สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน หลังจากการเปิดตัวของ 10th Gen Intel Core ศักราชใหม่ของโปรเซสเซอร์สำหรับเดสก์ท็อปจากทางอินเทล ที่นอกจากเมนบอร์ดชิพเซ็ตระดับเรือธงอย่าง Intel Z490 แล้วทาง Intel ยังมีทางเลือกของชิพเซ็ตที่หลากหลายทาวเลือกของผู้ใช้งาน โดยชิพเซ็ต Intel H470 ที่ออกมานั้นเป็นรองกับ Intel Z490 เพิียงแค่การโอเวอร์คล็อกเท่านั้น ที่วันนี้เราจะมารีวิว ASUS Prime H470-PLUS กับเมนบอร์ดที่เน้นกับการใช้งาน ตอบโจทย์กับสายการทำงานที่ไม่ได้เน้นการโอเวอร์เวอร์คล็อก กับเมนบอร์ด ASUS Prime H470-PLUS ที่ไม่ได้มีฟีเจอร์อลังการงานสร้างมากมายนัก แต่จะมาพร้อมกับการใช้งานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ในยุค 2020 เดี๋ยวเรามาดูกับเมนบอร์ดระดับราคาประมาณสี่พันบาท ว่าเราจะได้อะไรกับเมนบอร์ด ASUS Prime H470-PLUS ตัวนี้
Package & Bundled
แพคเกจที่ดูดุดันตามสไตล์ของของตระกูล Prime จาก ASUS ด้วยสีดำตัดกับขอบสีน้ำเงิน ของในชุดที่จะมีคู่มือ, สาย SATA และ น็อต M.2
Design & Detail
ธีมของเมนบอร์ดที่มาด้วยสีดำตัดกับขาวและเทา ที่การออกแบบดูเรียบง่ายสวยงามเน้นการใช้งานเป็นหลัก โดยตัวบอร์ดจะมีลวดลายสีขาวเพื่อเพิ่มความสวยงาม การจัดวางอุปกรณ์บนเมนบอร์ดที่โล่งไปบ้างตามระดับราคาเมื่อเทียบกับขนาดของตัวเมนบอร์ด
จาก PCB สีดำผิวเงา เป็นขนาด ATX การเก็บงานและรายละเอียดต่างๆทำออกมาดีตามสไตล์ของ ASUS
ซีพียูที่รองรับนั้น LGA1200 10th Gen Intel Core ภาคจ่ายไฟมาแบบ 6+1+1 เฟส ที่ภาคจ่ายไฟออกแบบมาสามารถตอบโจทย์การทำงานต่อเนื่องได้สบาน ทางด้านฮีทซิงค์ระบายความร้อนสีเทาที่มีขนาดใหญ่ช่วยเสริมเสถียรภาพไปอีกระดับ
สล็อตติดตั้งแรมนั้นจะเป็นแบบมาตรฐาน โดยเมโมรีที่รองรับนั้นเป็นชนิด DDR4 ตามมาตรฐานของ LGA1200 โดยรองรับการติดตั้งเมโมรีแบบ Dual Channels สูงสุดที่ 128GB ความเร็วที่รองรับสูงสุด 2933 Mhz ความเร็วสูงสุดที่รองรับจะแตกต่างกันตามหน่วยประมวลผลกลางที่ติดตั้งเข้าไป
สล๊อต PCI-Express x16 3.0 สองสล็อต ที่ยังมี สล๊อต PCI-Express x16 3.0 (x4) รองรับการติดตั้งกราฟฟิกการ์ด AMD Crossfire สุดท้ายกับ PCI Express 3.0 x1 สามสล็อต ในส่วน M.2 จำนวน 2 สล๊อต ที่รองรับการติดตั้งสูงสุด 22110 รองรับ SSD PCI-e สูงสุด 3.0 x4 และ SATA III 6Gb/s โดยจะมีฮีทซิงค์ระบายความร้อน SSD มา 1 สล็อต ถึงแม้เมนบอร์ด สล๊อตตัวนี้จะไม่มี Wi-Fi 6 มาให้ออนบอร์ด แต่การออกแบบที่เตรียมสล็อตไว้ให้ผู้ใช้งานซื้อมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ ใครอยากใช้ Wi-Fi 6 ได้เหมือนเมนบอร์ดแพงๆ ลองหา Intel AX201 มาติดตั้งเพิ่มดูครับ
