สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน Wi-Fi 6 Router ในยุค 2021 ที่มีทางเลือกทั้งด้านราคาและประสิทธิภาพกันมากมาย ที่ทาง TP-Link ก็เป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตเราเตอร์ที่ทำ Wi-Fi 6 Router ในทางเลือกที่หลากหลาย และ มีการอัพเกรดภายในมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในราคาที่จับต้องกันได้ง่าย ซึ่ง TP-Link Archer AX55 ตัวนี้นั้นถ้าเรามองที่หน้าตานั้นอาจไม่ได้แตกต่างจาก TP-Link ในรุ่นอื่นๆ ที่เป็นมาตรฐาน Dual Band AX3000 เท่าไรนัก
TP-Link Archer AX55 สิ่งที่ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจ ถ้าเทียบกับค่าตัวคือแรม 512 MB ถ้ามองย้อนไปเมื่อไม่นานมากนี้ เราเตอร์ที่มีแรมระดับ 512 MB มันคือเราเตอร์ในระดับพรีเมี่ยม นอกจากนั้นภาคขยายสัญญาณความแรงสูงที่ถูกใส่เช้ามาให้ได้ใช้งานกัน ที่สำคัญตัวนี้ได้ใช้หัวใจหลักจาก Qualcomm มันใจกับการใช้งานและเสถียรภาพได้
Package & Bundled
แพ็คเกจที่มาในสไตล์ของด้วยกล่องสีเขียวตามสไตล์ของ TP-Link ในยุค 2020-2021 มีการบ่งบอกรายละเอียดเอาไว้อย่างชัดเจน ของในชุดมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้น ,สายแลน และ พาวเวอร์ซัพพลายแบบ 2 ขาแบน ที่ชอบมากคือสติกเกอร์ฉลาก SSID และ Password ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเอาไปติดที่ไหน
Design & Detail
TP-Link Archer AX55 จะมีการใช้รูปโฉมภายนอกของยุคปี 2021 จาก TP-Link ทรงสี่เหลี่ยมเรียบง่าย โดยวัสดุภายนอกเป็นพลาสติกสีดำทั้งหมด พร้อมกับช่องระบายอากาศที่เยอะมาก เรียกได้ว่าใช้งานหนักนั้นระบายความร้อนได้สบาย ส่วนตรงกลางมีลูกเล่นตัดวางทแยงด้วยพลาสติกสีดำผิวเงา
เสาอากาศ 4 ต้น ที่ไม่สามารถถอดได้ แต่สามารถปรับมุมและองศาได้
ด้านล่างจะมีช่องระบายความร้อน พร้อมกับฉลากบ่งบอกข้อมูลประจำตัว ที่ยังสามารถห้อยหรือแขวนได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม
การใช้งานด้านหลัง ปุ่ม WPS ,ปุ่มเปิด/ปิดการทำงาน Wi-Fi ,ปุ่มรีเซ็ต ,พอร์ต Gigabit WAN ,จุดเชื่อมต่อพาวเวอร์ซัพพลาย และ ปุ่มพาวเวอร์ ทางด้านพอร์ต Gigabit Lan 4 ช่อง ที่รองรับการทำ Link Aggregation และ พอร์ต USB 3.0 เพื่อการเชื่อมต่อพื้นที่จัดเก็บข้อมูล
Setup
การเข้ามาเซ็ตอัพการใช้งาน สามารถทำผ่าน URL tplinkwifi.net ที่สะดวกสำหรับมือใหม่ดีครับ โดยถ้าใครไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถทำผ่านแอปบนสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน
การปรับตั้งค่า Time Zone ซึ่งการใช้งานในประเทศไทย ก็ +07.00
มาถึงหน้าของสถานะการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ถ้าใครจะเอาไปต่อเป็น Bridge Mode ก็ไปเซ็ตที่ Router ตัวเดิมรอไว้ แล้วเตรียม User / Password ของ Account PPPoE ให้เรียบร้อย
