DigiTimes รายงานว่าปีหน้า Nvidia และ AMD อาจจะขายการ์ดจอแพงขึ้น เนื่องจาก DRAM ขาดแคลน โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรกที่จะแพงขึ้น โดยอาจจะแพงขึ้นอีก 5%
DRAMeXchange รายงานว่า DRAM ของชิปกราฟฟิคมีความต้องการสูงขึ้น แต่ผลิตได้ไม่ทัน ทำให้ราคาน่าจะปรับตังสูงขึ้นไปอีก บรรดาผู้ผลิต OEM ต่างก็เริ่มสต๊อกของกันแล้ว ราคาเชื่อว่าจะสูงขึ้นมากที่สุดในบรรดาชิปหน่วยความจำทั้งหมด
อีกเหตุผลคือบรรดาผู้ผลิตชิปต้องปรับตัวไปใช้งาน GDDR6 หลังจาก Nvidia ปรับมาใช้งานในการ์ด GeForce RTX (และในภายหลังก็นำมาใช้กับ GTX ด้วย) เมื่อการ์ดกลุ่มเมนสตรีมหันมาใช้ GDDR6 ความต้องการก็จะเพิ่มขึ้นสูงมากตามไปด้วยนั่นเอง
สำหรับฝั่ง AMD แม้จะยังใช้งาน GDDR5 ที่มีสต๊อกจำนวนมากในตลาด แต่การ์ดยุคใหม่อย่าง Navi เองก็เริ่มหันมาใช้ GDDR6 แล้ว ทำให้การ์ดอย่าง AMD Radon RX 5700 XT และ RX 5700 จะกลายเป็นการ์ดยุคแรกที่ใช้ GDDR6 แบบเต็มตัว รวมไปถึงการ์ดรุ่นรองอย่าง RX 5500 ที่จะใช้งานบนโน้ตบุค และพีซีในราคาที่เอื้อมถึงง่ายขึ้นก็จะใช้ GDDR6 ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเรื่อง RX 5600 ที่จะเป็นการ์ด Navi ตัวที่สาม และเชื่อว่าจะเปิดตัวในงาน CES 2020 ด้วย
แม้การใช้การ์ดจอมาขุดเหมืองจะหมดกระแสความนิยมไปแล้ว แต่การใช้การ์ดจอเพื่อเล่นเกมส์ก็ยังคงความนิยมอยู่ (รวมไปถึงฝั่งดาต้าเซนเตอร์ที่นำไปใช้เป็นตัวเร่งการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์) ทำให้การขาดแคลนหน่วยความจำนี้ส่งผลกระทบไปทั้งวงการ ยิ่งปลายปีหน้าเราจะได้เห็น Xbox Series X และ SONY PlayStation 5 ที่ใช้หน่วยความจำ GDDR6 บนการ์ดจอด้วยเช่นกัน ทำให้ยิ่งขาดแคลนหนักเข้าไปอีก
เชื่อว่าภายในปี 2020 นี้บรรดาผู้ผลิตหน่วยความจำ ไม่ว่าจะเป็น SK Hynix, Samsung และ Micron ต่างก็จะเร่งกระบวนการผลิตให้มี DRAM มากขึ้นกว่าปีนี้ราวๆ 15% ด้วยกัน ถ้าจังหวะดีๆ เราอาจจะไม่ได้ยินข่าว หรือเห็นความแตกต่างด้านราคามากนัก แต่ถ้าเกิดไม่เป็นไปตามแผน เราอาจจะเห็นการ์ดจอปีหน้าราคาพุ่งขึ้นก็เป็นได้
ที่มา - WCCFTech