สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน ในการใช้งาน Network-Attached Storage (NAS) ที่จะเรียกได้ว่ามีความสำคัญในการใช้งานเก็บข้อมูลทั้งในระดับองค์กรหรือการใช้งานตามบ้าน ที่ใน NAS สมัยใหม่นั้นฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย ความปลอดภัย และที่สำคัญคือทางด้านประสิทธิภาพนั้นเอง ก่อนหน้านั้นเราคงจะรู้จักกันดีกับ Hard Drive สำหรับ NAS ที่ทาง Seagtate ก็ได้มีชื่อเรียกว่า IronWolf นั้นเอง ที่ได้รับการตอบรับที่ดีในตลาดกลุ่มผู้ใช้ NAS ในบ้านเรา ซึ่งแน่นอนการใช้งาน HDD ร่วมกัน NAS เราจะได้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานอ่านและเขียนได้ตลอดเวลา แต่ปัญหาสำคัญของ HDD นั้นก็คือทางด้านประสิทธิภาพ ,ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล และ การอ่านเขียนข้อมูลแบบสุ่ม ที่เป็นจุดด้อยสำหรับ HDD แน่นอนในยุคการใช้งาน NAS ในสมัยนี้ที่เน้นทางด้านประสิทธิภาพ ระบบเครือข่ายประสิทธิภาพสูงมากขึ้น ผนวกทั้งการใช้งานจากลูกข่ายจำนวนมากในเวลาเดียวกัน การเพิ่มเติม SSD มาใช้งานส่วนนี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้งาน NAS ได้อย่างดีมากขึ้น ที่ในวันนี้เราได้มีโอกาสนำ Seagate IronWolf 110 SSD 1.92TB ที่เป็นน้องใหม่ตัวแรงกับ SSD รุ่นแรกของโลกที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานบน Network-Attached Storage (NAS) แล้วยังมาพร้อมกับการเลือกใช้อุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆในระดับ Enterprise ที่ถูกออกแบบให้มีความทนทานสูงในการเขียนข้อมูลได้สูงจากเทคโนโลยี Durawrite พร้อมรองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ระดับ 24/7 ซึ่ง Seagate IronWolf 110 เป็น SSD อินเทอร์เฟส SATA III 6Gb/s ขนาด 2.5 นิ้ว ที่สามารถใช้งานเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูล หรือ การทำงาน SSD Cache ใน NAS ที่รองรับได้
Network-Attached Storage (NAS) ที่มีการนำไปใช้งานได้หลากหลาย แน่นอนว่าด้วยความจุต่อราคา HDD เพียวจะคุ้มค่าที่สุด แต่เราก็ยังสามารถนำ SSD มาทำ Cache เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ แต่ในยุคนี้ยุคที่ต้องการประสิทธิภาพสูงรองรับการใช้งานจำนวนมาก ก็เลยมี Network-Attached Storage (NAS) ที่ออกแบบมารองรับการใช้งานร่วมกับ SSD ขนาด 2.5 นิ้ว เพียวๆ นอกจากความแรงแล้วก็ยังสามารถประหยัดพื้นที่ในการวางเครื่องได้มากขึ้น
NAS ที่เป็นในลักษณะลูกผสม เน้นในใช้งานทางด้านตัดต่อจากการเชื่อมต่อ Thunderbolt ที่มีการใส่พื้นที่ติดตั้ง SSD เข้ามาให้พร้อมใช้งาน จะเอาไปทำเป็น Cache หรือ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ก็ตามการวางแผนระบบ
สำหรับ NAS ที่เน้นขนาดกระทัดรัด ดูจากสเปคก็ไม่ได้มีเรียวแรงอะไรมากมาย ใช้งานตามบ้านหรือในองค์กรขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ด้วยการออกแบบที่เน้นให้ติดตั้ง HDD/SSD ขนาด 2.5 นิ้ว เท่านั้น ที่บอกเลยว่ายุคสมัยเปลี่ยนไปครับ การใช้งานในบ้านก็ต้องแรงไหลลื่นได้ทุกผู้ใช้งาน
Design & Detail
หน้าจาภายนอกของ Seagate IronWolf 110 SSD ที่ดูแล้วก็เหมือนกับ SSD ขนาด 2.5 นิ้ว ความหนา 7 มม. ปกติที่เราพบกันได้ แต่ความพิเศษมันก็คือ SSD ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานสำหรับ NAS เท่าเป็นหลัก
อินเทอร์เฟสการเชื่อมต่อ SATA III 6Gb/s ที่เราคุ้นเคยกันดี โดยข้างในนั้นจะใช้ SSD Controller จาก Seagate เอง ผนวกกับ 3D TLC Nandflash จาก Toshiba แล้วยังมาพร้อมกับ DDR3 Cache เพื่อช่วยทำให้ประสิทธิภาพแรงดีไม่มีตก
สำหรับการติดตั้งเข้าใน NAS ที่โดยส่วนมากจะต้องใช้น็อตยึดเพิ่มเติม ยกเว้น NAS ที่มีถาด Hot Swap ที่รองรับการติดตั้ง SSD/HDD 2.5 นิ้ว โดยเฉพาะ
< < < Specifications > > >
