ชิปในตำนาน “Intel 80386 (i386)” ครบรอบ 40 ปี!
โปรเซสเซอร์ Intel 80386 ถือเป็นรุ่นที่ 3 ในตระกูล x86 microarchitecture ต่อจาก 8086 และ 80286 และยังเป็น ชิป 32 บิตตัวแรกของ Intel ที่ปูทางให้กับชุดคำสั่ง IA-32 ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้สถาปัตยกรรม x86 ครองตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) อย่างกว้างขวางในเวลาต่อมา
เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 1985 กับรุ่น Intel 80386DX ใช้กระบวนการผลิตขนาด 1.5 ไมครอน มีทรานซิสเตอร์ประมาณ 275,000 ตัว ทำงานที่ความถี่ 12.5MHz
แม้ดูเหมือนตัวเลขจะเล็กเมื่อเทียบกับปัจจุบัน แต่ในยุคนั้นมันคือ “การปฏิวัติ” ของโลกคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว
80386 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชิปที่เร็วกว่า 80286 เท่านั้น แต่มันคือรุ่นแรกที่
-
รองรับ รีจิสเตอร์ 32 บิตแบบเต็มรูปแบบ
-
จัดการพื้นที่หน่วยความจำได้สูงสุดถึง 4GB
-
เพิ่มฟีเจอร์สำคัญอย่าง Protected Mode, Virtual 8086 Mode และ Hardware Paging
ซึ่งทั้งหมดนี้กลายเป็นพื้นฐานของระบบ มัลติทาสก์และหน่วยความจำเสมือน (Virtual Memory) ที่เราคุ้นเคยกันในทุกวันนี้
จุดที่น่าสนใจคือ ระบบปฏิบัติการ Linux รุ่นแรกของ Linus Torvalds ก็ถูกสร้างขึ้นบน Intel 80386 นี่เอง
เพราะคุณสมบัติด้าน Protected Mode และการจัดการหน่วยความจำ ทำให้สามารถสร้างระบบที่มีโครงสร้างแบบ Unix แท้จริง ได้ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเข้ากันซับซ้อนเหมือนรุ่นก่อนหน้า
แม้เวลาผ่านไปหลายสิบปี แต่ ชุดคำสั่ง IA-32 ที่เริ่มจาก 80386 ก็ยังคงเป็นรากฐานของ Windows และ Linux ส่วนใหญ่ จนถึงช่วงปี 2010 เลยทีเดียว
แม้ว่าในปี 1989 Intel จะเปิดตัวรุ่นต่อมาอย่าง 80486 ทำให้ 80386 ค่อย ๆ ถูกแทนที่ในตลาด PC แต่ชิปรุ่นนี้ยังคงถูกใช้อย่างแพร่หลายในระบบ ฝังตัว (Embedded Systems), คอมพิวเตอร์อุตสาหกรรม (Industrial PCs) และแม้แต่ใน อุตสาหกรรมอวกาศ
Intel ผลิต 80386 ต่อเนื่องยาวนานถึงกว่า 20 ปี ก่อนจะ ยุติการผลิตในวันที่ 28 กันยายน 2007
เกร็ดเล็กน้อยที่หลายคนอาจไม่รู้ — สถาปนิกผู้ออกแบบ Intel 80386 คือ Pat Gelsinger ซึ่งต่อมากลายเป็นซีอีโอของ Intel (และเคยถูกบอร์ดกดดันให้ออกจากตำแหน่งในอดีต)
บนชิปทุกตัวของ 80386 ยังมี ตัวอักษร “PG” สลักไว้เป็นลายเซ็นของเขาอีกด้วย
40 ปีผ่านไป Intel 80386 ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของยุคเริ่มต้นแห่ง “คอมพิวเตอร์สมัยใหม่” และเป็นรากฐานที่ระบบปฏิบัติการอย่าง Windows, Linux และเทคโนโลยี x86 ทั้งหมด เติบโตขึ้นมาในวันนี้
ที่มา: HKEPC