เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2562 TP-Link จัดงานขอบคุณพาร์ทเนอร์และสื่อมวลชนประจำปี ณ โรงแรมเรดิสัน บลู กรุงเทพ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและเป็นกันเอง ซึ่งภายในงานมีการแถลงผลประกอบการและภาพรวมในปีที่ผ่านมาพร้อมทั้งบอกถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2562
เดวิด เฉิน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท TP-Link Thailand Co., Ltd. เปิดเผยว่า “ปีงบประมาณ 2561 TP-Link มีอัตราการเติบโต 30% โดยมีผลิตภัณฑ์ส่งมอบถึงมือลูกค้ามากถึง 800,000 ชิ้น และถ้าเทียบแบบ Year on Year ระหว่างปี 2560 กับปี 2561 TP-Link โตขึ้นคิดเป็น 200% หรือ 2 เท่า” เดวิด อธิบายว่า สัดส่วนรายได้ที่สำคัญมาจากพาร์ทเนอร์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกมาจากพาร์ทเนอร์อย่าง ISP หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ได้แก่ TRUE, TOT และ CAT นอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้า SMB ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถปิดโปรเจคได้มากกว่า 1,000 โปรเจค
สำหรับปี 2019 ทิศทางที่ TP-Link วางเอาไว้นั้น กลยุทธ์แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย Product หรือสินค้า ซึ่งจะมีการเพิ่มสินค้าใหม่รวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมให้กับผลิตภัณฑ์ โดยผลิตภัณฑ์ Mesh รุ่นล่าสุดที่จะเปิดตัวในปีนี้ จะเน้นคุณสมบัติด้านการให้บริการ Wi-Fi ที่ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างมากยิ่งขึ้น มีฟีเจอร์การโรมมิ่งสัญญาณที่ทำได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถแยกได้ว่าอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อคืออุปกรณ์ประเภทใดเพื่อจัดสรรช่องสัญญาณที่เหมาะสม พร้อมทั้งตรวจสอบ Error ของอุปกรณ์และเชื่อมต่อไปยัง Mesh ตัวอื่นที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้การใช้งานไม่สะดุด
ในส่วนของงานพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ TP-Link ได้เพิ่มความสามารถ ทั้ง Antivirus and Security, Personal Control และ QoS ให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยสินค้าประเภท Mesh ในปี 2019 จะมีตัวเลือกที่ออกมาตอบโจทย์และครอบคลุมการใช้งานให้กับผู้ใช้ทุกระดับ ตั้งแต่กลุ่ม Hi-end ไปจนถึง กลุ่ม New Entry
นอกจากนั้นแล้ว ทาง TP-Link เตรียมขับเคลื่อนเทคโนโลยีด้วยมาตรฐาน 802.11.ax ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว คลื่น 2.4 Ghz มาตรฐาน ax จะให้ความเร็วมากกว่าคลื่นความถี่เดียวกันบนมาตรฐาน ac ถึง 1.9 เท่า และสำหรับคลื่น 5 Ghz บนมาตรฐาน ax จะให้ความเร็วมากกว่าถึง 2.3 เท่า คาดว่าในอนาคต อุปกรณ์มาตรฐาน ax จะมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นในปีนี้
ถัดมาคือการเจาะกลุ่มตลาดองค์กรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากในปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มดังกล่าวได้แก่ โรงแรม โรงเรียน สถานศึกษา ฯลฯ นอกจากนี้ ทาง TP-Link จะยังคงเน้นการให้ความสำคัญกับลูกค้า ISP โดยดำเนินงานร่วมกับพาร์ทเนอร์หลายรายและเดินหน้าจัดส่งผลิตภัณฑ์เครือข่ายที่มีคุณภาพไปพร้อมแพ็คเกจอินเทอร์เน็ต
สำหรับการทำตลาดสมาร์ทโฟนแบรนด์ Neffos ในปี 2019 จะเน้นหนักมากขึ้น โดยดำเนินการภายใต้แนวคิด “ที่สุดของสมาร์ทโฟน...สัญญาณแรง” ตั้งเป้าให้ Neffos ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มสมาร์ทโฟน Entry Level ในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งทาง TP-Link มองว่ากลุ่มตลาดสมาร์ทโฟนระดับ Entry Level ในปัจจุบันยังให้ความต้องการแก่ลูกค้าได้ไม่ดีเท่าที่ควร และ Neffos จะเข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มให้กับตลาดกลุ่มนี้ แผนการตลาดในปีนี้ คาดการณ์ว่า จะมี Active Dealer 1,000 ราย, VIP Dealer 200 ราย และ Core Master Dealer 20 ราย ซึ่งทั้ง 3 ส่วนที่กล่าวมาจะปัจจัยสำคัญที่ทำให้สมาร์ทโฟนแบรนด์ Neffos กลายเป็นเจ้าตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่ม Entry Level