ที่เราใช้ในการทดสอบเป็น NAS ในระดับเริ่มต้น จากแบรนด์ ASUSTOR ในโมเดล AS3102T
ในการทดสอบนั้นเราได้มีการทดสอบเปรียบกับ HDD ขนาด 3.5 นิ้ว
Performance Test
การทดสอบนั้นทดสอบกันแบบบ้านๆ ใช้งานในบ้านเลย เชื่อมต่อ NAS เข้ากับหลัง Wireless Router ปกติ ด้วยความว่าผมนั้นใช้งาน NAS ภายในบ้านเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว อยากจะลองของหน่อยหลังจากการเปลี่ยนมาใช้ Seagate IronWolf 110 SSD 1.92TB ชีวิตในการตรีมมิ่งหนังของผมจะดีขึ้นเพียงใด
การทดสอบแรกจะให้คอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวนั้นทำการทดสอบความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลจาก NAS เปรียบเทียบระหว่าง SSD และ HDD
ทางด้านซ้ายจะเป็นการใช้ Seagate IronWolf 110 SSD ส่วนทางด้านขวาเป็นการใช้งาน HDD 3.5 นิ้ว มาตรฐานทั่วไป ในส่วนของความเร็วที่ SSD สามารถทำการอ่านได้ 701 Mbps และ ทางด้านการเขียนได้ 1,029 Mbps เทียบกับ HDD สามารถทำการอ่านได้ 660 Mbps และ ทางด้านการเขียนได้ 867 Mbps เราจะเห็นได้ว่าประหยัดเวลาไปได้พอสมควร
การทดสอบที่สองจะให้สมาร์ทโฟนสองเครื่อง ทำการตรีมมิ่งหนังไฟล์ 1080p และ 4K พร้อมกับให้คอมพิวเตอร์นั้นทำการทดสอบความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลจาก NAS เปรียบเทียบระหว่าง SSD และ HDD
ทางด้านซ้ายจะเป็นการใช้ Seagate IronWolf 110 SSD ส่วนทางด้านขวาเป็นการใช้งาน HDD 3.5 นิ้ว มาตรฐานทั่วไป ในส่วนของความเร็วที่ SSD สามารถทำการอ่านได้ 686 Mbps และ ทางด้านการเขียนได้ 999 Mbps เทียบกับ HDD สามารถทำการอ่านได้ 567 Mbps และ ทางด้านการเขียนได้ 770 Mbps เราจะเห็นได้ว่าประหยัดเวลาไปได้พอสมควร เท่ากับว่านอกจากทางด้านความเร็วแล้ว การใช้งาน Seagate IronWolf 110 SSD ยังสามารถช่วยส่งผลประสิทธิการอ่านและเขียนข้อมูลแบบสุ่ม จากหลายผู้ใช้งานพร้อมกันได้ดีมากขึ้น
Conclusion !
Seagate IronWolf 110 SSD กับความเหมาะสมกับการใช้ง่านในโซลูชั่นการใช้งาน Network-Attached Storage (NAS) ที่เน้นไปทางด้านประสิทธิภาพเป็นหลัก เพราะทางด้านความจุ 1.92 TB ด้วยราคาระดับสองหมื่นกว่าบาท นั้นถือว่าราคาต่อความจุที่จะดูแพงไปซักหน่อย แต่ด้วยประสิทธิภาพในการใช้งานในระดับระบบเครือข่าย 1Gbps นั้น Seagate IronWolf 110 SSD ในส่วนจุดเด่นทางด้าน ก็ยังพอที่สามารถช่วยในการใช้งานจำนวนลูกข่ายที่มีการใช้งานพร้อมกันในเวลา่เดียวกัน ทำให้ประสิทธิภาพในการะบบแรงดีไม่มีตก คิดสภาพเวลาตอนเช้าเริ่มทำงานในสำนักงาน ที่พนักงานในองค์กรต้องมาเปิดไฟล์เอกสารพร้อม หรือ เป็น Flash Server ที่ระบบก็ยังสามารถทำงานได้ไหลลื่น ไม่มีสะดุดแล้ว แค่นี้เราก็จะเริ่มเห็นข้อดีของการใช้ Seagate IronWolf 110 SSD ติดตั้งใน NAS กันได้บ้างแล้ว ส่วนทางด้านระบบเครือข่ายที่รองรับความเร็วในระดับ 2Gbps ,5Gbps ,10Gbps หรือ Thunderbolt ที่การใช้งาน Seagate IronWolf 110 SSD ก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลได้ดีมากขึ้น ส่วนใครจะนำไปใช้ประโยชน์จาก Seagate IronWolf 110 SSD ก็ขึ้นกับการวางแผนการใช้งานระบบเครือข่ายและ NAS ที่ดี เพราะว่าจากสเปคของ Seagate IronWolf 110 SSD ที่สามารถทำความเร็วได้ในระดับ 560 MB/s กับการใช้งานของ NAS ทั่วไปแบบ 1Gbps หรือ 1Gbps แบบทีมมิ่ง มันยังไม่สามารถดึงประสิทธิภาพสูงสุดของ Seagate IronWolf 110 SSD เช่นจากการทดสอบที่ทำออกมาให้ได้ชมกัน เอาเป็นว่า Seagate IronWolf 110 SSD มีทางเลือกของความจุตั้งแต่ 240GB ถึง 3.82TB จะใช้งานเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลประสิทธิภาพสูง หรือ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ HDD ด้วยการใช้ SSD Cache ก็ขึ้นกับความต้องการและวางแผนการใช้งานให้เหมาะสม สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Price : 2x,xxx บาท
Special Thanks : Seagate Technology LLC