สวัสดีชาวโอเวอร์คล็อกโซน ความรู้สึกในวันนี้มันที่ให้ความรู้สึกไม่แตกต่างกับอารมณ์ที่เดินไปซื้อ NVIDIA GeForce 256 ที่พันทิพย์ประตูน้ำเลย ซึ่ง NVIDIA GeForce RTX 5080 ในสถาปัตยกรรม Blackwell มี CUDA Core 10752 คอร์ และ AI 1801 TOPS พร้อมหน่วยความจำ GDDR7 ความจุ 16GB แบบ 256 บิต มาด้วยเทคโนโลยี Tensor cores รุ่นที่ 5 ประสิทธิภาพ AI สูงสุดด้วย FP4 และ DLSS 4 ขับเคลื่อนด้วย AI ปรับให้เหมาะสมสำหรับ Ray Tracing Cores รุ่นที่ 4 สร้างขึ้นสำหรับเรขาคณิตขนาดใหญ่ ช่วยให้สามารถรันเกมที่ต้องการกราฟิกสูงสุดและครีเอทีฟแอปพลิเคชั่นด้วยความเสถียรและประสิทธิภาพที่ดี ยังมี NVIDIA Studio สามารถสร้างสรรค์ครีเอทีฟโปรเจ็กต์ให้มีชีวิตขึ้นมาได้เร็วกว่าที่เคย  GeForce RTX 5080 สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Blackwell ใช้ชิปรหัสว่า GB203 ที่ Blackwell เทคนิคใหม่ๆด้วย RTX Neural Shader ใช้ในการบีบอัดพื้นผิวในเกมได้ ใน RTX Neural Faces มุ่งหวังที่จะปรับปรุงคุณภาพใบหน้าโดยใช้ AI โดย DLSS 4 ประกอบด้วย Multi Frame Generation ซึ่งสร้างเฟรมเพิ่มเติมได้สูงสุดสามเฟรมต่อเฟรมดั้งเดิมและสามารถเพิ่มอัตราเฟรมได้มากถึง 8 เท่าเมื่อเทียบกับการเรนเดอร์ดั้งเดิม ที่ทำให้ RTX50 Series มีความน่าสนใจมาก วันนี้เราจะมาแกะกล่อง ลองมอง MSI GeForce RTX 5080 VANGUARD SOC Edition ที่ตัวนี้จะมีความพิเศษที่มันเป็นการ์ดในแบบ Launch Edition ดูว่ามันมีความพิเศษที่ให้ความรู้สึกได้แค่ไหน การ์ดตัวจริงจะมีความอลังการมากเพียงใด ราคาย่อมสูงกว่า NVIDIA GeForce RTX 5080 Founders Edition 999 USD เพราะนี่เป็นการ์ดคัสตอม มีความพิเศษ และ อลังการกว่ากันมาก ที่สำคัญ MSI GeForce RTX 5080 VANGUARD SOC Edition มันมีความแรงเหนือกว่า GeForce RTX 5080 มาตรฐานครับ
 

Package & Bundled

แพคเกจที่มาแบบยิ่งใหญ่อลังการมาก ชวนผมย้อนกลับไปยุค GeForce 256 ความใหญ่ไม่เท่า ถ้าซื้อตัวท็อปมันให้ความอลังการที่ให้ความรู้สึกแบบเดียวกัน 



แพคเกจบ่งบอกชัดเจน VANGUARD SOC Launch Edition ซึ่งเป็น MSI GeForce RTX5080 16GB ในธีมสีดำลาย MSI Lucky อารมณ์ผู้กำกับหนังที่เลิกงานที่ตั้งเป้าเล่นเกมได้

 

VANGUARD SOC Launch Edition ที่แพ็คเกจมีความซับซ้อนดี ที่กล่องสีเป็นแค่ชั้นนอก



ทาง MSI ได้เปิดซีรี่ย์ใหม่กับกล่องจุ่ม(สุ่ม)ใน Lucky ที่จะมีกันหลายรูปแบบ

นอกจากรูปแบบ Lucky ต่างๆ ยังมีตัวลับซึ่งหายาก แต่กว่าจะได้กล่องจุ่มมานี่หลายบาท



ตอนแรกเห็นจากงาน CES2025 คิดว่า MSI ทำสวยๆ แต่คิดไม่ถึงจะมากับรูปแบบกล่องจุ่ม



ถ้า 1 ตัว แถมมากับการ์ดจอ 1 ใบ ถ้าเป็น MSI GeForce RTX5080 เก็บ Luckey ให้ครบชุดนี้ไม่อยากนึกเลย
 

ที่ค้ำการ์ดจอ สามารถปรับระดับความสูงได้ รวมไปถึงพาวเวอร์ใครที่ไม่มี 12V-2x6 หรือ 12VHPWR สามารถใช้หัวแปลง PCIe 8 Pin ที่ให้มาได้ ที่เป็นหัวสีเหลือง ช่วยให้เห็นว่าแน่นหรือไม่
 