การจัดการ Wi-Fi ในเบื้องต้น ถ้าใครจะให้รวมทั้งสองความถี่บน SSID ด้วยกัน ก็ใช้ Smart Connect ได้ครับ
ใครที่ชอบอัพเดท Firmware ก็มีฟีเจอร์อัพแบบออโต้ให้ครับ
Setup
หน้าของสถานะของระบบเครือข่าย ที่สะดวกใช้งานง่ายๆ สามารถเปิดปิดการทำงานของเครือข่ายไร้สายได้ทันที
สำหรับซีพียูของทั้งสองรุ่น จะเป็นแบบ Dual Core หรือ แบบ 2 แกน ทั้งคู่ ซึ่งส่วนนี้จะสามารถใช้ตรวจสอบการเชื่อมต่อพอร์ตแลนได้
การจัดการเครือบ่ายไร้สาย สิ่งที่เราควรจะต้องมาเปิดการใช้งานคือ OFDMA ที่จะช่วยทำให้การใช้ลูกข่ายไร้สายพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ได้มีประสิทธิภาพและความไหลลื่นมากขึ้น
ฟีเจอร์ รักษาความปลอดภัย HomeShield ที่ทาง TP-Link นั้นออกแบบมาให้สามารถจัดการผ่านแอปได้สะดวก
การจัดการเครือระบบ Network ที่สามารถปรับแต่งได้ตามการนำไปใช้งาน ส่วน DDNS ทาง TP-Link จะมีบริการของโดนแบรนด์เอง แน่นอนว่าการเซ็ตอัพจะง่ายมากว่าการใช้ NO-IP หรือ DynDNS
TP-Link ID ใครที่ใช้งานอุปกรณ์ IoT หรือ EcoSystem จาก TP-Link ช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดการมากขึ้น
การจัดการระบบเครือข่ายไร้สาย สามารถปรับแต่งการทำงาน สามารถแยกปรับ หรือ ใช้แบบ Smart Connect รวมสองความถี่บน SSID เดียวกัน การตั้งค่าแบนด์วิดท์ สามารถตั้งได้สูงสุดที่ 160 Mhz ในย่าน 5Ghz ก็เป็นไปตามเสาอากาศ 4T4R
พอร์ต USB 3.0 รองรับการใช้งานสำรองข้อมูล หรือ ใช้แชร์ไฟล์ในเครือข่ายได้ ยังรองรับการใช้งานร่วมกับ DDNS เพื่อใช้งานข้อมูลนอกบ้านได้
การจัดการการใช้งานของ Port Forwarding ในการใช้งานเฉพาะทาง หรือ เพื่อความปลอดภัย บางทีจำเป็นต้องเปิดใช้งานด้วย
ความปลอดภัยทางด้านเครือข่าย ด้วยระบบ Firewall ที่ควรจะเปิดไว้ครับ เพราะเดี๋ยวนี้การใช้งานอินเตอร์เน็ตนั้นมีความเสี่ยงมากขึ้น ถ้าไม่ได้เปิด Firewall ก็เหมือนไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยออกไปในที่ชุมชน
การใช้งาน VPN ที่มีความจำเป็นมากกับการใช้งานยุคสมัยนี้
IPv6 ที่ในอนาคตนั้นจะเป็นการใช้งานหลัก ซึ่งในยุคนี้เราเริ่มเห็นได้ว่าถ้าปลายทาง ( Website หรือ Server ) ที่ใช้ IPv6 จะมีประสิทธิภาพที่เหนือระบบเครือข่ายที่เป็น IPv4
อีกหนึ่งจุดเด่นของ TP-Link ที่จะมีฟีเจอร์ OneMesh เพื่อการใช้ Range Extender จาก TP-Link ในรุ่นที่รองรับ มาเชื่อมต่อเพื่อขยายเพิ่มพื้นที่การใช้งานเครือข่ายไร้สาย
ฟีเจอร์ onemesh ใช้งานเครือข่ายไร้สายบน SSID ชื่อเดียวภายในบ้าน เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเราเตอร์ และ Range Extender จากแบรนด์ TP-Link ที่รองรับฟีเจอร์นี้
