หลังจาก Razer ขายมือถือมาสองรุ่น (Razer Phone, Razer Phone 2) และทำท่าจะไม่ได้ออกรุ่นถัดไป ทาง Razer ก็ออกมาเผยว่าวงการเกมส์มือถือยังไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้เพราะซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการนั้นยังไม่พร้อม ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์ยังไปไม่ถึงเป้า
ปัจจุบันคู่แข่งที่หันมาทำมือถือเกมมิ่งเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็น ASUS, Xiaomi, Nubia, Vivo ทำให้ Razer ในฐานะผู้ผลิตมือถือเกมมิ่งรายแรกต้องพ่ายแพ้และยุติการพัฒนามือถือใหม่สำหรับเกมมิ่ง แต่สัปดาห์ที่แล้วกลับประกาศความร่วมมือกับ Tencent เพื่อทำให้เกมส์หลายๆ เกมส์สามารถรันบนมือถือ Razer Phone ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ทำให้หลายๆ คนสับสนกับทิศทางของ Razer ในวงการเกมส์มือถือตอนนี้ไม่น้อย
ล่าสุด Min-Liang Tan ซีอีโอของ Razer ก็เผยว่าปัจจุบันนี้ประสบการณ์เกมมิ่งบนมือถือขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตจะปรับแต่ง I/O ของมือถือให้ดีได้มากแค่ไหน รวมไปถึงการเพิ่มฟีเจอร์อย่างเมาส์ คีย์บอร์ด หรือแม้กระทั่งปรับการสัมผัสหน้าจอบางจุดเพื่อให้ทำงานเหมือนปุ่มมาโคร หรือเพิ่มปุ่มพิเศษบนมือถือโดยเฉพาะ แต่ขณะเดียวกันสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้โปรเกมเมอร์รู้สึกลำบากและใช้งานยาก เนื่องจากเกมส์ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ (ที่แต่ละรุ่นก็ไม่เหมือนกัน) ทำให้เกมเมอร์ระดับโปร ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะซื้อมือถือเกมมิ่งไปเล่นถอนตัวออกจากกลุ่มมือถือเหล่านี้
ตัวอย่างที่หยิบยกมาก็เช่นเมื่อเสียบคอนโทรลเลอร์แล้ว เกมส์บางเกมส์จะล็อกเป้าตัวละครอื่นให้อยู่กลางเป้า ยิงได้ง่ายๆ เนื่องจากความละเอียดของหน้าจอไม่สูงนัก ซึ่งทำให้กลุ่มที่ใช้เมาส์และคีย์บอร์ดเสียเปรียบไม่น้อย นอกจากนี้เกมเมอร์ในจีนส่วนใหญ่ก็จิ้มคีย์บอร์ดกับเมาส์เพื่อให้การเล็งคู่แข่งในเกมส์ PUBG Mobile แม่นยำขึ้นกว่าเดิม ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมส์แต่ละคนก็แตกต่างกันไป (แต่โดยรวมแล้วไม่ใช่เรื่องดีนัก)
ทาง Razer อธิบายว่าเพื่อแก้ไขปัญหานี้ จึงได้จับมือกับผู้พัฒนาเกมส์อย่าง Tencnet เพื่อให้มีมาตรฐานกลางในการเล่น แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดไปมากกว่านี้ จึงต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าหลังจากนี้แล้ว Razer กับ Tencent จะเปลี่ยนการเล่นให้แตกต่างไปจากเดิมอย่างไร เพื่อให้ประสบการณ์การเล่นเกมส์ของทุกคนดีขึ้น
ที่มา - Engadget