Design & Detail

VANGUARD RTX 50 Series SOC Edition จากงาน CES 2025



VANGUARD RTX 50 Series SOC Edition จากงาน CES 2025 



การ์ดจอซีรีส์ MSI Vanguard การจอเพื่อการเล่นเกมระดับพรีเมียม ให้อารมณ์ที่ดูแข็งแรงด้วยลายคาร์บอน พร้อมโครงอลูมิเนียมสีเทาดำ ขนาดการ์ดอยู่ที่ 357 x 151 x 66 มม. หนักเพียง 1945 กรัม ที่มีการใช้ HCI (ตัวเหนี่ยวนำคาร์บอนิลประสิทธิภาพสูง) โช้กผลิตจากวัสดุขั้นสูงที่ช่วยลดเสียงจากโช้กและปรับปรุงการกรองไฟฟ้าเพื่อเพิ่มเสถียรภาพของการ์ดจอ ด้วยเสถียรภาพโซลูชันพลังงานของ DrMOS ให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมด้วยการสูญเสียพลังงานที่ต่ำและการควบคุมแรงดันไฟฟ้าที่ได้รับการปรับปรุง พร้อมกับแผ่นระบายความร้อนคุณภาพสูงช่วยระบายความร้อนเพิ่มเติมให้กับส่วนประกอบสำคัญบนการ์ด มีฟิวส์เพิ่มเติมที่ติดตั้งใน PCB ช่วยปกป้องความเสียหายจากไฟฟ้าได้มากขึ้น และ การใช้ทองแดง 2 ออนซ์ ชั้นทองแดงที่หนาขึ้นภายใน PCB ช่วยเพิ่มการนำไฟฟ้าซึ่งช่วยปรับปรุงการกระจายความร้อนและความน่าเชื่อถือในการใช้งาน

มุมมองจากทางด้านข้างของการ์ด ที่เราจะเห็นว่าฮีทซิงค์ระบายความร้อนที่มันใหญ่อลังการมาก มีการเขียนอย่างชัดเจน นี่คือ GEFORCE RTX พร้อมการเล่นลายคาร์บอนอย่างสวยงาน ถ้ามองที่ขนาด PCB ตัวการจะเป็นไปตามสมัยที่ชุดระบายความร้อนใหญ่กว่ามาก
 

พาวเวอร์ใครที่ไม่มี 12V-2x6 หรือ 12VHPWR สามารถใช้หัวแปลง PCIe 8 Pin ที่มาในกล่อง 



ชุดระบายความร้อน HYPER FROZR THERMAL DESIGN พร้อมการใช้ใบพัดพัดลม 7 ใบ พื้นผิวแบบกรงเล็บ และส่วนโค้งวงกลมได้รับการออกแบบเพื่อการไหลเวียนของอากาศที่เหมาะสมที่สุดพร้อมเสียงรบกวนน้อยที่สุด ขนาด 10 เซ็น ถึง 3 ตัว ท่อฮีทไปท์ถ่ายเทความร้อนจาก GPU และ VRAM ไปยังฮีทซิงค์ได้อย่างรวดเร็วเพื่อการกระจายความร้อนที่เหมาะสมที่สุด ด้วย Wave Curved 4.0 ขอบคลีบที่ออกแบบอย่างแม่นยำพร้อมการออกแบบครีบสูง-ต่ำช่วยเพิ่มการไหลของอากาศและลดความปั่นป่วน Air Antegrade Fin 2.0 รีบมีการตัดเป็นรูปตัว V และการออกแบบสูง-ต่ำที่ช่องลมผ่านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหล แผ่นโลหะด้านหลังเสริมความแข็งแรงพร้อมช่องระบายอากาศช่วยเพิ่มการระบายความร้อน ที่มีการใช้ CorePipe ท่อฮีทไปท์ทรงสี่เหลี่ยมช่วยเพิ่มการระบายความร้อนด้วย Vapor Chamber เพื่อการระบายความร้อนที่เหนือชั้น  

 

Backplate อลูมิเนียมสีเทาดำด้านหลังเสริมแรงพร้อมช่องระบายอากาศและแผ่นระบายความร้อนช่วยเพิ่มการระบายความร้อน ตัดสลับลาย MSI Dragon และ ผิวลายคาร์บอน ที่ให้ลายที่ดูดุดันดี  
 
 

BIOS คู่ สำหรับประสิทธิภาพสูงสุดในโหมด GAMING หรือเสียงรบกวนต่ำในโหมดเงียบ  



ลายคาร์บอนที่ดูสวยงามดี
 

ผลิกมาดูที่ใต้การ์ด เราจะเห็นการเสริมความแข็งแรงในรูปแบบโครงสร้าง การ์ดหนา 3 สล็อต ไม่มีความรู้สึกยวบยาบ
 

สล๊อต PCI-Express x16 5.0 ถ้าใช้งานจริงลดลงไปใช้งาน PCI-Express x16 4.0 ไม่ใช่ปัญหา ถ้ามีงบประมาณซื้อการ์ดพอ