ส่วนใครนั้นที่ต้องการซื้อ Archer AX72 และ Archer AX23 ไปใช้งานเป็น Access Point ไปเชื่อมต่อกับเครือข่ายเดิมที่ใช้อยู่ ก็สามารถทำได้ทั้งสองรุ่น
ประสิทธิภาพการใช้งาน
สำหรับลูกข่ายที่ใช้ในการทดสอบประสิทธิภาพของเราเตอร์ โดยผมใช้อินเตอร์เน็ตแพ็คเกจ 1000/500 Mbps แต่ลูกข่ายอื่นในบ้าน ยังมีการใช้งานกันอยู่ตามปกติ
1 : Notebook - ROG GL552V ที่อัพเกรดเป็น WiFi 6E : 160 Mhz (Intel AX210 : Windows 11)
2 : Android Smartphone : Realme GT Neo Flash Edition ที่เป็น WiFi 6 : 80 Mhz (Mediatek Dimensity 1200 : Android 11)
3 : iOS Smartphone : Apple iPhone SE 2020 ที่เป็น WiFi 6 : 80 Mhz (A13 Bionic : iOS 15 )
เราเตอร์ ชั้น 2 : ลูกข่าย ชั้น 2
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพในการใช้งานแรก โดยจะทำการทดสอบบริเวณชั้นเดียวกันของบ้าน ประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้นั้นถือว่าทำออกมาได้ใกล้เคียงกับระดับอินเตอร์เน็ตระดับความเร็ว ด้วยค่า Ping ที่ถือว่าไม่สูงมาก ใช้งานได้ไหลลื่น
เราเตอร์ ชั้น 2 : ลูกข่าย ชั้น 1
การทดสอบประสิทธิในชั้นที่แตกต่างกัน โดยการทดสอบครั้งนี้ทำการทดสอบบริเวณชั้นล่างบ้านของบ้าน โดยบ้านนี้ที่ใช้ในการทดสอบมีสิ่งกีดขวางที่โหดกันมาก ซึ่งการใช้งานทดสอบร่วมกับโน้ตบุ๊คความแรงที่มีตกลงมาบ้าง แต่ไม่ได้ตกลงลดไปน่าตกใจ ส่วนการทดสอบผ่านสมาร์ทโฟนที่เรียกได้ว่าตกลงกันพอสมควร แต่ด้วยกำลังขยายที่ดีภายในเราเตอร์ ทำให้ประสิทธิภาพยังคงออกมาได้ประทับใจ
Conclusion
TP-Link Archer AX55 จากการทดสอบที่ทำออกมาได้นั้น ยังคงสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วระดับ Gigabit ได้อย่างไหลลื่น จากการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายในมาตรฐาน WiFi 6 ถ้ามองกันที่ความครอบคลุมความทะลุทะลวงของสัญญาณ ด้วยการที่มีภาคขยายสัญญาณข้างใน การใช้ในบ้าน 2 ชั้น หรือ 3 ชั้น (ควรวางที่ชั้น 2 ของบ้าน) ที่ TP-Link Archer AX55 สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคุ้มในราคาที่จับต้องได้ง่าย ตอบโจทย์การใช้งานคอนเทนต์ระดับ 8K ได้อย่างไหลลื่น มี Homeshield ช่วงป้องกันความปลอดภัยภายในบ้านรวมถึงอุปกรณ์ IoT อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อลูกข่ายจำนวนมากในเวลาเดียวกัน ซึ่ง TP-Link Archer AX55 เป็นอีกหนึ่งโมเดลของ WiFi 6 Router ที่ทาง TP-Link นั้นได้มีการอัพเกรดสเป็คด้วยการใช้หัวใจหลักจาก Qualcomm ผนวกกับแรม 512 MB ในเราเตอร์สเป็คพรีเมี่ยม กับราคาที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้น สำหรับวันนี้ก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Price : TP-LINK Archer AX55 X,XXX บาท
Special Thanks : TP-Link Enterprise(Thailand) Co.,Ltd.