ทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับจอความละเอียด 6K หรือ 8K มักจะทำให้ย้อนนึกถึงตอนแคมเปญโฆษณา GeForce RTX 3090 ในยุคนั้น ที่เหล่า YouTuber ชื่อดังหลายคนถูกมอบหมายให้โชว์ศักยภาพของ GPU ตัวนี้ ว่าพร้อมสำหรับการเล่นเกมที่ความละเอียดระดับนั้นอย่างไร
แต่กว่า 5 ปีผ่านไป จนถึงตอนนี้ ความละเอียด 8K ก็ยังไม่ได้เข้าสู่กระแสหลัก หรือแม้แต่ตลาดเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ดังนั้นคงพูดได้ว่า แคมเปญนั้นไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเท่าไรนัก
ในขณะเดียวกัน จอภาพ 6K และ 8K กลับหาตลาดของตัวเองเจอใน กลุ่มมืออาชีพ แทน ไม่ว่าจะเป็นงานตัดต่อวิดีโอหรือรีทัชภาพ ที่เน้นความแม่นยำของสีและการรองรับ HDR ที่ถูกต้อง มากกว่าพลังประมวลผลกราฟิกของ GPU เสียอีก
อย่างไรก็ตาม จอรุ่นใหม่นี้ก็ยังมีข้อสังเกต — มันไม่ได้ให้ขอบเขตสีครอบคลุม Adobe RGB หรือ DCI-P3 เต็ม 100% ซึ่งอาจน่าผิดหวังสำหรับบางคน อีกทั้งยังเป็นจอ 32 นิ้ว รีเฟรชเรต 60Hz เท่านั้น คนที่คุ้นกับจอรีเฟรชเรตสูงอาจรู้สึกย้อนยุคไปเล็กน้อย แต่ต้องเข้าใจก่อนว่ารุ่นนี้ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์
ASUS ได้ยืนยันแล้วว่า ProArt Display 8K PA32KCX ซึ่งเป็น จอ Mini LED HDR ระดับ 8K สำหรับมืออาชีพรุ่นแรกของโลก จะเปิดวางจำหน่ายทั่วโลกภายในเดือนนี้
จอขนาด 32 นิ้ว ตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ต้องการ ความเที่ยงตรงของสีและความคมชัดของภาพในระดับสูงสุด โดยมาพร้อมความละเอียด 7680×4320 พิกเซล, ระบบ Local Dimming 4032 โซน, และความสว่างสูงสุด 1200 นิต
พาเนล 8K ของมันให้ความหนาแน่นพิกเซลที่ 275 PPI ซึ่งมากกว่าจอ 4K ทั่วไปถึงกว่า 2 เท่า ส่งผลให้ตัวอักษรและรายละเอียดภาพคมชัดเป็นพิเศษ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานตัดต่อหรือออกแบบภาพ
รองรับ Dolby Vision, HDR10 และ HLG, แสดงสีแบบ True 10-bit, ครอบคลุมขอบเขตสี 95% Adobe RGB, 97% DCI-P3, และมีความแม่นยำสีระดับ Delta E < 1
ProArt PA32KCX ยังมาพร้อม Colorimeter แบบมอเตอร์อัตโนมัติ สำหรับการปรับเทียบสีอัตโนมัติหรือตั้งเวลาได้ รองรับการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ ASUS ProArt Calibration, Calman และ ColourSpace CMS
ด้านการเชื่อมต่อมีครบทั้ง Thunderbolt 4 สองพอร์ต, DisplayPort 2.1, และ HDMI 2.1 พร้อมฟีเจอร์ Auto KVM Switch สำหรับใช้งานกับคอมพิวเตอร์สองเครื่องได้อย่างสะดวก
ASUS ยังแถม สิทธิ์ใช้งาน Adobe Creative Cloud ฟรี 3 เดือน มาด้วย (แม้ว่าในความเป็นจริง คนที่ซื้อมอนิเตอร์ระดับนี้ก็มักจะมีอยู่แล้ว) และแน่นอนว่า การไว้ใจ Adobe ในเรื่องระบบสมัครสมาชิกก็ยังถือเป็น “ความเสี่ยง” เล็กน้อยอยู่ดี
ส่วนราคานั้น ASUS ยังไม่ได้เปิดเผย แต่ถ้าให้คาดเดา ก็น่าจะอยู่ในระดับ ราว 1,000 ดอลลาร์ขึ้นไปอย่างแน่นอน
ที่มา: ASUS