พอร์ต SATA III 6GB/s จะมีมาทั้งหมดหกพอร์ตบนเมนบอร์ด เป็นการควบคุมโดยชิพเซ็ต Intel H470 รองรับการเชื่อมต่อ RAID 0 1 5 และ 10 ฮีทซิงค์อลูมิเนียมสีเทารับหน้าที่ระบายความร้อนชิพเซ็ต Intel H470
จุดสำหรับการเชื่อมต่อ Bracket Port USB 3.2 Gen 1 จำนวน 2 จุด
จุดสำหรับการเชื่อมต่อ Port Com ,USB 2.0 ,RGB แบบ 12 V และ Address 5 V แล้วเมนบอร์ดตัวนี้รองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อใช้งาน Thundetbolt 3 ได้
ในส่วนระบบเสียงออนบอร์ด ด้วยชิพ Reaktek ALC887 พร้อมกับการใช้คาปาซิเตอร์ใช้ Nichicon Find Gold ที่ยังมีการออกแบบในจุดอื่นๆในด้านเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
Back Panal I/O Ports
< < < Specifications > > >
ในส่วนระบบเสียงออนบอร์ดใช้ชิพ Realtek ALC887 ทางด้านเครือข่ายแบบด้วยการเชื่อมต่อด้วยสายแลน ใช้ชิพ RTL8111 จาก Realtek
System Setup
ระบบที่ใช้ในการทดสอบ
- CPU : Intel Core i9-10900K
- VGA : AMD Radeon RX5700
- Memory : G.Skill Trident Z Royal F4-4000C17D-16GTRSB
- CPU Cooler : THERMALTAKE WATER 3.0 RIING 240
- SSD : Intel SSD 600P 256GB
- PSU : FSP 1200 Watt
- OS : Windows 10 Pro (1909)
บรรยากาศขณะการทดสอบ
Performance Test
Conclusion
ASUS Prime H470-PLUS ด้วยการใช้ชิพเซ็ต Intel H470 ที่เป็นการอุดช่องว่างในการทำตลาดของเมนบอร์ด ในยุค 10th Gen Intel Core ด้วยการที่มันเป็นรองชิพเซ็ต Intel Z490 ฟีเจอร์ต่างๆนั้นจะด้อยกว่าจุดของการโอเวอร์คล็อกเท่านั้น โดยการออกแบบของเมนบอร์ด ASUS Prime H470-PLUS ที่ไม่ได้เน้นฟีเจอร์อลังการอะไรมากนัก จะเพียงตอบโจทย์ในการใช้งานได้ทุกระดับขึ้นกับอุปกรณ์ร่วมส่วนอื่นภายในเครื่อง ถึงแม้ ASUS Prime H470-PLUS จะไม่มีฟีเจอร์อลังการอะไรมากนัก แต่ด้วยการออกแบบของตัวเมนบอร์ดที่ยังรองรับการใส่อุปกรณ์เสริมอัพเกรดเพิ่มสำหรับ Wi-Fi 6 และ Thundetbolt 3 ถ้าต้องการจะใช้งานในภายหลัง ทางด้านประสิทธิภาพที่ได้ทดสอบมาก็ถือว่า ASUS Prime H470-PLUS ทำออมาได้ดีอย่าน่าสนใจถ้ามองเทียบกับราคาของเมนบอร์ดประมาณสี่พันบาท กับการออกแบบของตัวบอร์ดที่มาแบบเรียบๆ แต่ก็รองรับการเชื่อมต่อไฟ RGB ได้ทั้ง 12V และ Address 5V ได้ถ้าต้องการแสงสีภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ในภายหลัง สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Price : N/A บาท
Special Thanks : ASUSTek Computer (Thailand) Co.,Ltd.