งก็คงที่จะถูกใจลากแรมใช้งานแบบ 1:1 ได้ดีพอสมควร เท่าที่ลองเล่นเกม Forza Horizon 4 นานหลายชั่วโมง ก็เล่นได้ไม่มีค้างหรือจอฟ้าใดๆ
Conclusion
AMD Ryzen 7 5700G หนึ่งการออกมาของ APU Ryzen 5000G Series ถ้ามองกันที่ในแง่ประสิทธิภาพการประมวลผลนั้น Ryzen 7 5700G โดยส่วนตัวเท่าที่เปรียบเทียบในการใช้งาน ในการใช้งานทั่วไป การเล่นเกม และ การประมวลผลไม่ได้สลับซับซ้อนมาก ประสิทธิภาพความแรงนั้นไม่ได้ด้อยกว่า Ryzen 7 5800X ด้วยซ้ำ แต่เมื่อต้องมีการใช้งานประมวลที่สลับซับซ้อนมากขึ้นที่ Ryzen 7 5700G นั้นจะเสียบเปรียบกันไปบ้าง แต่ถ้ามองดีๆกัน Ryzen 7 5700G ค่า TDP ตามสเป็คเพียง 65 Watt และ Cache L3 ที่น้อยกว่า ในแง่ของความร้อนที่ทำออกมาได้น่าสนใจไม่น้อย อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทาง AMD นั้นออกมาทำเพื่ออุดช่องว่างในตลาดสำหรับ Ryzen 5000G Series กับผู้ที่ต้องการซีพียูประสิทธิภาพสูงในพื้นฐานของ Zen 3 ยิ่งในยุคของการ์ดจอยังคงมีราคาแพง หรือ ไม่ได้เน้นการใช้งานของการ์ดจอ ที่ Ryzen 5000G Series ยังมีจุดน่าสนใจกับการใส่กราฟฟิก AMD Radeon RX Vega 8 ใน Ryzen 7 5700G กราฟฟิกการ์ดตัวนี้นอกจากการใช้งานทั่วไป การประมวลผลเบาๆ แต่มันก็ยังคงสามารถเล่นเกมที่ระดับความละเอียด Full HD ได้เป็นอย่างน่าสนใจ ยิ่งการใส่ฟีเจอร์ต่างๆเข้ามาในเกมที่รองรับ ที่ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเฟรมเรทได้อย่างไหลลื่นมากขึ้นนั้นเอง APU Ryzen 5000G Series คงน่าจะเป็นยุคส่งท้ายของ Socket AM4 ที่ใช้เมโมรี DDR4 รองรับการใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดชิพเซ็ต AMD B450 จนถึง X570 ถ้าใครจะใช้กราฟฟิกในตัว นอกจากที่ต้องตรวจสอบอัพเดทไบออสแล้ว ก็ตรวจเช็คพอร์ตการเชื่อมต่อมอนิเตอร์ที่เมนบอร์ดด้วย AMD Ryzen 7 5700G ก็ถือว่าเป็นความลงตัวในการใช้งานตั้งแต่คอมพิวเตอร์ใช้งานสำนักงาน ที่ต้องการซีพียูประมวลประสิทธิภาพสูง ,การใช้งานตามบ้านที่เน้นไปทางด้านความบันเทิง เล่นเกมเบาๆ ไม่ได้เน้นการปรับภาคความสวยที่สุด หรือ กำลังที่จะประกอบคอมพิวเตอร์เกมมิ่งซักตัว แต่ค่อยๆเก็บงบประมาณซื้อเรื่อยๆ รอการ์ดจอราคาลง รอการ์ดจอรุ่นใหม่ อย่างน้อยตอนนี้กราฟฟิก AMD Radeon RX Vega 8 ยังพอเล่นเกมได้ โดยส่วนตัวคาดเดาราคาถูกกว่า Ryzen 7 5800X แน่นอน สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Price : 13,900 บาท
Special Thanks : AMD Far East | Thailand