สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน ในยุค 2020 หลังจากที่เห็นว่าทาง Xiaomi ได้เปิดตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่มราคาประหยัดออกมาในแบรนด์ Redmi ตระกูล Redmi 9 ออกมากันอย่างละลานตา ที่จะมีทางเลือกที่หลาหลายงบประมาณที่พร้อมจ่ายได้ โดยล่าสุดกับ Redmi 9A น้องเล็กราคาสบายๆแบบสามพันมีทอน Xiaomi ใส่สเป็คการใช้งานต่างๆที่ยังคงให้ความรู้สึกความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไฟอย่างแน่นอน ด้วยแบต 5000 mAh หน้าจอ 6.53 นิ้ว แรม 2 GB รอม 32GB ผนวกกับการใช้ซีพียู MediaTek Helio G25 ที่ดูจากสเป็นเป็นที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป หรือ การเล่นเกมเบาๆได้เป็นอย่างดีครับ
Package & Bundled
แพคเกจมาสไตล์ดูเรียบง่ายตามสไตล์ Redmi ที่ด้านหน้าจะพิมพ์ลายเครื่องดูสวยงาม โดยของในชุดที่จะมีคู่มือ, เข็มจิ้มซิม, สาย USB Type-A to Micro USB,ที่ชาร์จ 10 Watt อุปกรณ์เสริมทุกอย่างต้องหาซื้อเองครับ
Design & Detail
การออกแบบดีไซน์ถ้าเรามองแต่ด้านหน้าคงยากที่จะดูออกว่ามันคือรุ่นอะไร ด้วยรูปทรงของหน้าจอ 20:9 ช่วยทำให้เครื่องหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว แบบหยดน้ำ โดยยังจับมือเดียวได้ถนัด ถ้าใครนิ้วโป้งยาวก็ยังพอใช้งานมือเดียวได้อยู่ โดยขนาดจะอยู่ที่ 164.9 x 77 x 9 มม. น้ำหนัก 196 กรัม โดยจะไม่มีการติดฟิล์มกันรอยมาให้จากโรงงาน จุดเด่นด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงสุด 13 ล้าน ,แบตความจุ 5000 mAh ,หน้าจอความละเอียด HD+ ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าที่ 81% ของตัวเครื่อง และ SoC Mediatek Helio G25 ความเร็วสูงสุด 2 Ghz
หน้าจอแสดงผล IPS ขนาด 6.53 นิ้ว กล้องหน้าแบบหยดน้ำ ความละเอียด HD+ สัดส่วน 20:9 ด้วยการออกแบบตัวเครื่องหน้าจอมใช้พื้นที่ได้ 81% ของตัวเครื่อง สีสันในการแสดงผลที่ถือว่าทำออกมาได้ดี พร้อมกับการใช้กระจกกันรอยอย่างที่ควรจะเป็น ความไหลลื่นในการทัส ลืม Redmi ในยุคก่อนหน้าต่างกันพอสมควร
ด้านหลังที่ทำดูอารณ์คล้ายอลูมิเนียม แต่จริงๆมันเป็นพลาสติกที่มีการทำพื้นผิวลายทำให้มีความกระชับมือในการจับถือ พร้อมกับการออกแบบมีส่วนโค้งนั้นทำให้จับเครื่องได้กระชับมากขึ้น ตัวเครื่องที่ผมได้รับมาทดสอบเป็นสี Sunset Purple โดยจะมีทางเลือกของสีคือ Carbon Gray, Ocean Green และ Sky Blue
แกนกลางโครงบอดี้ที่จะใช้พลาสติก แต่การทำพื้นผิวที่ดูมีความคลายอลูมิเนียมมาก ฝั่งด้านซ้ายจะไม่มีปุ่มกด แต่จะมีถาดใส่ Nano Sim Card 2 ช่อง พร้อมกับช่อง Micro SD Card
ด้านซ้ายที่จะปุ่มพาวเวอร์ พร้อมกับปุ่มเพิ่มและลดระดับเสียง สีเดียวกับตัวเครื่อง ก็ดูกลมลื่นกันดีครับ
ด้านล่างนั้นที่จะมี ไมค์โครโฟน ลำโพง และ พอร์ต Micro USB คงจะตอบโจทย์คนที่อัพเกรดมาจากเครื่องเก่า โดยไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์เสริมใหม่
ด้านบนมาโล่ง ที่จะมีช่องเสียบชุด Headset แบบ 3.5 มม. มาให้ใช้งาน
กล้องหลัง 1 ตัว ความละเอียด 13 MP f/2.2 ที่พร้อมกับแฟลช LED ฟีเจอร์การถ่ายมีมาให้ใช้งานได้ตามพื้นฐานในยุค 2020 รองรับการถ่ายวีดีโอได้สูงสุดระดับ 1080p@30p
กล้องหน้าแบบที่ถูกใส่อยู่ในพื้นที่หน้าจอหยดน้ำ โดยตัวเซ็นเซอร์ 5 MP f/2.2 รองรับการถ่ายวีดีโอ FHD 30Fps พร้อมกับโหมดการถ่ายภาพหน้าเนียน
การใช้งาน