การออกแบบที่ท้ายการ์ดเล่นสีเทาดำ พร้อมโลโก้ MSI Dragon ในรูปแบบไฟ RGB

 

นอกจาก CorePipe ท่อฮีทไปท์ทรงสี่เหลี่ยมช่วยเพิ่มการระบายความร้อนด้วย Vapor Chamber เพื่อการระบายความร้อนที่เหนือชั้น 
 

พร้อมโลโก้ MSI Dragon ในรูปแบบไฟ RGB  



การเชื่อมต่อ DisplayPort 2.1a จำนวน 3 พอร์ต และ HDMI 2.1b 



รูปแบบการแสดงผล สามารถปรับแต่จาก MSI Mystic light หรือ โปรแกรมที่รองรับ Mystic light 
 

ข้อมูลของการ์ดที่แจ้งผ่าน GPU-z ถือว่าเกือบครบถ้วนแล้ว สามารถดูในเรื่องการใช้พลังงาน ความร้อนในส่วนต่างได้อย่างครบ จะมีแต่ Hot Spot ที่แจ้งเป็น 255 องศา
 

System Setup

บรรยากาศขณะการทดสอบ 
 


Performance Test 

Conclusion  

         ถ้ามองกันที่ประสิทธิภาพของ NVIDIA GeForce RTX 5080 สถาปัตยกรรม Blackwell มันไม่สามารถแรงแซง RTX4090 สถาปัตยกรรม Ada Lovelace ได้ ที่ RTX5080 รองรับ 10-bit 4:2:2 GPU codec 3 encoder 2 decoder ทันสมัย ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าออกมาใช้ได้ ยังไม่แรงกว่า RTX4080 จนรู้สึกฉีกขาด ซึ่ง NVIDIA GeForce RTX 5080 ที่มองในแง่ดีที่ต้องใช้พลังแฝงด้วยเทคโนโลยี AI ฟีเจอร์ต่างๆ ที่ต้องมีการเรียนรู้ เช่น DLSS ที่ต้องให้เวลาอัพเดท Driver และ เกม ถ้ารองรับ DLSS 4 ที่ประสิทธิภาพจะดีกว่านี้มาก ยิ่งพลังดิบของ RTX5080 ที่ด้อยกว่า RTX5090 ระดับนึง การมี DLSS 4 ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการเล่นเกมระดับ 4K ได้ลื่น และ สามารถสัมผัส 8K พอได้ แต่ MSI คือเจ้าพ่อในวงการกราฟฟิกการ์ด ประสิทธิภาพยังถือว่ามันแรงเต็มเม็ดเต็มหน่วย ยิ่ง MSI GeForce RTX 5080 VANGUARD SOC Edition ยังถือว่ามีความแรงที่เหนือกว่ามาตรฐานพอสมควร โดยการออกแบบที่ MSI ยังไม่ได้ใช้การระบายความร้อน NVIDIA Double Flow Through ที่เป็น PCB การ์ดจอแบบที่เราคุ้นเคยกันดี ชุดระบายความร้อนอลังการ ที่ตัวการ์ดหนาประมาณ 3 สล็อต หรือ 66 มม. ,สูง 151มม. และ ยาว 357 มม. ที่การติดตั้งกับเคส ATX อาจเป็นเรื่องลำบาก ถ้าอยากได้ ต้องวัดและหาทางยัดเข้าเคสให้ได้ก่อนตัดสินใจซื้อครับ โดยภาพรวมระบบระบายความร้อน สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเสียงรบกวนที่ต่ำมาก พร้อมแสงสี RGB หรือ Mystic light ที่สามารถปรับแต่งได้ สิ่งที่ MSI GeForce RTX 5080 VANGUARD SOC Edition น่าสนใจในการใช้งานมากว่า NVIDIA GeForce RTX 5090 Founders Edition นอกจากประสิทธิภาพและความแรงกำลังดี สิ่งที่ผลประทับใจโดยส่วนตัวมากคือการปล่อยความร้อน ที่นั่งเล่นเกมหรือทำงาน ไม่รู้สึกห้องร้อนแบบ NVIDIA GeForce RTX 5090 Founders Edition ที่จากการทดสอบถือว่าทำได้ดีทั้งการระบายความร้อน กราฟฟิกชิพ ,เมโมรี ,ภาคจ่ายไฟ และ ส่วนอื่นๆ สำหรับราคา RTX 5080 อยู่ที่ 999 ดอลลาร์ เป็นเพียงราคาเริ่มต้น MSI GeForce RTX 5080 VANGUARD SOC Edition ที่มีความแตกต่างและเหนือกว่า NVIDIA GeForce RTX 5090 Founders Edition แพงกว่าราคาที่ NVIDIA ตั้งไว้ และยิ่งสถานะการของขาดราคามันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน วันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ 

Special Thanks : Micro-Star INT'L CO., LTD.