ทางด้านของรอมที่จะเป็น Android 10 ครอบด้วย MIUI เวอร์ชั่น 12 ซึ่งผู้ใช้งานนั้นสามารถปรับแต่ง Ui ได้มากมายจาก Themes สำเร็จรูปหรือตามความต้องการ รองรับ Dark Mode ตามยุคสมัย การทัสหน้าจอติดนิ้วทำได้ดี สีสันสดใสสู้แสงได้ดีพอสมควร เอาเป็นว่าในช่วงระดับราคา
สามพันมีทอน ยากที่จะเอาตัวไหนมาเทียบ
ประสิทธิภาพในการทดสอบ AnTuTu ด้วยการใช้ Soc MediaTek Helio G25 คะแนนที่จะออกมาราวๆประมาณแปดหมื่นปลายๆจนไปถึงแสนต้นๆ การใช้งานทั่วไป มันก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้ดีมาก ด้วยแบตความจุระดับ 5000mAh การใช้งาน 1 วัน ที่ทำได้สบายๆ ถ้าสแตนบายเครื่องทิ้งไว้เฉยๆ มาคุยกันที่ระดับเดือนเลยดีกว่า
การใช้งานทางด้านความบันเทิง คอนเทนต์จาก Netflix ที่รองรับความละเอียดระดับ SD ด้วยจอความละเอียดหน้าจอระดับ HD+ ภเาอาจดูหยายไปนิด โดยสีสันสดใส เสียงที่ออกมามีให้ได้ยิน
การเล่นเกมที่ด้วยหัวใจหลัก MediaTek Helio G25 ถือว่าพอเล่นเกมได้ก็แล้วกัน ถ้าเน้นภาพสวยๆของเกมคงจะคุยกันยาก แต่ถ้าจะเน้นลื่นๆก็ลดความสวยของภาพลงมาก็พอที่จะเล่นได้อย่างไหลลื่น แต่ด้วยเมโมรี 32 GB และ แรม 2GB คงจะลำบากต่อการติดตั้งเกมไฟล์ใหญ่ๆครับ
กับการใช้งานกล้องที่โหมดการใช้งานก็มีตามความน่าจะเป็นในยุค 2020 มาทั้ง AI, HDR และ Filters แต่จะไม่มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน การถ่ายภาพบุคคล พร้อมการแต่งหน้าเนียนที่มีมาให้ใช้งานได้ ถ้าถ่ายภาพในที่แสงมากพอ ภาพที่ถ่ายออกมาได้ก็ดูดีพอสมควร แต่ถ้าแสงน้อยนอยส์,มาพอสมควร ถ้าลองดูจากภาพถ่ายตัวอย่างด้านท้าย ระดับราคาสามพันทีทอนที่ทำออกมาได้คุ้มกับราคาที่จ่ายไป **** ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องอยู่ด้านท้ายบทความครับ *** การถ่ายวีดีโอรองรับสูงสุดระดับ FHD 30 FPS อีกทั้งยังมีโหมด Slow motion และ Short video
ในโหมดการถ่ายภาพแบบมือโปร ยังคงมีมาให้ใช้งาน โดยในส่วนของการใช้งานจาก MIUI 12 ที่จะมีการปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อย ใช้ไปเดี๋ยวก็ชินครับ
ในส่วนของ Quick Setting ที่ใน MIUI 12 จะมีการปรับโฉมให้ดูสวยงามงามขึ้น พร้อมกับความง่ายต่อการใช้งาน
อันนี้ผมขอตินิดนึงก็แล้วกันจากที่เคยได้สัมผัส Redmi 8A ในการไถเฟสบุ๊ครู้สึกว่ามันลื่นกว่า Redmi 9A พอสมควร แต่เรื่องการเล่นเกมที่ Redmi 9A ทำได้ดีกว่า Redmi 8A นะครับ
Conclusion
Redmi 9A ที่โดยส่วนตัวผมใช้ยืน 1 กับสามาร์ทโฟนในกลุ่มระดับสามพันมีทอน ที่เรียกได้ว่าการออกแบบนั้นทาง Xiaomi ที่ให้การใช้งานมาอย่างครบเครื่องสมฐานะของราคาเครื่องนะครับ ด้วยหัวใจหลัก Mediatek Helio G25 มียังมีความด้อยกับการใช้งานทั่วไปอย่างเช่นการไถแอปเฟสบุ๊ค ที่โดยส่วนตัว Snapdragon 439 ที่ใช้ใน Redmi 8A ยังทำได้ไหลลื่นกว่า แต่ในเรื่องของการเล่นเกมที่ Mediatek Helio G25 ใน Redmi 9A ยังคงทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ แต่ด้วยข้อจำกัดของราคาที่มีแรมเพียง 2GB พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 32GB อาจะไม่เหมาะสมกับการใช้งานลงแอปจำนวนมาก คงจะเหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป ให้ผู้ใหญ่หรือเด็กๆไว้ใช้น่าจะลงตัวมากกว่า เพราะหน้าจอขนาดใหญ่ 6.53 นิ้ว ที่เป็นอีกจุดเด่นของ Redmi 9A ที่หน้าจออาจไม่ได้เกรดดีนัก แต่ด้วยราคาแล้วผมว่ามันดีงามมาก สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Price : 2XXX
Special Thanks : Xiaomi (Thailand) Inc.